พระตำหนัก วังรื่นฤดี เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันไม่ค่อยเปิดให้ผู้ใดเข้าเยี่ยมเยียนนัก.. ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสอันดีที่มูลนิธิเพชรรัตน – สุวัทนา ได้เชิญร่วมชมนิทรรศการแห่งแรงบันดาลใจ “สามขัตติยนารีแห่งสยาม ทรงสร้างเพื่อประโยชน์สุขของคนไทย” เช่นนี้ จึงต้องขอบอกต่อ.. อย่างเต็มใจยิ่ง..
บ้างมีผู้สงสัยว่า พระตำหนักวังรื่นฤดี และ พระตำหนักสวนรื่นฤดีนั้นต่างกันอย่างไร.. พระตำหนักสวนรื่นฤดี ตั้งอยู่บนถนนราชสีมาตัดกับถนนสุโขทัย เป็นที่ประทับส่วนพระองค์แห่งแรกของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี แต่ครั้นเมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จออกไปประทับ ณ ประเทศอังกฤษ เกิดทั้งสงครามโลกครั้งที่สองและความขัดสนขึ้นกันถ้วนทั่ว จึงทรงขายที่ดินสวนรื่นฤดีให้แก่กองทัพบก เพื่อทรงนำเงินไปใช้สอยระหว่างสงคราม และพระราชทานเงินบางส่วนสมทบทุนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ต่อมาทั้งสองพระองค์ ทรงพระดำริที่จะเสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร จึงทรงซื้อที่ดินจากนายเออี นานา ในท้ายซอยสันติสุข สุขุมวิท 38 พื้นที่กว่า 7 ไร่ ซึ่งก็คือพระตำหนัก วังรื่นฤดีนี้เอง แม้ผ่านวันเวลามาห้าสิบกว่าปีแล้ว ก็ยังคงความสง่างามอยู่ไม่เสื่อมคลาย.. [ขอบคุณข้อมูลจากWikipedia]
การออกร้านน้ำชาจากพระราชนิเวศน์มฤคทายวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการแห่งแรงบันดาลใจ “สามขัตติยนารีแห่งสยาม ทรงสร้างเพื่อประโยชน์สุขของคนไทย” ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในอภิลักขิตสมัย 150 ปีพระราชสมภพสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ รายละเอียดวัน-เวลา-สถานที่ การแต่งกาย หมายเลขติดต่อนัดหมาย ตามภาพนี้เลยค่ะ
ชุดน้ำชานี้เป็นชุดน้ำชา Mariage Frères เสิร์ฟพร้อมกับขนมจากยอดฝีมือแห่งวงการขนมหลายท่าน ในราคาแสนน่ารักเพียง 569 บาทต่อท่าน หากแต่ใครจะนิยมชมชื่น จ่ายมากกว่านี้ก็ไม่ว่ากัน เพราะจะได้ร่วมสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถเพื่อการศึกษา..
Mariage Frères .. สำหรับผู้รักชา ชื่อนี้คงไม่ต้องบรรยายให้มากความ มีมาให้เลือกเสพสำราญถึง 6 ชนิด ทั้ง Jasmin Mandarin / Thé à l’Opéra / Rouge Bourbon / Earl Grey French Blue / Marco Polo / Darjeeling Master
ขนมนั้นก็มีทั้งอย่างไทย ได้แก่หอมนวล(ชื่อทางเหนือของลำดวน) ปั้นขลิบไส้ปลาทอด อะลัว
สาคูไส้หมูและไส้ปลา อีกทั้งข้าวตังเมี่ยงลาว อย่างหลังนี้ค่อนข้างถูกใจ ด้วยไม่หวานเจื้อยแจ้วจนเกินไป มีรสมีชาติดีใช้ได้ ปั้นขลิบไส้ปลาทอดก็ดีงามอยู่ค่ะ
พูดเลยว่าสิ่งที่เป็นหนึ่งแรงจูงใจทำให้อยากมางานนี้มากเป็นหลายเท่าก็คือ.. ขนมสามสิ่งนี้
French Prune Brunette อาจารย์กุ้ง นันทนา นาควัชระ .. นุ่ม ชุ่มฉ่ำ
Canele de Bordeaux อาจารย์บอล Bake it Make it .. กรุบนอก หนึบใน
Scone อโณทัย .. เนื้อร่วน หอมเนย
อีกทั้งแซนด์วิชฝีมือห้องเครื่องของวังรื่นฤดี แอบกระซิบว่าแซนด์วิชไข่ห้ามพลาดนะคะ
บรรยากาศร่มรื่น งดงาม.. เสียดายปีนี้หนาวช้า มิฉะนั้นคงสำราญกว่านี้หลายเท่านัก..
