เกาะปีนัง.. เกาะเล็ก ๆ บนคาบสมุทรมลายูของมาเลเซีย
เป็นดินแดนที่ร่ำรวยด้วยหลากหลายศิลปวัฒนธรรมมานาน ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่บุตรีผู้ดีสยามไปร่ำเรียนต่อกัน
เกาะเล็ก ๆ เช่นปีนังนี้ มีดีอย่างไร จึงคงเสน่ห์แห่งไข่มุกตะวันออกมาจวบจนปัจจุบัน.. ไปดูกันค่ะ =)
เราเดินทางกันด้วย Air Asia ไฟล์ท FD2901 ออกเดินทางจากดอนเมืองกันตอน 14.10 น. ไม่ต้องตื่นเช้า สบาย ๆ ดี
อาหารบนเครื่อง เลือกไว้เป็นข้าวแกงเขียวหวานไก่ของสีฟ้า
นั่งเครื่องบินเพลิน ๆ แค่ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึง Penang International Airport แล้วค่ะ
ตอนไปถึงนี่ พึ่งปรับปรุงใหม่เสร็จหมาด ๆ เลย สวยทันสมัยมาก..
ณ ขณะถึงสนามบินนี่ 17.15 น. เวลาปีนังเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงนะคะ ฉะนั้นอย่าลืมปรับเวลากันด้วยล่ะ
ที่สนามบิน ก่อนออกจะมีการแสกนกระเป๋าด้วยนะคะ ฉะนั้นเผื่อเวลาไว้นิดนึงค่ะ ใช้เวลาไม่นานมาก แต่ก็คิวยาวทีเดียว..
ต่อไปอาจจะปรับปรุงระบบหรือเปล่า? อันนี้ก็ต้องคอยดูกันต่อไป.. สนามบินพึ่งปรับปรุงใหม่ เดี๋ยวคงจะลงตัวขึ้นเนอะ (^^ )
บ้านเมืองปีนังก็คล้าย ๆ ส่วนอื่นของมาเลย์ คือค่อนข้างกระจายไปในแนวราบ ตึกสูงมีแค่ประปราย
แต่ที่นึกนิยมในใจของบ้านเมืองเค้าคือต้นไม้ค่ะ ร่มครึ้มไปด้วยไม้ใหญ่จริง ๆ มองแล้วสบายตามาก ๆ
ปีนังนี้ เป็นรัฐเดียวของสหพันธรัฐมาเลเซียที่มีชาวจีนมากกว่าชาวมลายูค่ะ ตึกรามร้านค้าอย่างจีน จึงมีพบเห็นได้หนาตาเช่นกัน
การเดินทางในปีนังก็มีค่อนข้างหลากหลาย ทั้งแท็กซี่ที่ต่อและตกลงราคาได้เหมือนบ้านเราสมัยก่อน
ถ้านั่งแท็กซี่จากสนามบินมา George Town ก็ตกราว ๆ RM40-50 ได้ค่ะ
หรือจะนั่งรถเมล์ก็สะดวกดี มีทั้งรถเมล์จากสนามบินเข้าตัวเมือง Rapid Penang Bus No 102 หรือ No.401E และรถเมล์ไปยังที่ต่าง ๆ
ซึ่งสามารถดูรายละเอียดสายรถเมล์ได้ที่ http://www.rapidpg.com.my/journey-planner/route-maps/
และ Penang Hop On Free Central Area Transit (CAT) ซึ่งวิ่งวนอยู่ในบริเวณ George Town
Penang International Airport ตั้งอยู่บริเวณ Bayan Lepas ซึ่งอยู่ส่วนใต้ของเกาะปีนัง
ส่วนที่พักของเราอยู่ Batu Ferringhi ส่วนเหนือของเกาะปีนัง แถบ Batu Ferringhi เต็มไปด้วยโรงแรมชั้นดีมากดาว
เพราะว่าเป็นช่วงเย็น เวลาเลิกงาน การจราจรคับคั่ง เลยใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณชั่วโมงนิด ๆ ค่ะ
และนี่คือที่พักของเราค่ะ Holiday Inn Resort Penang
http://www.ihg.com/holidayinnresorts/hotels/us/en/penang/penmy/hoteldetail
72 Batu Feringgi 11100 Penang, Malaysia
Book online or call -> 1 888 HOLIDAY
Holiday Inn Resort Penang เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่อยู่คู่ปีนัง และ Batu Ferringhi มานาน
แต่พอบอกว่าเก่าแก่ อย่าได้คิดว่า Holiday Inn Resort Penang จะคร่ำครึหรือเชยเชียว
Holiday Inn Resort Penang เขาพึ่งตกแต่งห้องพักใหม่ สวยสมัยเชียวค่ะ
โดยที่ Holiday Inn Resort Penang นี้ แบ่งเป็นสองส่วน ได้แก่ Beach Wing แน่นอนว่าตามชื่อคือติดริมหาด
และ Ferringhi Tower อันเป็นอาคารสูงรับวิวสวยของ Batu Ferringhi..
