เวิ่นค่ะ!! ช่วงนี้ว่านเวิ่นเว้อเพ้อคลั่ง เที่ยวกระจายมาก!! มีเวลาน้อยก็ยังเที่ยว!! ช่วงที่ผ่านมาเรียกว่าบินกระจาย จากบาหลี ไปเชียงใหม่ แล้วก็ไปฮ่องกง แล้วยังไปติด ๆ กันด้วยสิ..
ฮ่องกงทริปนี้นี่ต้องเรียกว่ามีเวลาน้อยก็(ยัง)จะไปนะ บินศุกร์เช้า กลับอาทิตย์เช้า แบบว่า 48ชั่วโมง in Hong Kong ยังไงยังงั้น (>_< )
เหตุเกิดจากว่ามีเพื่อนไอซ์เป็นสหายร่วมเวิ่น ทีแรกเราแพลนไปบาหลีกันก่อน แล้วยังไม่หนำใจ เลยชวนกันไปฮ่องกงต่อ แต่ทีนี้ไอซ์ไม่อยากลามาก เพราะลาไปบาหลีหลายวันแล้ว ว่านน่ะ ไม่มีปัญหาเรื่องลางานหรอกค่ะ แต่ไอซืทำงานประจำ เลยต้องระวังเรื่องวันลานิดนึง แล้วตั๋วโปร Cathay ที่ได้มา ถ้าจะให้ถูก ก็ต้องบินเช้ากลับเช้า หลังจากนั่งคิดกันว่า เอ๊ะหรือไอซ์จะกลับก่อน แล้วว่านเที่ยวต่อ หรือไอซ์จะยอมลาอีกวัน คิดไปคิดมา ชักปวดหัว (-“- ) ก็เลย.. เอาวุ้ย ไปศุกร์เช้า กลับอาทิตย์เช้านี่แหละ ไปกิน ไปเดิน ไปลั้นลากันก็พอ ไหน ๆ ก็เป็นช่วงท้ายฤดูเซลล์ด้วยล่ะ ( ̄▽ ̄)ノ
อย่างที่เล่าแล้วว่าก่อนหน้าจะไปฮ่องกง ว่านกับไอซ์ไปบาหลีกันมา ทริปนั้นกึ่งงานนิด ๆ ว่านก็หอบกล้องไปเต็มสตรีม ทั้งMirrorless ที่ใช้อยู่ประจำ แล้วก็DSLRของที่ทำงาน (ไม่นับมือถือ) พอถ่ายรูปออกมาก็พบว่า.. กล้องเต็มคอเลยค่ะ (-“- )
กี่รูปต่อกี่รูปก็พะรุงพะรังไปหมด ทั้งอุ้มทั้งหอบ..
คราวนี้ตั้งใจไปเที่ยวชิล ๆ เลยปวารณาตนว่าจะขอ Travel Light!! เอาของไปแบบเบา-เบา มีโมเม้นต์ถ่ายรูปลั้นลาบ้าง แต่ยังต้องได้รูปสวยงามนะ!! (^_^)
ทาง Samsung ให้ยืมกล้อง Samsung NX3000 มาค่ะ ช่วงเลนส์เป็น 16-50 ก็ดูครอบคลุมดีกับการเป็นกล้องพกไปเที่ยว ถ่ายเพลิน ๆ .. ขนาดพอไหว ถึงตัวเลนส์จะใหญ่ไปหน่อยเมื่อเทียบกับบอดี้ แต่ก็เป็นปรกติของกล้องสไตล์นี้แหละ.. ว่านเลยโอเค o(>▽<)o
(แอบจีบขอเลนส์ช่วงอื่นมาลองเล่นด้วย ทาง Samsung บอกว่าพึ่งมาร้อน ๆ เลยจ้า มีแค่ 16-50 นี่แหละ.. ก็เลย.. โอเคก็ได้ (>_< ) )
กล้องพร้อม คนพร้อม ออกเดินทางกันเลยดีกว่า (≧∇≦)人(≧∇≦)
ถ่ายที่สุวรรณภูมิแล้วก็ขออัพเลยนะคะ เพราะNX3000 แชร์รูปง่าย ๆ เข้ามือถือ+แทบเล็ตได้เลย..
