ในยุคที่มาการองกลายเป็นขนมหวานที่แทบจะหากินได้ทั่วไปไปในไทย แล้วทำไมเรายังต้องกินมาการองชิ้นน้อยในราคาร้อยกว่าบาทของ Pierre Hermé – ปิแอร์ แอร์เม่ ?? นี่คือคำตอบ..
1. คุณอาจจะเคยอกหักมากับมาการองแห้ง ๆ แข็ง ๆ กัดไปมีแต่ความกรอบป่นและรสชาติที่หวานบาดคอ แต่เชื่อเถอะว่า Pierre Hermé – ปิแอร์ แอร์เม่ จะไม่ทำร้ายหัวใจและลิ้นคุณอย่างนั้น.. เชฟปิแอร์ แอร์เม่คือบิดาของมาการองยุคใหม่ แม้เขาจะทำงานที่ร้านอื่นอยู่ในขณะสร้างสรรค์มาการองที่ถือว่าเป็นการปฏิวัติจากมาการองที่คร่ำครึและแสนเชย สู่มาการองที่เย้ายวนไปด้วยรสชาติหลากหลาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านั่นคือผลงานของเชฟปิแอร์ แอร์เม่อย่างแท้จริง
2. คำกล่าวอ้างอาจเป็นเพียงคำยกยอในอากาศ?? ถ้าเช่นนั้นรางวัลอาจเป็นเครื่องชี้วัดได้.. เชฟปิแอร์ แอร์เม่ได้รับรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชฟที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล Pastry Chef of the Year ของฝรั่งเศส ไม่เพียงแต่แค่นั้น ยังมีรางวัล “Chevalier de la Légion d’honneur”จากประธานาธิบดีฝรั่งเศส และเท่านั้นยังไม่พอ ล่าสุดเชฟปิแอร์ แอร์เม่ได้รับรางวัล World’s Best Pastry Chef จากงาน The World’s 50 Best Restaurants ปี2016
ขอบคุณภาพจาก Pierre Hermé Paris-Thailand
3. มาตรฐานมาการอง.. แน่นอนว่าในเมื่อเขาเป็นบิดาของมาการองยุคใหม่ ฉะนั้นหากอยากรู้ว่ามาการองที่ดี รสสัมผัสและรูปลักษณ์ควรเป็นอย่างไร คำตอบก็คือมาการองของPierre Hermé – ปิแอร์ แอร์เม่นั่นเอง ด้วยวัตถุดิบชั้นดีและการผลิตที่ได้คุณภาพ มีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสมจนมาถึงร้านปิแอร์ แอร์เม่ ปารีส สาขา ดิ เอ็มควอเทียร์.. จึงแน่ใจได้ว่ามาการองชิ้นที่อยู่ในมือคุณนั้น ไม่ว่าจะเป็นรางวัลเล็ก ๆ ของวันสำหรับตัวคุณเอง หรือเป็นของขวัญทรงคุณค่าให้กับคนพิเศษ จะเป็นมาตรฐานเดียวกับที่คุณซื้อในปิแอร์ แอร์เม่ boutique ที่ปารีส หรือไม่ว่าที่ใดในโลก
ขอบคุณภาพจาก Pierre Hermé Paris-Thailand
4. ความริเริ่ม รางวัล มาตรฐาน.. เพียงเท่านี้คงไม่เพียงพอที่จะส่งให้เชฟปิแอร์ แอร์เม่คงความเป็นpatissierแถวหน้าไปได้ สิ่งที่ต้องนับว่าเป็นพรสวรรค์ของเขาคือการจับคู่รสชาติและ “สมรส”เข้าด้วยกัน.. อย่าง Ispahan ซึ่งเป็นการประสานกลิ่นรสอันหวานหอมของลิ้นจี่ กุหลาบและraspberry นั่นไง..
อยากให้คุณเปิดใจ เพลิดเพลิน และสนุกสนานไปกับการเสกสรรค์จับคู่รสชาติของเชฟปิแอร์ แอร์เม่ แม้บางคู่รสอาจทำให้คุณต้องขมวดคิ้วก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าระดับเชฟที่ได้รับการขนานนามจากนิตยสารVogue US ว่าเป็น “the Picasso of Pastry”นั้น ย่อมมีความน่าสนใจในคู่รสที่เขานำมาร้อยเรียงกันอย่างแน่นอน
อย่าง 4 รสชาติใหม่ของร้าน ปิแอร์ แอร์เม่ ปารีส สาขา ดิ เอ็มควอเทียร์ ได้แก่
ซ้ายบน – Montebello – Pistachio & raspberry compote
ขวาบน – Réglisse Violette – Licorice & Violet
ซ้ายล่าง – Mutine – Milk chocolate & coconut
ขวาล่าง – Huile d’ Olive & Vanille – Olive Oil Fruité Vert, Vanilla & ชิ้นGreen Olive
การได้สัมผัสและลิ้มลองผลงานสร้างสรรค์ของศิลปินระดับโลก อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณค้นพบความสร้างสรรค์ในแบบฉบับของคุณเองก็ได้นะคะ <3
ไม่เพียงแต่มาการองเท่านั้น ที่ร้าน ปิแอร์ แอร์เม่ ปารีส สาขา ดิ เอ็มควอเทียร์ ยังมีหลายสิ่งให้คุณได้ชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแล็ตชั้นดีหลากรสชาติ
หรือจะช็อคโกแล็ตบาร์ที่ให้คุณและเล็มความสุขได้อย่างยาวนาน
เค้กสำหรับวันพิเศษ หรือทำให้วันธรรมดาเป็นวันพิเศษ
ขอบคุณภาพจาก Pierre Hermé Paris-Thailand
แยมดี ๆ เติมความหวานให้วันใหม่
หรือแม้แต่เทียนหอม ผลงานของเชฟปิแอร์ แอร์เม่ ร่วมกับคุณJean-Michel Duriez
ขอบคุณภาพจาก Pierre Hermé Paris-Thailand
ขอบคุณPierre Hermé – ปิแอร์ แอร์เม่ ที่เชิญว่านนะคะ ติดตามผลงานเชฟปิแอร์ แอร์เม่มานานตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นจนมาถึงไทยในที่สุด ปลื้มค่ะ <3
พบความเป็นPierre Hermé – ปิแอร์ แอร์เม่ ได้ที่ร้าน ปิแอร์ แอร์เม่ ปารีส สาขา ดิ เอ็มควอเทียร์ ติดตามข่าวสารกันได้ที่เฟซบุ๊ก Pierre Hermé Paris-Thailand https://www.facebook.com/PierreHermeTHA/