“Cooking comes from my heart!” คำตอบที่ดูเรียบง่ายจากChef Edwin Vinke ต่อคำถามว่า“What does cooking mean to you?” อาจเป็นความเรียบง่ายที่ลึกซึ้งนี่เอง ที่สร้างความแตกต่างให้กับอาหารของเชฟแห่ง De Kromme Watergang ร้านอาหารในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่สงบงามอย่างSlijkplaat ประเทศเนเธอร์แลนด์

แม้Slijkplaat จะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อย่างที่เกริ่นไป แต่อย่าได้ประมาทฝีมือเชฟEdwin Vinke เชียว เพราะนอกจากดาวมิชลิน2ดวงที่ประดับร้านเขาแล้ว De Kromme Watergangยังเป็นสมาชิกของ Les Patrons Cuisiniers ซึ่งเป็นสมาคมทางด้านการอาหารที่ทรงค่ายิ่งของเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ร้านที่จะเป็นสมาชิกสมาคมนี้ได้ เชฟจะต้องเป็นยอดฝีมือเท่านั้น…

เมนูของมื้อกลางวันค่ะ 

เริ่มกันด้วยขนมปังก่อนเลย

Amuse Bouche 
ในแก้วช็อตด้านหลังคือ Mojito ginger shot
มาพร้อม Linseed & tapioca crisps with pickles dip

แนะนำให้เริ่มจาก Mojito ginger shot ก่อน เดี๋ยวละลายแล้วจะหมดอร่อย เพราะเย็นชื่นใจจริงค่ะ 

จากนั้นจะเพลินกับLinseed & tapioca crisps with pickles dip เปรี้ยว ๆ 

หรือจะเคลียร์ลิ้นกับ Spicy oyster ก็ได้
ถ้าถามว่าน ว่านจะจบด้วย crisps ค่ะ

คอร์สแรก Seabass & razor clams
Mexican estragon, agrume, almond, basil & tomato
หากรับเป็น wine paring จะเสิร์ฟพร้อม Arrigoni “Le madie” Valdobbiadene DOCG NV, Italy

Agrume ให้กลิ่นรสซิตรัสสดชื่นจริง ๆ จานนี้เหมือนได้อิมเมจของหมู่บ้านริมทะเลอย่าง Slijkplaat เลยทีเดียว 

    
จานต่อมา Smokey carrot & chicken butt
Birambi, peanut & buckthorn
ใช่แล้วค่ะ.. “ตูดไก่” (ใครว่าฝรั่งไม่กินตูดไก่ฮึ???) มาพร้อมกับหนังไก่กรอบ ๆ และแครอทที่เคี่ยวกรำจนรสเข้าเนื้อ คล้ายไส้กรอกเชียวล่ะค่ะ มีความเปรี้ยวหวานจากมะเฟืองมาตัดรสนิด ๆ จานนี้ขอบอกว่าตูดไก่ lover ไม่ควรพลาด.. 


  
ต่อกันด้วย Cuttlefish & pork
Shallot, parsley, beans, lentils & silver onion
เสิร์ฟพร้อม Arrigoni “L’innicente” Pinot Nero di Pavia IGT 2014, Italy

หมูอร่อย!! กรุบ-กรอบ หมึกก็นุ่ม แต่ยังมีความเด้งอยู่ 
อยากได้หมูอีกหลาย ๆ ชิ้นเลย แต่ยังมีคอร์สอื่นรอเราอยู่ 

เมนคอร์สมาแล้วค่ะ Sole & duck liver
Jerusalem artichoke, quince, macadamia nuts & verjus
เสิร์ฟพร้อม Arrigoni “Nabucco” Chainti Tascana DOCG 2014, Italy
คอร์สเมื่อกี้ได้ใจไปแล้ว เลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่การใช้ Jerusalem artichoke หรือแก่นตะวันมาทำเป็นแผ่นกรุบ ๆ แบบนี้ก็เพลินดี 


    

Pre dessert จะเป็น Goat cheese
Honey, thyme, beetroot, apple & pecan nuts 
ชอบมากอีกแล้ว.. มีซ่อนแอบบีทรูทดองไว้ข้างล่างด้วยค่ะ 

 
ของหวานนั้นคือ Dame blanche
Salt toffee, brown rum, olive oil & colostrum ice cream
เสิร์ฟพร้อม Arrigoni “Alfredo Moscato” Lombardy 2014, Italy

Dame blanche หรือ “white lady” เป็นชื่อเรียกของหวานที่ประกอบด้วยไอศกรีมวนิลา ราดด้วยช็อกโกแลตอุ่น ๆ เยิ้มมม ๆ
เนื้อสัมผัสในจานหลากหลาย ไม่หวานมาก มีรสเค็มมาตัดนิด ๆ ชอบเลยค่ะ.. 

ฟินาเล่ด้วยชาหรือกาแฟ.. 

แต่.. ยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เชฟVinke ทำอาหารของมื้อเย็นมาให้ลองด้วย 
North Sea crab & scallops
Avocado, pistachio, cucumber, Granny Smith & huacatay  
สังเกตได้ว่าเชฟนิยมใช้ของดองมาเข้ากับอาหารมาก ให้รสเปรี้ยวที่สนุกไปอีกแบบค่ะ 
 

Turbot & sea snails
Potato, sea vegetables, seaweed & verbena ได้ความเป็นทะเลมาก ๆ 
  

Chef Edwin Vinke แห่งร้านมิชลินสองดาว De Kromme Watergang 
จะมาประจำที่ห้องอาหารโจโจ ณ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 มกราคมนี้เท่านั้น 

สัมผัสประสบการณ์อาหารได้ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ..
3,800 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 6 คอร์สเมนูมื้อกลางวัน
5,800 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 6 คอร์สเมนูมื้อกลางวัน เสิร์ฟควบคู่กับไวน์
5,800 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 8 คอร์สเมนูมื้อค่ำ
8,800 บาท ++ ต่อท่านสำหรับ 8 คอร์สเมนูมื้อค่ำ เสิร์ฟควบคู่กับไวน์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง ได้ที่ https://www.eventpop.me/e/2782-star-studded-chef-edwin-vinke โทร 02-207- 7777 หรืออีเมล์ [email protected] 
ติดตามข่าวสารจาก The St. Regis Bangkok ได้ที่ http://www.stregisbangkok.com/ หรือ https://www.facebook.com/TheStRegisBangkok

ขอบคุณThe St. Regis Bangkok ที่เชิญว่านไปสัมผัสประสบการณ์มิชลินเช่นเคย พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