ไปถึงชนิดเช้าตรู่(มาก) เครื่องแลนด์ 05.10 น. หลังจากลากวิญญาณ เอ้ย กระเป๋าไปฝากไว้ที่พักย่านจิมซาจุ่ยแล้ว เราก็.. ไปกิน Tim Ho Wan ติมซำมิชลิน1ดาวกันค่า ร้านนี้ไอซ์รีเคสวต์มาก เราไปที่สาขาHong Kong Station ใกล้ IFC Mall ร้านเปิด 09.00 น. เรียกว่าไปรอร้านเปิดกันเลย.. พอร้านเปิดปุ๊บ ก็พุ่งเข้าไปเพื่อจานนี้.. Baked bun with BBQ pork.. แน่นอนว่าหม่ำปุ๊บ ก็ต้องอัพเพื่อยั่วปั๊บ อิอิ
อันที่จริงซัดติมซำที่ Tim Ho Wan ไปหลายรายการอยู่ แต่เรายังมีภารกิจไปซัดร้านอื่นต่อ เลยออกมาแบบกำลังดี.. พอออกมา คิวก็ยาวม้ากกก ใครมา แนะนำมาเช้า ๆ นะคะ จะได้ไม่ต้องรอนาน..
ร่างกาย ณ . นี้โหยหาคาเฟอินมาก เลยมาบูชาคาเฟอินกันที่ Fuel Espresso ชั้น 3 IFC Mall
ร้านนี้วันจันทร์ถึงวันศุกร์เปิดเร็วใช้ได้ 07.30 น. แน่ะ วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดเปิด10โมงนะจ๊ะ
Piccolo Latte กับ Dark Blend Cappuccino ใช้โหมด A ถ่าย กด F ต่ำ หลังเบลอใช้ได้..
สำหรับคนรักกาแฟ ร้านนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงนะคะ สนนราคาต่อแก้วประมาณ40HKD ค่ะ
โหมด A กด f ต่ำตะกี้ ใครอ่านแล้วงง ไม่เป็นไรค่ะ.. อันนั้นเป็นความชอบส่วนตัวเวลาถ่ายภาพอาหารของว่าน แต่จริง ๆ แล้วสำหรับ Samsung NX3000 นี่มีโหมดอัตโนมัติมาให้ ทั้ง Auto และ Smart Mode
ซึ่ง Auto นี่ก็คือโหมดออโต้จริง ๆ ไม่ต้องคิดอะไรเลย กล้องจะคิดให้เองเสร็จสรรพ
ส่วน Smart Mode คือเราสามารถเลือกmode ต่าง ๆ ที่กล้องมีpreset ไว้ให้ 16modeแน่ะ เช่น Beauty Face/ Landscape/ Macro/ Action Freeze/ Night บลา ๆ
คือความดีงามของกล้องที่ถ่ายง่ายมันอยู่ตรงที่เราให้ใครถ่ายให้ ภาพก็ออกมาแจ่มอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ
ตอนไปบาหลี ว่านมีรูปตัวเองน้อยม้าก(เสียงสูง) ครั้นจะให้เพื่อนถ่ายแล้วบอกว่าเอา 85 f1.8 รัยงี้.. ไหนจะวัดสง วัดแสงอะไรอีก.. สารภาพว่ากลัวเพื่อนจะตบเอาค่ะ กล้องDSLR มันจุกจิกก็อีตรงเนี้ยะ พอมาใช้กล้องที่ไม่ต้องคิดมาก แต่ถ่ายออกมาได้ภาพดี ๆ มันก็แฮปปี้นะ ^_^
ได้กาแฟแล้วค่อยยังชั่วหน่อย แฮ่.. หลังจากดื่มด่ำคาเฟอินแล้ว ประมาณ 11 โมงได้.. เราก็เดินไป Lei Garden ชั้น 3 เป้าหมายอาหารกลางวันของเรา สืบเสาะจากคุณกานต์ ขาใหญ่ฮ่องกงได้ความมาว่าหมูแดง หมูกรอบที่นี่ล้ำโลกาม้าก.. จักต้องไปบูชาเสียหน่อย..
