เมื่อเอ่ยถึง Ladurée ภาพสีสันอ่อนหวานของมาการองชิ้นน้อยก็ดูจะเด่นชัดขึ้นมา ตำนานกล่าวขานว่ามาการองหน้าตาอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน คือเป็น Macaron shell สองชิ้นประกบกัน มีไส้ระหว่างกลาง ถือกำเนิดขึ้นที่ Ladurée นี้.. 

และในวันนี้ไม่เพียงแต่มาการองของ Ladurée เท่านั้น บัดนี้ Ladurée Salon de Thé ก็ยังมาอวดโฉม พร้อมให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม และเพสตรี้นานาอีกด้วย โดยโซนหนึ่งนั้น จำลองบรรยากาศวับวาวของทีรูมบนถนนชองป์ เซลิเซ่ส์มาไว้ที่นี่ เพียงก้าวเข้ามาก็จะกรุ่นกลิ่นหอมหวานของขนมนานา แน่นอนว่าต้องมีมาการอง ดาวเด่นของ Ladurée ด้วย..

 

อีกด้านหนึ่ง เป็นของที่ระลึกนานา ทั้งชาดี เทียนหอม และอื่น ๆ 

ส่วนของคาเฟ่เทอเรซ ตกแต่งอย่างงดงาม เสมือนหนึ่งนั่งอยู่ในสวนสวยด้วยสีเขียวละมุนตา  
ถัดมาด้านในของซาลอน เพิ่มความขรึมด้วยสีน้ำเงิน และโซนด้านในสุด ความอ่อนหวานของสีกุหลาบถูกขับเน้นด้วยช่อแชนเดอเลีย 

เมนูอาหารนั้นค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่อาหารว่าง สวย ๆ เบา ๆ จนไปถึงมื้อใหญ่กินจริงจัง มาเริ่มกันที่เครื่องดื่มก่อนดีกว่า กับชาเบลนด์ต่าง ๆ ของ Ladurée ซึ่งมีให้เลือกอย่างมากมาย แน่นอนว่าเราเลือกเบลนด์เฉพาะที่มีแต่ที่ Ladurée เท่านั้น คือ Marie-Antoinette ใช้ชาดำจากจีนและอินเดีย สมรสกลิ่นด้วยกลีบกุหลาบ ผลไม้ตระกูลส้ม และน้ำผึ้ง หอมหวานเสมือนหนึ่งเดินเล่นอยู่ใน Petit Trianon 

Thé glacé Mélange Spécial Ladurée
ใช้ชาดำจากจีนและศรีลังกา ผสานความหอมหวานของผลไม้ตระกูลส้ม และกุหลาบเข้าด้วยกันด้วยวนิลาและเครื่องเทศบาง ๆ  สร้างความแตกต่างจาก Marie-Antoinette คือกลิ่นอุ่น ๆ ของเครื่องเทศที่หลอกล้อกับความหวานเคลิ้มของวนิลานั้น ถือเป็นชาซิกเนเจอร์ของ Ladurée มีทั้งร้อนและเย็น

Mojito Litchi แตกต่างจากโมฮิโต้ทั่วไปด้วยความหอมหวานชื่นใจจากเนื้อลิ้นจี่เต็ม ๆ และยังมี lychee liquer นอกเหนือไปจาก rum ตัดเปรี้ยวด้วย lime ช่วยให้เครื่องดื่มแก้วนี้จัดจ้านขึ้น 

เริ่มมื้อกันด้วยขนมปังอุ่น ๆ และเนยBeurre d’Isigny

Lobster Caesar Salad 
ใช้ผักสลัดRomaine สดกรอบ คละเคล้าด้วยเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์อวบแน่นและน้ำสลัดเข้มข้น เสริมด้วยหอมมันไปอีกด้วย Parmesan Cheese และเพิ่มความกรุบกรอบในท้ายสุดด้วย Crouton 

Saumon fumé d’Ecosse
Scottish salmon รมควันชิ้นบาง รับประทานคู่กับซอส Dill และแพนเค้กชิ้นจ้อยอย่าง Blini

Tartare de thon
คลาสสิกด้วยเนื้อทูน่า ใช้เนื้อส้มเพิ่มความหวานและมีหัว Radish ที่ให้ความเผ็ดบาง ๆ ..

