PAUL เป็น boulangerie และ patisserie ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 5 ชั่วอายุคน นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1889 จนถึงทุกวันนี้ PAUL มีกว่า 500 สาขาใน 31 ประเทศทั่วโลก สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ PAUL คือการตกแต่งด้วยสีดำอันเรียบง่ายทว่าโดดเด่นในที..
แน่นอนว่าด้วยประวัติกว่า 125 ปีเช่นนี้ แต่ละสูตรย่อมเป็น”ตำนาน” .. สิ่งหนึ่งที่รับรู้ได้จากการไปเยี่ยมเยียน PAUL ในวันนั้นก็คือทางร้าน PAUL เอง รวมถึงบริษัทเบคเฮ้าส์ผู้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ PAUL มีความมุ่งมั่นมากที่จะคงตำรับเดิมนั้นไว้ นับตั้งแต่การใช้แป้งสาลีนำเข้าชั้นดีหลากหลาย เช่นจากข้าวสาลีพันธุ์แคมป์เรมี่ จนไปถึงสูตรต่าง ๆ การควบคุมคุณภาพ การปรับตัวและรับมือกับสภาพอุณหภูมิและความชื้นที่แตกต่างของเมืองไทย เพื่อที่จะให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้สัมผัสกับรสชาติในแบบฉบับของ PAUL เหมือนกันในทุกสาขาทั่วโลก
ยกตัวอย่างมาการงของ PAUL นี่ก็เป็นสูตรตั้งแต่ร้อยกว่าปีที่แล้ว ร่วม ๆ สมัยแม่ชีลี้ภัย ก่อนการมาของ modern Macaron เสียอีก.. วันเวลาที่ผันเปลี่ยน แต่สูตรที่ยังคงเดิม และลิ้นของคนกินที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย.. เป็นอุปสรรคของ PAUL หรือไม่?? เรื่องหนึ่งที่ได้รับฟังมาและรู้สึกประทับใจ ก็คือมีคุณยายชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง ลูกชายคนเดียวแต่งงานกับสาวไทย คุณยายอพยพมาอยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้ที่เมืองไทย และไม่ได้กลับฝรั่งเศสนับแต่นั้น.. เมื่อ PAUL ที่ประเทศไทยมาเปิด คุณยายมาที่ร้าน เห็นขนมปังพื้นบ้านของเมืองที่คุณยายเกิดและเติบโต.. คุณยายดีใจมาก และเมื่อรับประทาน..
..
น้ำตาก็ไหลออกมา..
รสชาติของความหลัง จับใจคนเสมอ นี่อาจเป็นสิ่งที่ PAUL รักษาและยึดมั่นตลอดมาก็เป็นได้..
และในวันนี้ สิ่งที่มอบให้กับเรา มีอะไรบ้าง?
ไปดูกันค่ะ =)
อย่างแรกเลย ตำรับนี้ 125 ปีที่แล้วไม่มีแน่นอน อิอิ
Macarons Frappes 185 บาท
เป็นมาการงปั่น.. อ๊ะ ๆ อย่าพึ่งทำหน้าเหวอ ถ้าทุกวันนี้เรากินโอรีโอ้ปั่นกันจนเป็นเรื่องธรรมดา Macarons Frappe นี้ก็โอเคอยู่นะคะ มี 5 รส Raspberry / Chocolate / Pistachio / Vanilla / Coffee
Chocolat Chaud PAUL 110 บาท
รสชาติเข้มข้นแบบยุโรป สมกับที่ใช้ช็อคโกแลตชั้นดี ใครชอบช็อคโกแลตแบบเข้มเต็มรสชาติน่าจะถูกใจ
Tartine Saumon 360 บาท
แซลมอนรมควันพันรอบอโวคาโด้ชิ้นโต วางบนขนมปังsourdough เสริมรสด้วยลีคและครีมชีสสมุนไพร.. ฟังดูเรียบง่าย แต่รสชาติดีมาก โดยเฉพาะอโวคาโด้ สดแน่นดีจริง ๆ .. เป็นตัวอย่างที่ดีเลยว่า ใช้ของคุณภาพดี แม้เรียบง่าย รสชาติก็ดีตาม
Gratin de macaroni aux crevettes 450 บาท
ของง่าย ๆ อย่างมักกะโรนีอบชีสและกุ้ง ที่ได้ซอสชีสรสชาติเข้มข้น และกุ้งสดแน่นตัวโต.. ก็แน่นอนได้เลยว่า.. อร่อย
Croissant Amandes 95 บาท
หนึ่งในเมนูที่ต้องมีประจำตู้ขนมของ PAUL เสมอ ห้ามขาด..