เจอคนรอคิวอยู่ประมาณนึง ก็เอาน่ะ.. ไม่น่านานมาก
พอถามพนง. แล้วปรากฏว่า.. ได้คิวบ่ายสองจ้า (Y_Y ) .. ช็อคคคคคคค
.. แต่ก็รอนะ เพราะไม่มีแพลนจะไปไหนเหมือนกัน ฮา.. บอกแล้วว่ามาชิลลลลล์
หลังจากเดิน(window) shopping ลั้นลากันใน IFC Mall อยู่สักพัก ด้วยความคิดถึงช็อกโกแลตร้อนที่ Angelina ชั้น3 เราเลยไปพักขากันที่นั่นค่ะ..
คือ.. ขนมดูดีงามเนอะ แต่ขอบอกว่าผิดหวังง่ะ.. #ร้องไห้น้ำตาไหลพราก ช็อคโกแลตร้อนก็ไม่เหมือนที่เคยตราตรึงในความทรงจำ สำหรับ Angelina ที่ฮ่องกง ขอผ่านเลยดีกว่าค่ะ เศร้า.. มื้อนี้HKD276 ปาดน้ำตาสุด ๆ
ทางเลือกมีมากมาย อย่าง Godiva Chocolatier ชั้น1 แนะนำทั้งไอศกรีม และช็อคโกแลตปั่นเลยค่ะ ล้ำาาาาาาาาาาา
หรือถ้าใครเป็นแฟน ๆ มากาฮอง Pierre Hermé ก็ไปสักการะกันได้ที่ชั้น 1 เช่นกันนะคะ <3
และแล้วก็ถึงบ่ายสอง..
เมื่อบรรจงนั่งลงที่ Lei Garden แล้วก็พบว่า.. หมูกรอบหมด!!! #ร้องไห้300ปี๊บ
ยังดีที่มีหมูแดงเหลือ.. หมูนุ่มมากกกกกกกกกกก (ก. ไก่ล้านตัว) ถึงจะติดมันไปหน่อย แต่เค็มหวานกลมกล่อมกำลังดี รับรองว่าต้องมีกลับมาล้างตาอีกรอบแน่นอน (เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นน่ะนะ)
เสี่ยวหลงเปา.. อร่อยสามัญค่ะ ไม่ถึงขนาดแสงพุ่งอะไร..
ฮะเก๋า.. ยอมรับว่าทีแรกสั่งมาแก้บน คือไม่ได้คิดมาก สั่งมาขำ ๆ แค่อยากลองชิม.. แต่เมื่อกินแล้วพบว่า อร่อยมาก (ก. ไก่ล้านหนึ่งตัวยิ่งกว่าหมูแดง) แป้งใสดึ๋งนุ่มหนึบ ไม่แหลกเละ กุ้งเด้งเต็มปากคำ.. ยกให้เป็นฮะเก๋าติดดาวเลยค่ะ (>_< )v
มื้อนี้ HKD224 แต่ปลื้มปริ่มกว่ามากกก ที่ Lei Garden แอบเห็น Baked bun with BBQ pork เหมือนที่ Tim Ho Wan ด้วย แต่เดี๋ยวเราจะไปกินร้านอื่นกันต่อ (ห้ะ) เลยต้องขอพักติมซำไว้แต่เท่านี้ก่อน รับรองว่ามาฮ่องกงอีกเมื่อไหร่ จะต้องจัดมื้อล้างตา 1 มื้อเต็ม ๆ ที่ Lei Garden แน่นอน..
ใน IFC Mall มีร้านติมซำอีกร้าน คนนิยมเหมือนกัน คือร้าน Cuisine Cuisine ชั้น3 ค่ะ แต่ขาใหญ่บอกว่า Cuisine Cuisine สาขาThe Mira จิมซาจุ่ย ยังล้ำหน้ากว่านิด ๆ เราเลยว่าจะเก็บไว้ทำแต้มพรุ่งนี้แทน แต่ถ้าใครไม่มีเวลา จะจัด Cuisine Cuisine ที่ IFC Mall เลยก็ได้นะคะ เมนูแนะนำก็ฮะเก๋าปิดทอง ปลาไหลย่าง เต้าหู้ทอด ก๋วยเตี๋ยวหลอด ขนมจีบ ซาลาเปา หมูกรอบ.. อูยยยย พูดแล้วหิว ชักอยากจองตั๋วพรุ่งนี้เลย (เงินล่ะ!!!)