Foie gras de canard
Terrineฟัวกราส์จากตับเป็ด สอดไส้ถั่วPistachio ไว้ตรงกลาง เสิร์ฟมาบนซอสPistachio หอมมันและซอสมะม่วงอมเปรี้ยวหวานช่วยตัดรสได้เป็นอย่างดี ทำเก๋มีมาการองPistachio และKugelhopf ขนมปังเค้กลูกเกดของออสเตรียอบกรอบมาให้รับประทานคู่กันด้วย

Vol au Vent
“โว-โลว-วอง” ใช้พัฟเพสตรี้หอมเนย ราดด้วยซอสไก่เนื้อแน่นและเห็ดป่า ความเข้มข้นที่ไม่เลี่ยนเกินของซอสนี้บ่งบองฝีมือในการปรุงอย่างฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี
  

Boeuf
เนื้อ Tenderloin ย่างอย่างMedium Rare มาหนานุ่ม เนื้อดีงามชนิดไม่ต้องบรรยายให้มากความ พร้อมซอสไวน์แดงBordelaise และมะกอกผัดสมุนไพร แซมด้วยมันบดและมันฝรั่งทอดให้ความกรุบกรอบและสนุกในการรับประทาน 

Agneau
เนื้อแกะนุ่ม ๆ ย่างมาอย่างกำลังดีไร้กลิ่นสาบ เสิร์ฟพร้อมผักนานาชนิด
 

Pain Perdu Ladurée
อีกหนึ่งจานเด็ดของที่นี่ ใช้Brioche ย่างอย่างFrench Toast ด้านนอกมีความกรุบกรอบ เมื่อกัดเข้าไปจะพบกับเนื้อในที่ยังนุ่มและหอมเนยเป็นอย่างมาก รับประทานคู่กับเมเปิ้ลไซรัปแท้ ๆ และChantilly cream ช่างดีงาม 
 

Saint-Honoré Pistachio
Saint-Honoré สุดคลาสสิก ใช้Puff Pastry เป็นฐาน ซ้อนด้วยChouxอันน้อยสอดไส้ด้วยCustrad Cream ท็อปด้วย Pistachio Chantilly cream เสริมความเปรี้ยวหวานสดชื่นด้วยชิ้นสตรอว์เบอร์รี่ 

Tarte Citron
ทาร์ตมะนาวรสเข้ม ใช้ฐานเป็นsweet shortcrust pastry ให้กลิ่นรสของมะนาวที่ชัดเจน ถูกใจคนรักความเปรี้ยวแน่นอน

Plaisir Sucré
ใครรักช็อคโกแลตต้องถูกใจขนมหวานชิ้นนี้ ให้รสสัมผัสที่หลากหลาย Dacquoise cake สลับชั้นถั่วhazelnutบด crispy praline, milk chocolateมาในรูปแบบแผ่นช็อคโกแลตบางกรุบ chocolate ganache และ milk chocolate Chantilly cream เต็มเปี่ยมไปด้วยรสช็อคโกแลตในทุกอณู

สำหรับคนรักไอศกรีม ที่นี่ก็มีทั้งไอศกรีมและ sorbet 

 

เป็นเสน่ห์ปาริเซียงแห่ง Ladurée Salon de Thé อันน่าหลงใหลและน่าลิ้มลองไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรือหวาน มาร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์นี้ได้ที่ชั้น M ศูนย์การค้า Siam Paragon 
ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นน่าสนใจของ Ladurée Thailand  ได้ที่ https://www.facebook.com/ladureethailand/

ขอขอบคุณ Ladurée Thailand ที่เชิญว่านน้ำนะคะ พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