เราเลือกชา Marco Polo กันค่ะ steep ชาได้ดี สมกับที่มีคนของ Mariage Frères มาคอยดูแล..
รับกับขนมต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว..
หากจะถามว่า ขนมแต่ละชิ้น พิเศษและแตกต่างอย่างไร อยากจะขอยกความใส่ใจของอาจารย์กุ้งมาให้ได้อ่านกันค่ะ
“ว่าด้วยFrench Prune Brunette:
ขนมนี้ ทำจากพรุนฝรั่งเศส ที่ต้องนวดทีละลูกให้ผิวนิ่มและเนื้อเนียน
กับเนยฝรั่งเศส แป้งสาลีอเมริกันชนิดไม่ฟอก วนิลาจากมาดากัสการ์ ไข่SPure
และรัมจากไหนไม่ทันอ่าน
เวลาทำ ตามประสาขนมอบเป็นถาด เนื้อขนมตรงขอบไล่มาจนถึงตรงกลาง จะไม่เหมือนกัน ปกติส่วนตรงกลางจะหนึบอร่อยสุด ขอบก็จะฟูแห้งกว่าตรงอื่น รสอร่อยแต่อร่อยต่างดัน
แต่เมื่อฉันว่าตรงกลางจะอร่อยสุด ทีนี้ถ้าฉันจะตัดเป็นชิ้น แล้วใครจะได้ชิ้นอร่อยสุด หรืออร่อยเกือบสุด หรืออร่อยไม่เท่าไหร่นั้น ทำเอาฉันประสาทกินมาก ถ้ากินกันเองก็ไปอย่าง แต่นี่จะคิดสตางค์เขา
ฉะนั้น ในการอบหนึ่งถาด ฉันจะต้องเฝ้าหน้าเตา ตั้งนาฬิกา จับเวลาเป็นช่วงๆ แล้วเอาฟอยล์ปิดเป็นส่วนๆแต่ละช่วงเวลา ให้โดนความร้อนมากน้อยเท่ากันมากที่สุด
เพื่อพยายามให้เนื้อขนมทั้งถาดออกมาใกล้เคียงกันมากที่สุด แต่กระนั้นด้วยเตาอบติ๊ง ก็ท้าทายจนจะหมดแรง
ทั้งหมดนี้ ทำสุดความสามารถให้อร่อยที่สุด
แต่เมื่อเพื่อนจะขอไปชิม ฉันก็ยังประสาทกินสุดๆเช่นกัน
เอาเป็นว่าใช้ของดีที่สุด และพยายามที่สุด
เป็นขนมที่ฉันกินแล้ว อยากกินอีก จึงควรหาทางไปชิม
เพราะทำได้เท่านี้แหละ
จบ”
รับขนมน้ำชากันสำราญแล้ว มาชมนิทรรศการกันดีกว่า..
มีพาเข้าชมเป็นรอบ ๆ แนะนำว่าให้จองตามเวลาที่ต้องการก่อนจะดีมาก ๆ ค่ะ
นิทรรศการ”สามขัตติยนารีแห่งสยาม ทรงสร้างเพื่อประโยชน์สุขของคนไทย” แบ่งออกเป็น 3 ส่วนค่ะ
ส่วนที่ 1 “นาถแห่งแผ่นดิน”
ว่าด้วยพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ
เครื่องประดับประกอบนิทรรศการส่วนที่หนึ่ง มี 3 ชิ้นสำคัญคือ..
เหรียญแฟเบร์เช่
เหรียญหมู หรือเหรียญเฉลิมพระชนมพรรษา 50 พรรษา พ.ศ. 2456
ทรงสะพัก อายุกว่า 100 ปี
มีความละเอียดงดงาม แสดงถึงฝีมือชาววังชั้นสูง และเก็บรักษาไว้ได้อย่างดียิ่ง
ส่วนที่ 2 “ขัตติยนารีผู้ปิดทองหลังพระ”
ว่าด้วยพระประวัติและพระกรณียกิจของงสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
เครื่องประดับประกอบนิทรรศการส่วนนี้ มี 3 ชิ้นสำคัญเช่นกันคือ..