เอาล่ะค่ะ แล้วเราก็มาถึงร้านต่อไป.. Le Salon De Thé de Joël Robuchon
ร้านนี้อยู่ชั้น 2 IFC Mall ค่ะ เรียกว่าวันแรกทั้งวันแทบไม่ได้ไปไหน เดินชิล-แช๊ะ-ชม-ช็อป-ชิมอยู่ใน IFC Mall นี่แหละ 555 มาดูขนมชิ้นแรกกันดีกว่า.. Le thé au Earl Grey
จะชอบ NX3000 อีกอย่างก็ตรงที่มีจอflip ได้180องศานี่แหละ เก็บภาพครบทั้งคนทั้งขนม อิอิ
แอบชอบกระจกที่ข้าง ๆ เลยถ่ายselfie เล่น.. ปรกติว่านไม่ค่อยชอบใช้กล้องหน้า มันเบลอเกิ้น.. แต่จะใช้กล้องหลังของมือถือ ก็กะไม่เก่งขนาดนั้น จะวานเพื่อนถ่าย บางทีก็อยากselfieเองอะไรเอง #เข้าใจตรงกันนะ เลยflipจอselfie นี่แหละ เวิร๋กมาก!!! อันนี้โหมดBeauty Face ค่ะ #สวยด้วยกล้อง #555
ถ่ายรูป เอ้ย กินขนมจนหนำใจ หมดไปอีก175HKD (ขนม2ชิ้น ชา1แก้ว) เราก็ไป Times Square กันค่ะ อยู่ MRT Causeway Bay..
ไปทำไมน่ะเหรอคะ.. ก็เพราะเค้ามีจัดนิทรรศการ One Piece docks at Hong Kong ไงคะ o(>▽<)o ถึง31สิงหานี้เท่านั้นน้า
หลังจากเพื่อนไอซ์สาสมใจกับ One Piece แล้ว.. ก็ได้เวลา.. กิน (>_< )
ก็กว่าจะได้ขึ้นเรือThousand Sunny ก็รอคิวนานอยู่น้า.. อ้อ ก่อนที่จะไปกินมื้อเย็น สำหรับคนที่เป็นสาวกมากาฮอง Ladurée ที่Times Squareนี่มีสาขาอยู่ชั้น3 จ้า XD
มื้อค่ำเราวันนี้ คือหมี่เกี๊ยวร้าน Ho Hung Kee ชั้น12 ตึกHysan Place ไม่ไกลกันเท่าไหร่..
หมี่เกี๊ยวดีงามตามท้องเรื่อง เนื้อตุ๋นโอเคอยู่ค่ะ ตัวเนื้อยังเปื่อยไม่ค่อยได้ที่เท่าไหร่ แต่ส่วนเอ็นนี่ดึ๋งกำลังดีมาก รสชาติไม่หวานหรือเค็มเกิน แต่ลูกชิ้นปลาทอดไม่ต้องสั่งนะ ที่ร้าน Law Fu Kee กินขาด มื้อนี้247.5HKD
อ้อ ถ้าใครชอบกาแฟ มี Holly Brown Coffee อยู่ชั้น 3 ตึกเดียวกันค่ะ
กินกันทั้งวัน ก็ต้องหาทางเผาผลาญหน่อยนะ.. วิถีที่จะชมแสงสียามค่ำคืนของฮ่องกงได้ง่ายที่สุดคือ.. Symphony of Lights ค่า ^_^
น่าเสียดายว่าช่วงที่เราไป ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดเลย มีฝนพรำเป็นช่วง ๆ ฟ้าเลยไม่เปิดเท่าไหร่ เสียดายอ้ะ.. ยังดีมี Night Mode มาช่วยได้บ้าง.. (>_< )
เล่น Flip 180 ดีกว่า #FlipDisplay ถ่ายภาพแล้วยังเก็บวิวด้านหลังได้ด้วย อิอิ มือถือบางเครื่องถ่ายมาแล้วเห็นแต่หน้าคน อยากได้วิวด้วยน้า จะได้รู้ว่าอยู่ไหน..