เป็นครัวซองก์สอดใส้ครีมอัลมอนด์ เพิ่มความกรุบกรอบอีกชั้นด้วยอัลมอนด์สไลด์ข้างบน..
Canele 70 บาท
ขนมหน้าตาน่าชัง ดำเมี่ยมดูคล้ายไหม้.. แต่ถ้าใครได้เคยกิน จะรู้ว่าในผิวกรุบกรอบนั้น ซ่อนเนื้อคัสตาร์ดนุ่ม ๆ ไว้ข้างใน หอมกลิ่นรัมและวนิลา.. ในบ้านเราแต่ก่อนหากินยากพอควร ด้วยกรรมวิธีทำที่ยุ่งยาก แต่เดี๋ยวนี้หารับประทานได้ง่ายขึ้นค่ะ =)
Millefeuille Fraises 190 บาท
ขอยกให้เป็นขนมที่ประทับใจที่สุดในวันนั้น ด้วยแป้งกรอบบางซ้อนซ่อนชั้นสมชื่อ Millefeuille ซึ่งเบาร่วนอย่างน่าประหลาดใจ เพราะระหว่างกลางเป็น Crème Pâtissière คัสตาร์ดเนียนข้น หวานกำลังดี มีสตรอว์เบอร์รี่ชิ้นโตเสริมรสเปรี้ยวหวานลงตัว
Pure Jee 170 บาท
Chocolate Domeหน้าตาร่วมสมัย ตรงกลางเป็น Dark Chocolate Mousse เข้มข้น ประดับทองดูอลังการผิดกับขนมตัวอื่น.. จึงได้ทราบว่าการตกแต่งรวมถึงหน้าตาของแต่ละชิ้นเค้ก ต้องได้รับการอนุมัติจาก PAUL หลักเสียก่อน เพื่อคงความดั้งเดิมและโทนของขนมตามแบบอย่าง PAUL ไว้
ก่อนจากลาในวันนั้น จึงได้เห็นว่าขนมในตู้ขนมของ PAUL นั้นแปลกไปจากเมื่อเช้า นั่นก็เพราะว่านานาขนมในตู้ขนม หรือ cabinet ของ PAUL นั้น จะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาของวัน เพื่อความสดใหม่ของขนม และเพื่อให้ขนม ขนมปัง รวมถึงแซนด์วิชทั้งหลายนั้นสอดคล้องกับแต่ละมื้ออาหาร และความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงเวลาให้มากนี่สุด.. นี่ คือความใส่ใจของ PAUL
แวะเวียนไปลิ้มลอง PAUL ที่คงความดั้งเดิมมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานกันได้ที่ชั้น 1 Central Embassy ติดทางเข้าฝั่ง BTS เพลินจิต
และสามารถติดตามข่าวสารของ PAUL กันได้ทาง https://www.facebook.com/paul1889.thailand
ขอบคุณทางร้านที่เชิญว่านไปสัมผัส PAUL บอกเล่าถึงความเป็น PAUL สิ่งที่ PAUL ทำและยึดมั่นนะคะ ช่วยให้รับรู้และเข้าใจถึง PAUL ได้มากขึ้นเลยล่ะค่ะ =)
พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