คุณอยากเป็นส่วนหนึ่งของซีเครทโซไซตี้ไหมคะ =)
ครั้งหนึ่งในยุค1920 หรือสมัย Prohibition Era คือช่วงที่รัฐบาลสหรัฐออกกฎประกาศห้ามขายและห้ามดื่มสุรา ส่งผลให้เหล่าชนหัวขบถผู้นิยมในรสชาติของน้ำอมฤตต่างแอบก่อตั้งสถาบันเทิงลับเรียกว่า Speakeasy
แน่นอนว่า Speakeasy ย่อมไม่ง่ายต่อการค้นหา และเป็นการบอกปากต่อปากกันไปถึงพิกัดของ Speakeasy แต่ละแห่ง เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 12 ปี ของห้องอาหารNew York Steakhouse โรงแรมเจดับบลิวแมริออท กรุงเทพฯ จึงนำความลึกลับน่าค้นหาของ Speakeasy มาเติมสไตล์เย้ายวนของนิวยอร์กย้อนยุคในช่วง Roaring Twenties ที่เต็มไปด้วยความหรูหราฟุ่มเฟือย.. จึงเกิดเป็นซันเดย์ บรันช์ แนวใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอร่อยระดับตำนานของNew York Steakhouse
จะเป็นอย่างไรนั้น.. ไปดูกันเลยค่ะ
เริ่มตั้งแต่ตอนโทรจองที่นั่ง จะได้รับ Secret Code เพื่อเข้าสู่ Speakeasy a.k.a. The New York Steakhouse .. น่าตื่นเต้นและเป็นกิมมิคที่น่ารักดีค่ะ
เมื่อมาถึงห้องอาหารNew York Steakhouse และเคาะประตูแล้ว ก็จะมีPaperboy มาถามถึง Secret Code ของเรา บอกผิดอาจไม่ได้เข้านะเออ.. =)
ถ้าบอกได้ถูกต้อง ก็จะได้รับ The New York Steakhouse Sunday Times ซึ่งก็คือเมนูนั่นเอง
จากนั้นก็จะมีมาดามแห่งSpeakeasy มาต้อนรับอีกที.. แหม ก็อุตส่าห์ฝ่าฟันมาถึงซีเครทโซไซตี้ทั้งทีนี่คะ
บรรยากาศของห้องอาหารNew York Steakhouse ก็ยังเข้มขลังเหมือนเดิม จะมีที่พิเศษไปกว่ามื้อค่ำก็ตรงที่มื้อสายนี้ อนุญาตให้พาเด็กมาร่วมโต๊ะได้ บรรยากาศจึงเป็นไปอย่างสบาย ๆ ส่วน Dress Code นั้น ก็ไม่เคร่งครัดมาก ไม่ต้องถึงขนาด Jacket & Slack และจะมีพิเศษอีกก็ตรงที่..
มีมุมแต่งตัวให้สมสมัย Roaring Twenties ถ่ายรูปกันสนุก ๆ ด้วยค่ะ ^_^
แม้บรรยากาศจะเป็นไปอย่างสบาย ๆ กว่ามื้อค่ำ แต่มาตรฐานการบริการยังคงเดิมค่ะ..
เริ่มมื้อกันเลยดีกว่า.. ต้อนรับกันด้วย Welcome Cocktail/Mocktail เลือกได้อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยชนิดของCocktail/Mocktailจะเปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์นะคะ
ถ้าอยากดื่มแบบเป็นเรื่องเป็นราว ก็มีทั้งWineและCocktail Free-Flow ในราคา1,350++ ต่อท่าน หรือจะดื่มแบบพอเพลิน ๆ 3 แก้วในราคา950++ ต่อท่านก็ได้ ซึ่งไวน์ที่นี่นั้น The New York Secret Societyเขาเน้นว่าคัดสรรมาโดยเฉพาะ ซึ่งไม่สามารถหาไวน์ระดับนี้ได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือบุฟเฟ่ต์อื่น ๆ
รับไวน์สักหน่อยไหมคะ ขอเริ่มด้วยไวน์ขาวก็แล้วกันค่ะ
ไวน์พร้อม ขนมปังต้องมา.. มีให้เลือกหลากหลายอย่างค่ะ
ที่ถูกใจมากเป็น Herb Butter ของที่นี่ มากกว่าคำว่าเนยกระเทียม ผสมได้กลมกล่อมมาก ตอนกินสเต็กแกล้งทำเนยหล่นไปซักก้อนยิ่งแจ่ม ( ^_^ )
บรันช์วันอาทิตย์ของที่The New York Secret Societyนี้ ไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์นะคะ แต่จะเป็น 4-course บรันช์ โดยคอร์สแรกคือ The Empire State Seafood Tower
มีทั้ง Maine Lobster, Prawns, Alaskan King Crab, Oyster, Baby Octopus, Black Mussels, Scallops และ Sea Whelks.. ทั้งหมดที่เห็นนี้คือปริมาณสำหรับ 1 ท่านนะคะ ถ้ามาหลายท่าน ปริมาณก็จะตู้ม ๆ เพิ่มขึ้นไปอีก เสิร์ฟพร้อมนานาเดรสซิ่ง เครื่องจิ้มและ Bourbon Sauce คุณภาพสดอย่างไม่ต้องสงสัย..