ตอนเดินกลับที่พัก เห็นมีแม่ค้าขายไฟวิ้ง ๆ เลยขอเล่นโหมด #LightTrace ซะหน่อย (≧∇≦)
ถึงที่พัก สลบเหมือด เหนื่อยมว้ากกกกก..
พักเป็นhostel เล็ก ๆ แค่พออาบน้ำอุ่น ซุกแอร์เย็น ๆ นอนค่ะ เช้ามาก็รีบเผ่นมา Pacific Place MRT Admiralty เที่ยงนี้มีนัด อิอิ
แต่ก่อนถึงเวลานัด ก็ต้องขอเติมคาเฟอินซะหน่อย ที่ร้านC’est La B ชั้น2..
.. มาถึงที่ร้านกันตั้งแต่ 10.30น. ตู้โชว์เค้กโล่งมาก (คือเขาว่าเค้กร้านนี้อร่อย..) ถามพนง. ได้ความว่าเค้กจะมาส่งตอน.. เที่ยง.. (Y_Y )
เลยว่างสิคะ ว่างมากกกกกกก.. เน็ตที่ Pacific Place ก็ให้เล่นแค่ครึ่งชั่วโมงมั้ง พอดีมาแค่ 2 วันเลยไม่ได้ซื้อซิมเน็ต (Y_Y ) ไม่มีอะไรทำ ก็เลย.. ถ่ายรูปเล่น!! #ยิ้มค้าง #ว่างไปอีกชั่วโมงครึ่ง #เน็ตไม่มีใช้
NX3000 ค่ะ ถ่ายมันเข้าไป ลองเล่นกันทุกโหมด มาครง มาโคร.. Rich Tones..
ถ่ายเล่นกันแทบจะทุกมุม.. เค้กก็มาจ้า #น้ำตาไหลพราก
“Better Than Sex” #จริงเรอะ
พนักงานร้านเค้าคงตื้นตันใจอยู่ใช่น้อย.. เค้กชิ้นเล็ก ๆ ของร้านฉันชิ้นเดียว พวกเธอสองคนถ่ายกันแทบจะทุกองศา..
คือพยายามทำปากให้เหมือนปากบนเค้กนะ ไม่ใช่อะไร 555
และแล้วก็หมด #ก็ชิ้นแค่เนี้ยะ
กาแฟ 2 เค้ก 1 = 173HKD สรุป.. ถ้าผ่านก็มากินได้ ไม่ได้กรี๊ดขนาดต้องดั้นด้นมา..
เค้กหมดชิ้น.. คุณพี่ที่นัดไว้ก็มาพอดี เราเลย.. ไปกินกันต่อ (^^’ ) #ทริปเที่ยวไปกินไป #FlipDisplay
เจ้าถิ่นพาไปกินข้าวหน้าไก่ร้านWing’s Catering หรือ Wic สาขาLandale Street, Wan Chai กินแล้วอยากจะบอกว่า.. แจ่วจ๋า อยากได้แจ่วจริง ๆ (>_< ) .. ไก่นุ่ม ๆ หนังกรอบ ๆ อร้ายยยยย
เท่านั้นยังไม่พอ.. ข้าง ๆ ร้าน Wic เป็นร้านเบอร์เกอร์ที่อร่อยม้ากกกกก ตามปากคำของเจ้าถิ่น.. ซึ่งก็พิสูจน์ได้ด้วยจำนวนคนรอคิวแน่นร้าน..
The Butchers Club Burgers อยู่ Rialto Building, Landale Street เหมือนกันเลย ร้านนี้มีเมนูหลักเมนูเดียว ได้แก่.. เบอร์เกอร์ ชิ้นละ100HKD #นายแน่มาก
เริ่มจากขนมปังเป็น Scotch Bap เหนียวนุ่ม ชีสWhite Cheddar เบค่อนก็เป็น Canadian Smoked Bacon นอกเหนือจากซอสสูตรพิเศษแล้วก็ยังปาดด้วย Caramelised Onion Spread และแน่นอนว่าชิ้นเนื้อหนานุ่มนั้น ทางร้านเลือกใช้ dry-aged Black Angus beef อย่างดีจาก NSW, Australia..
รอคิวอันที่จริงก็ไม่นานเท่าไหร่ ต้องขอขอบคุณผู้ร่วมอุดมการณ์ทุกท่านที่ร่วมรอนะคะ <3
กินละน้า.. งั่บ!!!
