ตั้งแต่เรายังเล็ก ไม่ว่าจะในแบบเรียนหรือคำพร่ำสอนของพ่อแม่และคุณครู มักจะอบรมสั่งสอนเราเสมอว่าให้ทิ้งขยะลงถัง ข้ามถนนตรงทางม้าลาย หรือไม่ก็ข้ามสะพานลอย ไฟเขียวคือไป ไฟเหลืองคือชะลอ และไฟแดงคือหยุด..
แต่เมื่อเราโตขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เราเห็น และเป็นอยู่ กลับไม่เป็นเช่นนั้น..
เราทิ้งสิ่งของในมือเมื่อมันเป็น”ขยะ”สำหรับเรา
เราข้ามถนนตรงที่เราอยากข้ามและพอใจจะข้าม
เราเหยียบคันเร่งเมื่อเห็นไฟเหลืองและฝ่าไฟแดงด้วยคำแก้ต่างที่ให้กับตัวเองว่าเรากำลังรีบ..
และเมื่อโดนตำรวจเรียก เรามักนึกหาวิธีที่จะเอาตัวรอดจากใบสั่ง แทนที่จะยอมจ่ายค่าเปรียบเทียบปรับที่โรงพักแต่โดยดี..
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ แทรกซึมมาในกระบวนการคิดและการกระทำของเราทีละน้อย ด้วยคำว่า “ไม่เป็นไร” และ “ใคร ๆ ก็ทำกัน” เราถูกกล่อมเกลาให้เคลิ้มไปกับความรู้สึกที่ว่าคนส่วนใหญ่ก็ทำแบบนี้ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ถ้าเราจะทำตามอย่างที่เราอยากทำอีกสักคน..
เปลี่ยนดีไหม?
#InvisibleTH เป็นโครงการร่วมกับ https://makethedifference.org/ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยมองข้าม อธิบายได้ด้วยคลิปสั้น ๆ นี้
httpv://www.youtube.com/watch?v=IFW5EGGARX0
เมื่อพบเห็นสิ่งที่ไม่ควรปล่อยปละ – ละเลย – เพิกเฉย จนเกิดเป็นความเคยชิน แค่ใช้ Social Media ในมือ ไม่ว่าจะเป็น FB, IG, Twitter พร้อมแท็ก #InvisibleTH
อย่า.. ปล่อยปละปัญหา หรือคิดท้อใจว่า”แค่นี้” จะทำอะไรได้เหรอ
เพราะจากระยะเวลาที่ผ่านมา พวกเรา”ทำได้แล้ว”
แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่เราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคมได้ ซึ่งสังคมนี้.. ก็คือสังคมที่เราอยู่ สังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน.. แม้สิ่งที่เราทำ จะไม่ใช่อะไรใหญ่โตถึงขั้นเปลี่ยนโลก-หยุดจักรวาล แต่เชื่อเถอะว่าหากเรา”เริ่ม”การทำสิ่งที่ดี เริ่มหยุด-นึก-ใส่ใจ ให้ความสำคัญกับปัญหา แรงผลักดันของเราแม้จะดูเล็กน้อย เสียงของเราแม้จะฟังดูไม่ดังเท่าไหร่ การเปลี่ยนแปลงตัวเองแม้จะไม่มีใครเห็น.. แต่เมื่อเราเริ่ม แต่เมื่อเราเปลี่ยนด้วยกัน นึกถึงคนอื่นรอบข้างในสังคมให้มากขึ้น ทำในสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมตามที่เราเคยได้รับการสอนสั่งมาแต่เล็กแต่น้อยมากขึ้น เชื่อเถอะว่ามันย่อมมีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน..
เปลี่ยนดีไหม?
=)