คงต้องขอรับ Charles Steiner Brut ด้วยหน่อยแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวจะจอดแค่คอร์สแรก..
คอร์สต่อมาเป็นจานเลื่องชื่อของNew York Steakhouse นั่นก็คือซีซาร์สลัด เป็นTableside Preparation ตามแบบฉบับห้องอาหารระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามใจชอบว่าในน้ำสลัดจะใส่หรือไม่ใส่อะไรบ้าง ใครไม่ถนัดAnchovy งานนี้ก็วางใจได้ แต่สำหรับว่าน.. ขอใส่เยอะ ๆ ค่ะ ^_^
กรูต็อง กับเบค่อนบิตส์ ตักโรยได้ตามความพอใจเลยค่ะ น้ำสลัดไม่ข้นมาก เคลือบใบผักBaby Cosแต่บาง ๆ รสชาตินุ่มนวล
เสิร์ฟพร้อมแคนาเดี้ยน เบค่อน อันนี้ถูกใจมาก เค็ม ๆ นุ่ม ๆ เต็มคำ..
ขอลอง Margaret’s Bluff Chardoney 2009 บ้างค่ะ
เอ หรือจะ Brokenhills Estate Classic Dry Wine ดีนะ..
เมนคอร์สนั้น มีให้เลือกหลากหลาย..
คนรักเนื้อไม่ควรพลาด Certified Angus Beef (CAB) Prime Tenderloin หรือ New York Striploin ที่ผ่านการ Aged มาอย่างดี..
สำหรับผู้ถือคติ “Sunday Roast” ก็สามารถชุ่มฉ่ำไปกับรสเนื้อ Australian Wagyu Prime Rib Roast เสิร์ฟพร้อมซอสMorel Mushroom, Bordelaise Wine, Green Peppercorn หรือBéarnaise
หรือหากชอบแนว”รักพี่เสียดายน้อง” หรือ”Foreign Correspondence” กับจานเด่น The Tournedos สั่งหนึ่งได้ถึงสอง ทั้ง CAB Prime Angus filet beef และ pan-fried goose liver เสิร์ฟพร้อมPort wine glaze
หรือจะเป็นจานคลาสสิกอีกจาน The Surf ‘n’ Turf เป็น CAB Prime Angus filet beef ควงคู่มากับ Maine Lobster เสิร์ฟพร้อม Herb butter sauce
นอกจากนี้ก็จะมี The Snow Fish เคลือบครัสต์ด้วยพริกไทยดำหอม ๆ หรือจะ The Rack of Lamb จาก Gippsland เสิร์ฟพร้อมRosemary jus สำหรับผู้ไม่รับประทานเนื้อวัว..
ซึ่งจานหลักที่ว่านเลือกในวันนั้นคือ CAB Prime New York Striploin 8 Oz. ..
ในวันที่ลูกค้าไม่หนาแน่นมาก สามารถรีเควสต์เป็น Black Pepper Crusted ได้นะคะ เป็นเมนูโปรดเวลาว่านมาNew York Steakhouse เลยแหละ..
เสิร์ฟพร้อมมันบดเนื้อเนียน เบบี้แครอทที่เอิบอาบไปด้วยHoney butter และถั่วลันเตาที่แสนหวานนุ่ม..
สำหรับคนไม่คุ้นFine Dine เวลารับประทานถั่วลันเตาแล้วเจ้าถั่วกลม ๆ ตัวดีมักกลิ้งไปมา.. อาจจะไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงกับมันตี ไม่ยากเลยค่ะ แค่เอาส้อมบี้(เบา ๆ )ให้ถั่วแบน แค่นี้ก็ตักถั่วขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย..
นอกจากผักเคียงแล้ว ก็มีมัสตาร์ดแบบต่าง ๆ มาให้เลือก ว่านชอบPommery Mustard ค่ะ (>_< )
ซอสนอกจากBourbon แล้วก็มีเกรวี่ และ.. แจ่ว นับว่ารู้ใจคนไทยมาก 555
สั่งไประดับMedium Rare ซึ่งห้องอาหารระดับนี้ ย่อมแน่นอนว่าได้ตามสั่งอยู่แล้ว..
แน่นอนว่าเนื้อดี ก็ต้องคู่กับไวน์แดง เลือกได้ตามชอบใจเลยค่ะ
ส่วนตัวว่าน ค่อนข้างถูกใจ Brokenhiils Estate Classic Dry Red มากกว่าตัวอื่น..
ผ่านกันไปแล้วสามคอร์ส มาถึงคอร์สสุดท้าย อันได้แก่.. ของหวาน <3
มีให้เลือกกันถึงสี่อย่าง Big Apple Pie ใช้แอปเปิ้ลGranny Smith เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวนิลาTahiti
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงนิวยอร์ก ก็ต้องมีNew York Cheesecake เนียนนุ่มด้วย Philadelphia Cream Cheese เสิร์ฟพร้อมบลูเบอร์รี่
หรือจะ.. Baked Alaska เสิร์ฟพร้อมมิกซ์เบอร์รี่ ข้างในเป็นราสป์เบอร์รี่ซอร์เบ และเฮเซลนัทเจลาโต้
ทีแรกว่านก็สองจิตสองใจ ระหว่างBaked Alaska หรือจานนี้.. แต่สุดท้ายก็เลือกเป็นจานนี้ค่ะ Brooklyn Chocolate Lava Cake ซึ่งถึงแม้Lava Cake เดี๋ยวนี้จะเป็นขนมที่หาทานที่ไหนก็ได้ แต่ต้องขอบอกว่าของ New York Steakhouse นั้น ทั้งสมดุลรสชาติและรสสัมผัสแตกต่างจากของที่อื่นอยู่พอสมควร ควรค่าแก่การสั่งมารับประทานค่ะหากชอบLava Cake
แม้จะจบสิ้นทั้ง 4 คอร์สแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้..
ก่อนจากลา Paperboy มีของฝากมาให้เราได้ระลึกถึงซีเครทโซไซตี้แห่งนี้ค่ะ..
Bourbon Steak Sauce อันลือชื่อของ New York Steakhouse นั้นเอง <3
เรียกได้ว่าเป็นมื้อสายวันอาทิตย์ที่ทีแรกแอบคิดว่าจะอิ่มไหม เพราะในราคา2,400++ต่อท่าน โดยเป็น 4-course บรันช์ ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์นั้น ก็เรียกได้ว่าแรงอยู่.. ปรากฏว่าเล่นเอาแปร้ค่ะ สมความตั้งใจของทางคุณBruno Rotschaedl Director Food & Beverage ที่อยากคงคุณภาพ รสชาติและมาตรฐานของNew York Steakhouse ไว้ให้เหมือนอย่างในมื้อค่ำ แต่เป็นในราคาที่จับต้องได้ และบรรยากาศสบาย ๆ ที่ทุกคนในครอบครัวจะสามารถรื่นเริงกับมื้อสายวันอาทิตย์ได้อย่างเต็มที่กับคอนเส็ปต์เก๋ ๆ ของThe New York Secret Society
สำหรับคุณที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของThe New York Secret Society สามารถสำรองที่นั่งเพื่อรับSecret Code ได้ที่ 02 656 7700 ต่อ 4240
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.marriott.com/hotels/travel/bkkdt-jw-marriott-hotel-bangkok/
https://www.facebook.com/JWMarriottBkk
ขอบคุณทางโรงแรม JW Marriott กรุงเทพที่เชิญว่านร่วมสัมผัสประสบการณ์The New York Secret Society Sunday Brunch นะคะ แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