แต่คือ.. ไม่ต้องถ่ายกันขนาดนี้ก็ได้นะ (-_-‘ ) 55555
ฟินไม่ฟิน ไปดูกันได้จ้า อิอิ
httpv://www.youtube.com/watch?v=6j1n-TTWKDU
หลังจากกินเสร็จ เราก็ดื่มกันต่อ (เฮ้ย) .. คือเจ้าถิ่นเค้าล่อลวงอีกแล้วว่าชานมไข่มุกเจ้านี้เด็ดมากง่ะ Gong Cha
ก็เข้มข้นหวานมันสมดังคำล่อลวง ไข่มุกก็หนึบหนับดี XD
อยู่ลั้นลากันได้ไม่นาน ก็ได้เวลาร่ำลา เราก็แตกตัวไปเดินหม่งกกกัน #ขอเก๊กหน่อย
จริง ๆ เห็นป้ายพวกนี้ตามMRT บ่อยมาก เห็นแล้วก็นึกขำไม่ได้ ด้วยนึกถึงการ์ตูนที่เคยผ่านตา
ลองเดากันเล่น ๆ ไหมคะ ว่าผู้คนบนป้ายคัทเอ้าท์มหึมาเหล่านี้เป็นใคร (^_^)
เฉลย.. เป็นติวเตอร์จ้า o(>▽<)o
การ์ตูนที่นึกแล้วชวนให้ขำเพราะเห็นจริงดังว่า คืออันนี้ค่ะ 555 [จาก http://hongwrong.com/taiwan-vs-hk/]
เดินแถวหม่งกก ก็สนุกสนานดีค่ะ ดูนู่นนี่ช็อปปิ้งกันเรื่อยเปื่อย มีSasa และนานาร้านเครื่องสำอางให้แวะเวียนทุกหัวมุมถนน.. #แต่ภาพมีแต่ของกินนะ #เอ๊ะยังไง
เห็นคุณลุงโชว์ลีลาผาดโผน เลยขอลองโหมด #ActionFreeze หน่อยค่ะ (≧∇≦)
ได้เวลาเย็น วันนี้มีอีกนัด.. แต่เหลือเวลาเลยขอไปช็อปปิ้งของฝากมารดาเสียหน่อย #ซื้อแบรนด์เนมให้มีเคือง #ซื้อซีอิ้วพรีเมี่ยมให้คือปลาบปลื้ม #ลูกไม้ใต้ต้น
มื้ออำลาฮ่องกงของเราวันนี้.. ที่ร้าน Mark One ค่ะ เป็นร้านอาหารฝรั่งเศส+ญี่ปุ่น พิกัดตามนี้
Shop 3 & 5, G/F & 1/F, Jupiter Tower,9 Jupiter Street, Tin Hau
เมนูผสมผสานระหว่างอาหารฝรั่งเศส+ยุโรปอีกนิดหน่อย แล้วก็ญี่ปุ่น จะว่าฟิวชั่นก็ไม่เชิงนักค่ะ เรียกว่าตามใจเจ้าของร้านละกัน 555 ในภาพจะเป็นเมนูแนะนำนะคะ
แล้วก็sashimi รวม.. มีทั้งกุ้ง+Otoro+Hamachi และ..
Iberico Ham ที่นี่ก็ไม่อยากให้พลาดนะคะ.. สีฉ่ำได้ใจมาก <3
พอมาถึงตอนนี้ สาวไอซ์เริ่มออกอาการค่ะ.. อาการบ่น!! มือถือถ่ายรูปไม่ได้อย่างใจ!!! ก็แหม.. ในร้านโรแมนติกแบบนี้ แสงมันน้อยนี่นา ช่วยไม่ได้น้า.. อันนี้แอบจิ๊กรูปจากมือถือที่เธอลงในเฟซบุ๊กมาให้ดูค่ะ อิอิ
ร้านนี้โรแมนติกจริงจังค่ะ มีคนมาทำเซอร์ไพรซ์สาว ให้ดอกกุหลาบสีฟ้าช่อใหญ่ม้ากกกก กะด้วยตาน่าจะราว 2-300 ดอกเห็นจะได้.. แล้วก็มีสาว ๆ มาจัด Bachelorette Party เล็ก ๆ ด้วย.. คณะเราพอเนียน ๆ ปรบมือแล้วก็.. กินกันต่อค่ะ 55555
จานนี้ Escargot นอนมาในเห็ด.. แหวกแนวดี
Main เป็น Pork Chop เสิร์ฟพร้อมCrab Meat and Scallop Risotto with Black Truffle เป็นจานsignature ของทางร้าน..
