เมื่อวันที่ 10.12.13 ก็เป็นอีกครั้งที่ว่านได้ทำหน้าที่กรรมการในรายการ “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย” ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ที่ได้รับเกียรติให้มาทำงานด้วยการใช้ลิ้น =P เบื้องหลังเบื้องลึกเป็นยังไง ไปชมกันเลยค่ะ
และ วัตถุดิบลับของค่ำคืนนี้ได้แก่.. “ปลาKinmedai” !!!
ขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/ironchefthailand
ก็นับว่าเป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายนัก ด้วยความที่ปลาKinmedaiเป็นปลาเนื้อขาวที่รสชาติค่อนข้างอ่อน มีไขมันน้อย แถมหนังยังหนา ถ้าปรุงไม่ดีก็เหนียวหนับเชียวล่ะ มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเชฟท่านไหนจะนำเสนอปลานี้ออกมาได้ดีกว่ากัน อ้อ อันที่จริงชื่อปลานี้ต้องอ่านว่า”คินเมะได” แต่เข้าใจว่าทางรายการต้องการให้พ้องกับคำว่า”กินมิได้” เลยเรียกว่า”กินมิได” (^^ ) เป็นมุกที่น่ารักดี
เชฟผู้ท้าชิงก็คือ “เชฟSK” หรือ Sin Keun Choi เป็นเชฟชาวเกาหลีผู้หลงใหลในอาหารญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็น Japanese Head Chef อยู่ที่ W RETREAT KOH SAMUI สไตล์ถนัดของเชฟSK คือ Modern Japanese..
 |
 |
ถ่ายทำไปเมื่อ 08.09.13 ที่ผ่านมา.. คือนานจนว่านเองก็ลืม (-_- ) ได้ดูเอา 5 นาทีสุดท้าย..
เริ่มชิมกันที่อาหารของเชฟบุญธรรมก่อนเช่นเคยค่ะ..
จานแรกของเชฟบุญธรรม (ขอต๊ะชื่อไว้ก่อนนะคะ รอคลิปมาก่อน ลืมสิ้น.. ปรกติอาศัยดูใน FB เอา แหะแหะ)
อร่อยแบบสบาย ๆ ค่ะ เนื้อปลาสด เครื่องปรุงไม่กลบรสชาติ มีหัวปลาย่างหอม ๆ มาให้คีบเนื้อนุ่ม ๆ กินเล่น +1 ค่ะ
จานต่อมา.. อบฟอล์ยมาอย่างดี มีมะนาวSudachi ซึ่งมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวมาให้เสริมรส
ก็เรียกได้ว่าผ่านอย่างสบาย ๆ อีกเหมือนกัน
จานนี้.. สวยงาม น่ารัก การนำเสนอให้เต็มเลย มุ้งมิ้งมาก
แต่เมื่อพูดถึงรสชาติแล้ว.. ปลาKinmedai รสชาติหายไปค่ะ หาไม่เจอ.. ตัวข้าวเองค่อนข้าวแฉะไปหน่อย..
จานสุดท้ายของเชฟบุญธรรมในการแข่งขันครั้งนี้..
ปิดตัวได้เว่อร์วังอลังการมาก ทั้งเห็ดแม่สื่อตาแก่.. เอ้ย Matsutake และ Uni ประดับด้วยคาเวียร์อีก เรียกว่าประโคมกันสุดฤทธิ์..
ในบล็อกก่อน ๆ ว่านน่าจะเคยพูดแล้ว และจะขอพูดอีกที คือเชฟบุญธรรมเป็นเชฟที่ปรุงอาหารประเภทซุป น้ำแกง ข้าวต้มได้เด็ดขาดมาก รสชาติล้ำลึก กลมกล่อมหาใดเสมอเหมือน.. รสชาติจานนี้ต้องเรียกว่า อ ร่ อ ย ม า ก จริง ๆ ค่ะ
แต่.. จุดเด่นกลับไม่ได้อยู่ที่ปลาKinmedai ไปอยู่ที่รสชาติของน้ำซุป รสชาติของ Matsutake เสียมากกว่าค่ะ..
ตัดมาทางอาหารของเชฟSK ผู้ท้าชิงกันบ้าง..