เรามาเยี่ยมชมห้องพักในส่วนของ Beach Wing กันก่อนเลยค่ะ
2 ห้องแรกมาที 2 ห้องเลย เป็นห้อง Seaview และ Hillview ขนาดเท่ากันคือ 30-35 ตร.ม. การตกแต่ง+ห้องน้ำเหมือนกันหมด
ต่างกันแค่สีสัน.. ห้องสีเขียวใบไม้ คือห้อง Seaview ส่วนห้องสีส้มอิฐ คือห้อง Hillview ค่ะ
ถ้าเป็น Beach Wing จะแบ่งสีห้องตามวิวเช่นนี้หมด =)
ต่อมาเป็นห้อง Hillview Triple ซึ่งก็ตามชื่อเลย เป็นห้อง 3 เตียง ผู้ใหญ่นอนได้ 3 คน เหมาะแก่การไปเป็นหมู่คณะมาก ๆ XD
มีแต่ Hillview นะคะ ไม่มี Seaview ขนาดห้องจะอยู่ที่ 40 ตร.ม.
และห้องแบบต่อไปนี้ รับรองว่าคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็ก ๆ จะกรี๊ด..
เป็น Kid Suite – Hillview ค่ะ ขนาด 40 ตร.ม. เตียงของคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นเตียง King Size แสนสบาย..
ส่วนของคุณน้อง ๆ หนู ๆ นั้น..
เป็นเตียง 2 ชั้นค่า XD มีเครื่อง Play Station ประจำห้องไว้ให้เล่นด้วยแหละ ( ไม่รู้คุณพ่อจะมาแย่งคุณลูกเล่นรึเปล่านิ =P )
มาดูห้องของ Holiday Inn Resort Penang ฝั่ง Ferringhi Tower กันบ้างค่ะ..
ฝั่งนี้ก็ไม่น้อยหน้า มี Kid Suite – Hillview พร้อม Play Station ประจำห้องเหมือนกันนะคะ
แต่รูปแบบห้องจะต่างกันนิดหน่อย คือฝั่งคุณลูกจะเป็น Hollywood Twins คือเตียงเดี่ยว 2 เตียง
มี partition กั้นจากฝั่งเตียง King Size ของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
ถึงจะไม่มีเตียง 2 ชั้น แต่ก็ได้ห้องที่ใหญ่กว่า คือ 68 ตร.ม. เชียวแหละ มีระเบียงด้วยนะคะ =)
สำหรับผู้ที่มาเป็นหมู่คณะ ทางฝั่ง Ferringhi Tower ก็มีห้อง Family Studio – Hillview ไว้คอยรองรับค่ะ
ซึ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็พักได้ถึง 4 คนเลยแหละ โดยประกอบด้วย Hollywood Twins คือเตียงเดี่ยว 2 เตียง
และเตียง King Size คล้าย ๆ Kid Suite แต่ต่างกันตรงที่ว่าตรงกลางจะไม่มี partition แต่เป็นโซฟา Loveseat
เหมาะไว้จับกลุ่มเฮฮาทำกิจกรรมยามค่ำคืนมาก.. ปาร์ตี้หมี่ถ้วย อะไรงี้ XD
และแล้วก็มาถึงห้องพักของเราค่ะ Hillview & Seaview ขนาด 40 ตร.ม.
มองไปรับวิวทะเลไกล ๆ
ทริปนี้ การท่องเที่ยวปีนัง + Air Asia และ Holiday Inn Resort Penang ให้เกียรติเชิญว่านมาสัมผัสปีนังค่ะ
ได้แผ่นพับ + ตารางเที่ยวมาเพียบเลย.. มาดูกันนะคะ ว่า 3 วัน 2 คืนนี้เราจะไปกิน + เทีย่วที่ไหนกันบ้าง (^^ )
แต่ก่อนอื่น.. คืนนี้หิวแล้ว XD
ไปกินข้าวกันเถอะค่ะ ที่ Fishing Village Restaurant อยู่ Teluk Bahang ไม่ไกลจาก Batu Ferringhi มาก
Fishing Village Restaurant
765 MK 2 Teluk Bahang 11050 Penang, Malaysia
Tel -> 04-885-2084
ร้านนี้อร่อยแมวรอค่ะ อิอิ น้องแมวน่ารักมารอกันเต็มเลย.. ร้านก็ดูเพิง ๆ บ้าน ๆ ทั่วไป..
แต่เอ๊ะ.. ไหน ๆ เป็นร้านประเดิมที่ทางการท่องเที่ยวปีนังพามา แสดงว่าต้องมีดี.. =P
มีล็อบสเตอร์เป็น ๆ ว่ายโบกหนวดไปมาด้วย..
เห็นว่ามีมะพร้าวสด เลยอยากสั่งมาชิมดูว่ามะพร้าวปีนังจะรสชาติเป็นไง..
ปรากฏว่าเป็นมะพร้าวน้ำหอมจากไทยนี่เองจ้า.. สวัสดีประเทศไทย (^^’ )
อาหารมาแล้ว มากินกันเลยดีกว่า XD
จานแรกคือ Fried Prawns with Salted Egg Yoke หรือกุ้งผัดไข่เค็มนั่นเองค่ะ
กุ้งสดดี ไข่แดงยีละเอียด เคลือบกุ้งสม่ำเสมอ เค็มพอนวล ๆ ปาก.. อร่อยมาตรฐานค่ะ
“Ma Po” Bean Curd หรือหม่าผ่อเต่าฝู่ – เต้าหู้หน้าปรุ.. จานนี้ก็มาตรฐานค่ะ
แต่ส่วนตัวว่านอยากให้เผ็ดกว่านี้อีกนิดนึง พอเผ็ดน้อยแล้วรู้สึกจะติดเลี่ยนไปหน่อย
จานนี้อร่อยมาก สั่งได้เลยไม่ต้องลังเล 555
Cheese Baked Oyster เป็นหอยนางรมตัวเขื่อง ราดด้วยชีสข้น ๆ ใส่เห็ด
รสสดหวานของหอยถูกเน้นด้วยความเค็มมันของชีส มีเห็ดมาช่วยเพิ่ม texture กรุบ ๆ .. เลิฟเลยค่ะ
ไก่ทอดขมิ้น เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสะเต๊ะค่ะ
ไก่ทอดมากำลังดี ไม่สุกแห้งเกิน เนื้อยังฉ่ำอยู่
น้ำจิ้มสะเต๊ะไม่ออกหวานอย่างของบ้านเรา ออกไปทางข้น ๆ เค็ม ๆ หวานรั้งท้าย ไม่เผ็ดนักค่ะ
อะ อ้ามมม.. ราดน้ำจิ้มให้ละค่ะ (^o^ )
จานนี้อร่อยสั่งได้-ไม่ต้องลังเลอีกเหมือนกัน.. Black Pepper Deep Fried Crispy Squids
เห็นที่แรกแล้วเฉย ๆ พอจิ้มไปชิ้นนึงแล้วหยุดไม่ได้ (^^’ )
เป็นหมึกทอดจนกรอบกรุบ ราดซอสพริกไทยดำข้น ๆ หวาน ๆ หนึบ ๆ .. อร่อยเพลินเกินห้ามใจจริง ๆ ค่ะ