ปิดท้ายมื้อด้วยนานาขนม.. Panna Cotta + Crème brûlée + Tiramisu + Cheese Cake + Chocolate Fondant .. อิ่มม้ากกกกกกกกก
ค่ำคืนยังสนุกสนาน แต่ต้องร่ำลา.. น่าเสียดายที่ว่าวันรุ่งขึ้น ต้องไปถึงสนามบินตีห้าค่ะ เพราะเครื่องออกแปดโมงเช้า (จริง ๆ ก็วันนั้นแหละ เพราะกว่าจะออกจากร้านก็ตีสองแล้ว กรี๊ดดดด)
หลังจากกลับมาอาบน้ำ นอนเอาแรงนิดหน่อย ว่านกับไอซ์ก็มีมติกันว่า.. นั่งแท็กซี่ไปเถิด จะเกิดผล.. ค่าแท็กซี่จากจิมซาจุ่ยไปสนามบินเวลาตีห้านั้น 250 HKDจ้า..
และแล้วเราก็มาถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ มีเวลาโต๋เต๋ช็อปปิ้งในสนามบินอีกเพียบ..
แอบเล็งขนมไหว้พระจันทร์ของเพนนนินฮ่องกงอยู่นานมาก ว่าจะซื้อดีไม่ซื้อดี เพราะแพงกว่าที่ไทยประมาณเท่านึงได้.. สุดท้ายก็ตัดใจ (>_< )
ขอบคุณทาง Samsung ที่ให้ยืมกล้อง NX3000 มาลองเล่นนะคะ ภาพทั้งหมดที่ถ่ายด้วย Samsung NX3000 ว่านแค่ย่อภาพ+sharpen+ใส่ลายน้ำ ไม่ได้มีการปรับแสง สี คอนทราสแต่อย่างใดนะคะ เป็นกล้องพกพาที่ถ่ายสนุกดีค่ะ แม้ตัวเลนส์ที่ใหญ่เมื่อเทียบกับบอดี้บาง ๆ อาจจะทำให้การปรับมือเดียวยากไปบ้างเพราะต้องคอยระวังเรื่องสมดุลกล้อง แต่สำหรับขนาดโดยรวมที่ค่อนข้างกระทัดรัด พกในกระเป๋าไม่กินที่มาก ถ่ายสนุกและง่าย แชร์ภาพได้ทันใจ ก็ตอบโจทย์ได้หลายข้อเลย สำหรับคนอยากได้กล้องเดียวที่จบในตัว พกง่าย แชร์ง่าย ได้ภาพสวย =)
ที่ว่านชอบมากก็flip 180 นี่แหละค่ะ ปรกติว่านไม่ค่อยถ่ายselfie เท่าไหร่ เพราะถ่ายไปก็เห็นแต่หน้าตัวเองอ้วนอืด (^^’ ) แต่คราวนี้ถ่ายเองคนเดียวก็ได้ เห็นวิวด้วย เล็งได้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจใคร 555 ทำให้ทริป 48 ชั่วโมง in Hong Kong ที่ถึงจะสั้นไปสักนิด แต่ก็สนุกสนานได้ทุกนาทีค่ะ ขอบใจเพื่อนไอซ์ด้วย ที่มาเป็นสหายร่วมเวิ่นเว้อ ร่วมแชร์น้ำหนัก+แคลอรี่ (^o^) เป็นทริปที่ถ่ายรูปกันเยอะมากกก.. และมีร้านปักหมุดล้างตาอีกเพียบ!!!
สุดท้ายนี้.. ก็ขอทิ้งท้ายไว้ตามภาพข้างล่างค่ะ
จะเวลามาก เวลาน้อย จะใกล้ หรือจะไกล..
ก็ไปเที่ยวกันเถอะ จะได้อ่านโลกมากกว่าหน้าเดียวนะ ( ^_^ )
แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ..