หาดใหญ่.. เมืองแห่งตลาดกิมหยง แหล่งช็อปปิ้งของซื้อของฝากอันดับต้น ๆ ของเขตแดนทางภาคใต้ แต่นอกเหนือจากตลาดกิมหยงแล้วนั้น หาดใหญ่ก็ถูกมองเหมือนเป็นทางผ่านไปยังประเทศมาเลเซียเสียมากกว่า ทั้งที่จริงแล้วนั้น หาดใหญ่ยังมีความน่าสนใจอีกมาก Welovetogoจะพาไปดูกัน =)
เราออกเดินทางกันแต่เช้าด้วยไฟล์ท FD3116 ของ Air Asia ตรงดิ่งถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่แล้วก็ลุยเที่ยวกันเลยค่ะ
จุดหมายแรกที่พวกเราไปกันคือHat Yai Park ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Hat Yai Ice Dome ค่ะ http://www.hatyaipark.com/hatyaiicedome/
Hat Yai Ice Dome เป็นความร่วมมือระหว่างเทศบาลนครหาดใหญ่ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการแสดงประติมากรรมน้ำแข็งระดับโลก โดยได้รับความร่วมมือจากเมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในการสนับสนุนช่างแกะสลักน้ำแข็งที่มีฝีมือระดับโลก มาสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมอันงดงาม ภายใต้อุณหภูมิ -15 c โดยที่นี่ทุกปีจะทุบน้ำแข็งทิ้งทั้งหมด แล้วให้ช่างจากเมืองจีนมาสร้างใหม่ ซึ่งจะใช้ช่างจำนวนมาก และทางหาดใหญ่ไอซ์โดมได้ทำสัญญากับประเทศจีนไว้ในเรื่องการก่อสร้างน้ำแข็งเหล่านี้เหมือนว่าเป็นลิขสิทธิ์ของที่นี่ ถ้าในเมืองไทย จังหวัดใดจะทำแบบนี้บ้าง ก็ต้องทำเรื่อง ทำหนังสือ มาขอลิขสิทธิ์จากทางที่หาดใหญ่นี้เท่านั้น เรียกได้ว่าในไทยหาดูที่อื่นได้ยากเชียวล่ะค่ะ
สำหรับปีนี้ซึ่งเป็นปีที่5แล้ว ก็มีปฏิมากรรมให้ดูและสนุกสนานกัน 18 ชิ้น ตามนี้เลยนะคะ
1. ทูตสันถวไมตรี (ช้างไทยและหมีแพนด้า)
2. ยักษ์ไทย (ยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์)
3. กำแพงเมืองจีน
4. มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี
5. พระปรางค์วัดอรุณ
6. สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้
7. สไลเดอร์คิงคองยักษ์
8. โครงการตามพระราชดำริ
9. เขื่อนภูมิพล
10. ตุ๊กตาประจำชาติอาเซียน
11. รถลากจีน
12. ภูเขารัชมอร์
13. ภูเขาไฟฟูจิ
14. โคลอสเซียม
15. สฟิงซ์
16. รถฟักทอง
17. รองเท้าบูทยักษ์
18. รถไฟมหาสนุก
Hat Yai Ice Dome เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา
อัตราค่าเข้าชม ก็ตามนี้เลยค่ะ ซึ่งรวมการบริการเสื้อโค้ทและถุงมือแล้ว แต่ถ้าอยากใส่รองเท้าบูท ต้องเช่าเพิ่มเติมนะคะ
– ชาวไทย เด็ก (ความสูง 100 cm. – 150 cm.) 100 บาท , ผู้ใหญ่ 200 บาท
– ชาวต่างชาติ เด็ก 200 บาท , ผู้ใหญ่ 300 บาท
– คนพิการ , ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และเด็กสูงไม่เกิน 100 ซ.ม. ชมฟรี
ข้อควรระวังในการเข้าชมก็มีนิด ๆ หน่อย ๆ
1. ควรปิดโทรศัพท์มือถือก่อนเข้าชมภายในอาคาร
2. ควรปิดกล้องถ่ายรูป / กล้องวีดีโอ ภายหลังออกจากอาคารไม่น้อยกว่า 10 นาที (เดี๋ยวกล้องน็อคค่ะ)
3. ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
4. ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนการเข้าชม
จากความหนาวเหน็บของ Hat Yai Ice Dome เราก็ไปไหว้พระขอพรกันต่อค่ะ ถ้าขับรถมาเอง ให้ขับขึ้นเขามาจอดที่ลานบริเวณพระพุทธมงคลมหาราช เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทอง ซึ่งบริเวณใต้ฐานพระ ด้านล่างจะทำเป็นห้องที่มีรูปปั้นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังต่างๆ รวมไปถึงภาพประวัติพระพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติจนนิพพาน ส่วนบริเวณลานด้านหน้าขององค์พระนั้น จะเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองหาดใหญ่ได้แบบเต็มตาพาโนราม่าเลยล่ะค่ะ และตรงจุดชมวิวนี้ จะมีบันไดทางลงเชื่อมไปยังองค์เจ้าแม่กวนอิมซึ่งอยู่ด้านล่างได้ด้วยนะคะ
จากนั้นพวกเราก็เดินไปขึ้นเคเบิลคาร์ค่ะ เพื่อข้ามไปไหว้พระต่ออีกฝั่ง.. ไปกันเล้ยยยย
เคเบิลคาร์จะเปิดให้บริการทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 20.00 น. ส่วนอัตราค่าบริการของเคเบิลคาร์ก็ตามนี้เลยค่ะ
– ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก (สูงไม่เกิน150 ซ.ม.) 50 บาท เด็กสวมเครื่องแบบนักเรียน/นักศึกษา และผู้ใหญ่สวมเครื่องแบบข้าราชการ 50 บาท
– ชาวต่างชาติ 200 บาท
เมื่อออกจากสถานีเคเบิลคาร์สถานีที่4แล้ว ก็จะเป็นที่สถิตย์ของท้าวมหาพรหม และช้างเอราวัณสามเศียร
จากนั้นเราก็ให้รถตู้ขับจากฝั่งพระมาฝั่งเทพเพื่อมารอด้านล่าง หลังสักการะองค์เทพกันเสร็จ เราก็นั่งรถต่อไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมกันค่ะ
ทางเข้าของฝั่งเจ้าแม่กวนอิม จะเป็นรูปปากมังกรที่ทำเป็นบันไดเพื่อไปไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ตามคติจีน ส่วนบริเวณด้านนอกเป็นบริเวณพระโพธิสัตว์กวนอิม ธูปจะมีขายอยู่ด้านล่าง ให้มาเป็นกำใหญ่ ๆ เลยค่ะ แล้วคนขายจะแนะนำว่าจะต้องจุดธูปไหว้ตรงไหนบ้าง เราเริ่มไหว้จากด้านล่าง แล้วมาไหว้ตรงกลางลาน แล้วค่อยขึ้นไปไหว้อีกครั้งด้านบนซึ่งเป็นเจ้าแม่กวนอิมองค์สีขาวใหญ่สุดตรงจุดนี้ ด้านบนจะมีกระถางธูปเยอะมาก เราก็ไล่ปักไปเลยตามที่แม่ค้าแนะนำเรามา
อิ่มใจอิ่มบุญกันแล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาอิ่มท้องกันบ้าง วันนี้เรากินกันบนเขาค่ะ.. ใช่ค่ะ ชื่อร้านบนเขาเลย ^_^
ร้านบนเขาตั้งอยู่ใน Hat Yai Park เลยค่ะ มีระเบียงที่สามารถนั่งรับลมชมวิวของเมืองหาดใหญ่ได้อย่างเต็มตา โดยเฉพาะในช่วงยามเย็น อาทิตย์ลับฟ้าก็จะสวยมาก ส่วนกลางคืนก็จะเป็นแสงไฟระยิบระยับของเมืองหาดใหญ่ค่ะ ถ้าอยากโทรจองก็ 074-211929, 074-218124 เลยค่า
ที่ได้กินวันนั้นก็หลากหลายมากเลยค่ะ ทั้งทะเลผัดฉ่า
อิ่มท้องแล้วก็ท่องหาดใหญ่กันต่อ จุดหมายต่อไปของเรา เสริมสร้างพลังบุญกันอีกแล้วกับพระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล หรือเจดีย์แสตนเลสนั่นเอง..
พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคลนี้ทำด้วยแสตนเลสทั้งหมด และสามารถเดินเข้าไปด้านในเพื่อไหว้พระ และเดินต่อขึ้นชั้นบนเพื่อไปโยนเหรียญใส่บาตรพระประจำวันเกิดได้ เวลาเดินลงมาก่อนออกประตู ให้เดินออกประตูตามวันเกิดที่ระบุไว้ที่ประตู
ในตอนกลางคืนโบสถ์นี้จะมีสีสันคล้ายสีรุ้ง สวยงามมาก เนื่องจากได้รับแสงตกกระทบจากบริเวณรอบ ๆ ทำให้สีสลับกันไปมาคล้ายกับสีรุ้ง
เติมเต็มพลังบุญกันอย่างเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลาเติมเต็มพลังพุงกันอีกครา..
ที่ร้านน้ำเคียงดิน http://www.namkiengdin.com/index.php
แน่นอนว่าต้องไม่พลาดขาหมูเยอรมัน
กุ้งทอดราดซอสมะขาม
ยำน้ำเคียงดิน
ทอดมันกุ้ง
ใบเหลียงผัดไข่
แกงส้มกะพงสองน้ำ
ค่ำคืนแล้วแต่ยังคึกคัก เลยไปเดินย่อยกันต่อที่ถนนคนเดินสงขลาแต่แรก
ถนนคนเดินสงขลาแต่แรกนี้นั้น เป็นถนนคนเดินที่ขายของเยอะมาก อยู่ริมกำแพงเมืองสงขลา หลัก ๆ ก็จะมีขายอาหาร ขนมโบราณต่าง ๆ ให้เลือกซื้อเลือกกินกันเยอะแยะมากมาย และขายนานาเสื้อผ้าเครื่องประดับให้ช็อปกันอย่างจุใจเช่นกัน และมีบ้านป๋าเปรมที่ป๋าเปรมอยู่มาตั้งแต่เกิดเลยด้วย ซึ่งถนนคนเดินนี้ จะมีช่วงหัวค่ำของวันศุกร์ และวันเสาร์ค่ะ
หมดวันแล้ว พักผ่อนกันดีกว่า..
ค่ำคืนนี้ Welovetogo หลับฝันดีกันที่โรงแรมเดอะเบด หาดใหญ่ http://www.thebedhatyai.com/
โรงแรมเดอะเบดเป็นโรงแรมเก๋ ๆ ที่มีจุดเด่นที่ภาพที่ประดับฝาผนังทุกห้องจะแตกต่างกันไป โดยศิลปินผู้เขียนจะบอกเล่าเรื่องราวของนิทาน หรือนิยายที่แตกต่างกันออกไป แล้วที่หลับสบายก็เพราะทุกห้องจะมีอโรม่ากรีนที กลิ่นชาเขียวด้วยล่ะค่ะ ^_^
หลังจากหลับสบายยย เราก็ตื่นเช้ากันมาใส่บาตรตั้งแต่ 06.00 น. ตรงบริเวณสี่แยก ซึ่งเดินกันเรื่อย ๆ มาจากโรงแรมใช้เวลาประมาน 5 นาทีเองค่ะ
หลังใส่บาตรเสร็จแล้ว ก็เดินดูของกินอาหารในตลาดกิมหยงกันต่อ ซึ่งถึงพวกร้านพวกขายของเครื่องใช้ไฟฟ้าจะยังไม่เปิด ก็มีพวกบรรดานานาขนม ช็อกโกแลต ถั่ว ผลไม้ต่าง ๆ และของสด ผัก ปลา ให้เลือกกันอย่างมากมาย แบบว่า โอ๊ย เยอะ! ถ้าเราข้ามไปอีกฝั่งก็คือตลาดสันติสุขที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าขายเยอะแยะเลยค่ะ ขากลับ ช็อปกันเต็มเหนี่ยวซื้อของเต็มสองมือ เดินกันไม่ไหว เราเลยนั่งรถกระป๊อกลับกัน เขาคิดเหมา 100 บาท นั่งกัน 5 คน ก็ตกคนละ 20 บาทค่ะ
ขอบคุณ Air Asia ที่ร่วมสนับสนุนการเดินทางของ Welovetogo นะคะ
บอกลาเมืองหาดใหญ่กันตรงนี้ เพื่อเก็บความประทับใจกลับบ้านและมาบอกเล่าให้หลายคนรู้ว่าหาดใหญ่มีอะไรมากมายกว่าตลาดกิมหยงนะคะ แน่นอนว่าไปหาดใหญ่คราวหน้า คงมีที่ ๆ หมายตากันไว้แล้วใช่ไหมคะ ^_^
แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