ปลากะพงแดงนึ่ง ได้รสสดดีค่ะ อร่อยมาตรฐาน
อันนี้ (น่าจะ) Mee Teow .. ส่วนตัวว่านค่อนข้างเฉย ๆ กับจานนี้มาก
เห็นว่า Beehoon Thai (Tomyam) Style ได้รับความนิยมกว่า ยังไงก็ลองดูละกันนะคะ =)
สำหรับร้าน Fishing Village Restaurant นี่เวิร์กเลยค่ะ
เมนูแนะนำก็หอยนางรมอบชีส กับปลาหมึกพริกไทยดำ เด็ดมาก.. ส่วนไก่ทอดซอสสะเต๊ะก็โอเคอยู่
นอกนั้นก็สั่งได้ ไม่เสียดายปากค่ะ
หลังจากอิ่มหมีกับอาหารเย็นแล้ว ก็ได้เวลาเดินย่อยกันค่ะ
เลยไปเดินย่อยกันที่ Batu Ferringhi Night Market แถวโรงแรมนี่เอง
ข้าวของและบรรยากาศก็คล้าย ๆ Night Market บ้านเราค่ะ
เดินกันซักแป๊บ ชาวคณะก็ว่าหาที่นั่งชิลล์ริมหาดกันดีกว่า
เลยเลือกร้าน Bora Bora อยู่ในBatu Ferringhi Night Market นั่นแหละค่ะ
เครื่องดื่มสนนราคาไม่แรงมาก แต่รสชาตินี่ขอบอกว่าไว้แก้คอแห้งตอนไปนั่งดูผู้คนมากกว่าค่ะ แหะแหะ
หลังจากนั้นก็ร่ำลากันไปนอน.. พักสบาย ณ Holiday Inn Resort Penang
ตื่นเช้ามา เราไม่ได้รับอาหารเช้ากันที่โรงแรมนะคะ
เพราะมาถึงปีนังทั้งที ตอนเช้ามันต้อง.. แต่เตี้ยม ติ๋มซำยามเช้าค่า XD
De Tai Tong Cafe ( Tai Tong Restoran (Restaurant) )
45 Cintra Street, Georgetown 10100 Penang, Malaysia
Tel -> 04-263-6625
ติ๋มซำที่นี่เริ่มเสิร์ฟตั้งแต่เปิดร้านตอน 6 โมงเช้าจนถึงเที่ยง
จากนั้นก็จะเป็นเมนูอาหารกลางวันจนถึงบ่ายสองครึ่ง แล้วจะเป็นเมนูอาหารเย็นจนถึงปิดร้านตอนห้าทุ่มครึ่งค่ะ
ความเก่าแก่ของร้านที่อยู่มานานถึง 30 กว่าปี คงสามารถบอกได้จากหน้าพนักงานเสิร์ฟ+ขับรถ(ติ๋มซำ)ของเราท่านนี้..
รวมถึงพนักงานอีกหลาย ๆ ท่านในร้านด้วย =P
ติ๋มซำที่นี่มีหลากหลาย อันที่ชอบก็เป็นอันเบสิกนี่เอง ได้แก่ขนมจีบไส้แน่นเต็มปากคำ
ลูกชิ้นปลาลูกยักษ์เนื้อหนึบนุ่มดี เสียดายไม่มีน้ำจิ้มซีฟู๊ด แต่มากินอย่าง “บ้านเขา” ก็ดีเหมือนกัน =)
ก๋วยเตี๋ยวหลอดก็พอใช้ได้ แต่อันที่แปลกและอยากแนะนำคือซาละเปาอันนี้ ไส้ตู้มดีจริงๆ
ไม่เพียงแต่ติ๋มซำ.. ที่ Tai Tong Cafe ยังมีอาหารเช้าอื่น ๆ อีกมาก เช่นโจ๊กหอม ๆ ร้อน ๆ
อุ่นท้องรับอรุณได้ดีจริง ๆ ค่ะ XD
อาหารเต็มโต๊ะแล้ว มากินกันเลยดีกว่าเนอะ..
แน่นอนว่าไม่ตัวเป่งเราไม่ลุก..
หลังจากนั้นก็เดินเล่นชมตลาดละแวก Cintra Street กันค่ะ
ทั้งดูคุ้นตาและแปลกตาในเวลาเดียวกัน ชมภาพวิถีชาวบ้านปีนังอย่างไม่เร่งร้อน..
จากนั้นเราก็มากันที่ George Town World Heritage Office ค่ะ
พบคุณJoann Khaw เจ้าหน้าที่และผู้รู้ในหลาย ๆ ด้านประจำ George Town World Heritage Office
ซึ่งได้มาให้ความรู้เราอย่างมากมาย เกี่ยวกับ George Town มรดกโลกแห่งนี้..
ทั้งประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ George Town ทำไมถึงได้เป็นมรดกโลก
ยุคสมัย รูปแบบต่าง ๆ และพัฒนาการของอาคารพาณิชย์ที่พบได้ใน George Town
รวมถึงวัสดุ และการก่อสร้าง.. อย่างกระเบื้องมุงหลังคานี่มาไกลจากฝรั่งเศสเชียวนะคะ =)
คุณ Joann อธิบายได้ตรงประเด็น เข้าใจง่าย ไม่เกี่ยงคำถาม
เธอมีจัดเป็น Walking Tour ด้วยนะคะ ถ้าสนใจให้เธอนำทัวร์ ก็ติดต่อได้ตามนี้ค่ะ
ว่านเห็นว่าก็เป็นประโยชน์และสนุกสนานดีนะคะ เพราะหลังจากได้ฟังบรรยายสั้น ๆ แล้ว
เวลาเดินไปใน George Town เราก็ได้มองอาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ด้วยสายตาที่แจ่มชัดขึ้นค่ะ
บางทีก็เล่นทายกับคนในคณะว่าอาคารพาณิชย์นี้มาจากยุคสมัยใด มีอะไรเป็นข้อสังเกต ก็เพลิน ๆ ดี
สถานที่ประวัติศาสตร์ที่แรกที่เราไปก็คือ Dr. Sun Yat Sen Penang Base
เป็นบ้านที่ดร. ซุน ยัด เซ็น พำนัก เมื่อครั้งที่ท่านอยู่ปีนังค่ะ
อย่างกระเบื้องเก่าประดับผนังพวกนี้ คุณ Joann เล่าว่า บางทีคนมาขโมย เอาไปขายต่อหลายร้อยเหรียญเชียวค่ะ
จากนั้นเราก็เดินเล่นชมเมืองมรดกโลกมาเรื่อย จนมาถึง 14 Living Story
http://www.facebook.com/14livingstory
เป็นร้านขายของที่ระลึกที่พวกเราใช้เวลากันอยู่นานมาก ไม่ใช่เพียงเพราะของเค้าเป็นของเก่าแปลกตาและน่ารัก
แต่เพราะมีคุณตามาเล่น Taishogoto ให้เราฟังด้วย =)
อาจารย์ไชยแสง กิระชัยวนิชมาร่วมทริปนี้ด้วย
ได้รับความรู้ต่าง ๆ จากอาจารย์มากมาย อดไม่ได้ที่จะต้องขอถ่ายภาพคู่ไว้เป็นที่ระลึกหน่อยค่ะ
หลังจากใช้เวลา( และเงิน )ที่ 14 Living Story พอสมควรแล้ว
ก็เดินเล่นกันต่อเพื่อไปตระเวนชม Street Art ใน George Town
ระหว่างทางก็เที่ยวชมเมืองไปเรื่อยค่ะ ไม่ เร่ง ร้ อ น..
เจอโรงงิ้วกำลังจัดฉากอยู่พอดี..
ทำให้นึกถึงสมัยเด็ก ๆ ( มาก ๆ )ค่ะ แถวบ้านก็เคยมีงิ้วมาเล่น =)
โตขึ้นก็ไม่เคยพบเห็นอีกเลย..
เดินไปอีกซักพักก็เจอของคุ้นหน้าคุ้นตาคนไทย..
แต่ฝรั่งกับญี่ปุ่นที่ร่วมทริปไปด้วยนี่เค้าอะ-เม้-ซิ่งงงงง มาก.. ถึงกับต้องถ่ายรูปกันรัว ๆ เลยเก็บรูปมาฝากกันบ้างค่ะ =)
เลยเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนที่กรุงเทพก็เป็นถุงหูผูกข้างแบบนี้นะ บางทีก็เป็นหนังยาง
เดี๋ยวนี้เป็นถุงสองหูหิ้วสำเร็จ หรือไม่ก็แก้วกันไปหมดแล้ว..
น่ารักดีนะคะ อะไรเก่า ๆ ที่เราเลือน ๆ ไปแล้ว ก็เป็นของแปลกหูแปลกตาขึ้นมาได้..
ข้างทางมีร้านข้าวแกงด้วยค่ะ เค้าใช้คำว่า Economy Rice เรียกรอยยิ้มได้อีกเหมือนกัน..
อีกอย่างที่ดูแปลกหูแปลกตา คือหิ้งเทียนกุง คล้ายๆตี่จูเอี้ย หรือศาลเจ้าที่จีนค่ะ
แต่เทียนกงนี่เหมือนหิ้งพระ เค้าจะไว้สูงกลางเสากัน ไม่ได้ติดดินอย่างตี่จูเอี้ยบ้านเรา
แต่แถบภูเก็ตก็เห็นมีหิ้งเทียนกุงแบบนี้เหมือนกันนะคะ =)
และแล้วก็มาถึง Street Art รูปแรกกันแล้วค่ะ.. ( [E] ในแผนที่ )
เห็นเป็นรูปอะไรกันเอ่ย..
อายแต่เล่า.. 555 ว่านเห็นเป็นรูปไก่โต้งค่ะ 55555 ไม่รู้เห็นเป็นแบบนั้นไปได้ไง (^^’ ) จริง ๆภาพนี้คือภาพ “Old Man” ค่ะ
ภาพวาด Street Art เหล่านี้ เป็นผลงานของศิลปินชาวลิทัวเนีย นาม Ernest Zacharevic
นอกจากภาพวาดฝีมือคุณ Ernest แล้ว..
ที่เป็นงานเหล็กดัด คอยเรียกรอยยิ้มจากตามกำแพงมุมต่าง ๆ ของเมืองก็มีนะคะ
ทั้งหมดจะมี 52 แบบ ขณะนี้กำลังทยอยติดตั้งไปเรื่อย ๆ ค่ะ ได้ประมาณ 24 แบบแล้วล่ะ..
นี่ก็เป็นอีกภาพนึงของคุณ Ernest ที่ได้รับความนิยม มีผู้คนมาถ่ายรูปด้วยไม่ตลอด.. “Kids on Bicycle” [B]
“Old Motorcycle” [C]..
หัวมุมBeach Street ที่มีภาพวาดของ “Old Motorcycle” นั้นเป็นที่ตั้งของ Teow Hin Chan ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานเช่นกัน
ปัจจุบันเป็นร้านขายเครื่องกระเบื้องและเครื่องครัวจักสานจากไม้ไผ่..
ยังมีมุมต่าง ๆ ที่น่าสนใจใน George Town อีกเยอะ ไปดูกันเถอะค่ะ =)
เดินกันจนชักเมื่อยขาแล้ว..
เดี๋ยวบล็อกหน้าว่านจะพาไปกินอาหารกลางวันกันที่ Food Center
แล้วก็ยังมีเรื่องราวน่าสนใจอีกมากค่ะ จะเป็นยังไง ต้องคอยติดตามชมกันนะคะ (^^ )
มาแล มาเลเซีย เที่ยวไม่ไกล ไปกันไหม เกาะปีนัง พัก Holiday Inn Resort Penang ตอน2