เป็นการเปิดตัวที่ค่อนข้างดีค่ะ ความเผ็ดของพริกช่วยกระตุ้นต่อมรับรส แต่ก็ไม่แรงเกินไปจนกลบรสอ่อนของปลา ต้องขอชมด้วยว่าเชฟSK เองก็ใส่ใจ หั่นชิ้นปลามาค่อนข้างหนา จานนี้ถ้าแล่ปลามาบาง ๆ นี่จบกันเลยนะคะ
จานนี้สวยยยย น่ารักมาก.. แอบกรี๊ดเบา ๆ ในใจ..
การปรุงรสชาติทำได้ดีค่ะ องค์ประกอบต่าง ๆ ช่วยเสริมรสปลา และไม่แย่งซีนกันเอง..
จานนี้ดีในแง่ของแนวคิดและการนำเสนอค่ะ ทั้งในเรื่องของการใช้กลิ่นและการนำมาย่างบนหินร้อน..
แต่ตกในแง่ปฏิบัติ เพราะกว่าปลาจะมาถึงคนกิน (กรรมการนี่แหละ) ก็แห้ง-แข็ง-เค็มปี๋ไปซะแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ
ทั้ง ๆ ที่น่าจะเป็นจานที่รสชาติดีมาก ถ้าจานนี้ปรุงออกมาได้อย่างใจเชฟSK คิดว่าเชฟบุญธรรมมีหนาวนะคะ =)
จานสุดท้าย.. ทั้งในแง่ของการนำเสนอ และความคิดสร้างสรรค์ ให้เต็มเลยค่ะ ^_^
เป็นการตีโจทย์ปลาKinmedai ที่แปลกใหม่ สร้างสรรค์ และรสชาติของปลาก็ยังสัมผัสได้..
สุดท้าย แม้เชฟSK จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนรวม แต่ในส่วนของว่านเอง ว่านให้คะแนนเชฟSK มากกว่า เพราะในเรื่องของการชูรสชาติวัตถุดิบหลัก ที่เชฟSKทำได้ดีกว่าเชฟบุญธรรม ซึ่งพลาดไปถึง 2 จานตามข้างต้น และในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ที่เชฟSKทำได้ดีกว่าค่ะ ถ้าพูดถึงในเรื่องรสชาติ เชฟทั้งสองท่านทำได้ดีอยู่แล้ว ทั้งเชฟบุญธรรมซึ่งเป็นเชฟกระทะเหล็กเอง และเชฟSK ซึ่งเป็นเชฟผู้ท้าชิงค่ะ
ใน 1 จาน ทางรายการจะถามความเห็นกรรมการประมาณ 2-3 ท่าน แล้วเลือกนำมาออกอากาศประมาณ 1-2 ท่านนะคะ ย้ำกันอีกครั้งว่าในการให้คะแนน กรรมการจะคำนึงถึง 3 หัวข้อหลักนะคะ 1.ความอร่อย 2.ความสวยงามกับการสร้างสรรค์เมนู และ 3.ชูรสชาติของวัตถุดิบหลัก ซึ่งกรรมการแต่ละท่านก็จะมีความเห็นเป็นของตัวเองค่ะ
เผลอแป๊บเดียว เป็นกรรมการเชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่นมาปีกว่า 5 เทปเข้าไปนี่แล้ว.. เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก ทั้งในแง่ของชีวิตการทำงาน การได้เพิ่มพูนทักษะและความรู้ รสชาติอาหารซึ่งไม่สามารถใช้เงินซื้อหาได้
ต้องขอขอบคุณเชฟทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นเชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่น ซึ่งก็คือเชฟบุญธรรมเอง เชฟผู้ท้าชิงทุกท่าน กรรมการทุกท่าน ทีมงานเบื้องหลังทุกคน และที่สำคัญที่สุดคือคุณหนุ่ม กิติกร ที่กรุณามอบโอกาสและเชื่อมั่นในตัวว่านน้ำ.. ขอบคุณนะคะ
ผู้อยู่เบื้องหลังงานหน้า งานผมในวันนั้น.. ขอบคุณเช่นกัน <3
ขอบคุณที่ติดตามกัน พบกันใหม่ในการแข่งขันครั้งหน้า ขอบคุณที่ติดตามว่านน้ำเสมอมา
สวัสดีค่ะ =)