เหรียญรัตนาภรณ์ ชั้น 1 รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และ รัชกาลปัจจุบัน
ภายในนิทรรศการ จะมีมีน้อง ๆ จาก โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย และโรงเรียนราชินีซึ่งมีใจกตัญญูต่อพระผู้ทรงพระคุณแห่งโรงเรียนตน ตั้งใจมาเป็นยุววิทยากรนำชมด้วยนะคะ น้อง ๆ น่ารักกันมากเลยค่ะ
หนึ่งในงานอดิเรกของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ คือการถักนิตติ้งค่ะ ทราบไหมคะ ว่าทำไมงานนิตติ้งของพระองค์จึงเป็นสีเขียว..
นั่นก็เพราะทรงถักเพื่อมอบให้แก่ทหารและตำรวจตระเวนชายแดนนั่นเองค่ะ
ส่วนที่3 “สร้อยมุกที่หายไปกับลมหายใจเพื่อผู้อื่น”
ว่าด้วยพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่6
เครื่องประดับประกอบนิทรรศการส่วนที่หนึ่ง มี 1 ชิ้นสำคัญคือ..
สร้อยมุกพระราชทาน
เป็นสร้อยมุกที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่ทำให้สร้อยมุกนี้มีความสำคัญน่ายกย่อง หาใช่ความงามของสร้อยไข่มุกนั้นไม่.. ใครอยากทราบว่าเพราะเหตุใด อยากให้ไปเยี่ยมชมและหาคำตอบในงานนิทรรศการนะคะ =)
ยังมียุววิทยากรน้อยผู้ร่าเริงและตั้งใจเปี่ยมล้น คอยนำชมและให้ข้อมูล ตอบข้อซักถามในทุกจุดค่ะ
ย้ำกันอีกครั้งนะคะ นิทรรศการแห่งแรงบันดาลใจ “สามขัตติยนารีแห่งสยาม ทรงสร้างเพื่อประโยชน์สุขของคนไทย” เปิดให้เข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ณ วังรื่นฤดี ท้ายซอยสุขุมวิท 38
ตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.30 น. ถึงวันที่ 14 ธันวาคมนี้เท่านั้น
การแต่งกาย กรุณาแต่งกายสุภาพ งดแต่งกายสีดำล้วน สีขาวดำ เสื้อไม่มีแขน และกางเกงขาสั้นทุกชนิด
คุณผู้หญิงสวมกระโปรงหรือผ้าซิ่น คุณผู้ชายสวมกางเกงขายาว
และจะดีมากถ้าจองเวลาเพื่อเข้าชมนิทรรศการก่อนค่ะ
สามารถนัดหมายวันและเวลาได้ที่ 094-143-2921, 094-143-2922
หวังว่าจะได้รับความสำราญสุธารส และแรงบันดาลใจดี ๆ จากงานนิทรรศการโดยทั่วกันนะคะ
ขอบคุณทางอินบีทวีนที่เชิญว่านน้ำเข้าร่วมงานค่ะ
อ้อ ในวันที่ 26-28 ธันวาคมนี้ ขอเชิญเที่ยวงานฤดูหนาวพระราชนิเวศน์มฤคทายวันได้ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. นะคะ ในงานจะมีนิทรรศการ พร้อมการแสดงจากกรมศิลปากร การแสดงพื้นบ้านจังหวัดเพชรบุรี การแสดงดนตรีไทยและดนตรีร่วมสมัย อีกทั้งยังสามารถลิ้มรสอาหารคาว-หวาน ร้านน้ำชา ด้วยล่ะค่ะ ใครไปหัวหิน-ชะอำช่วงนั้นก็ไม่ควรพลาดเช่นกันนะคะ
ติดตามข่าวสารสาระของกิน ชิม ช็อป เที่ยว ตามแบบฉบับว่านน้ำได้ที่ https://www.facebook.com/wannamdotcom เช่นเคยนะคะ
พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ ( ^o^ )/