หากจะกล่าวว่า Dean & Deluca คือสุดยอดแห่ง Gourmet Store ของมหานครนิวยอร์ก Fauchon “โฟชอง” ก็คือตำนาน Gourmet Store ของกรุงปารีสนั่นเอง..
ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1886 นับจนถึงวันนี้ Fauchon ถือเป็น luxury food store เด่นล้ำในเรื่อง Gourmet Product ต่าง ๆ โดยมี Iconic product มากถึง 15 ชนิดด้วยกัน ตัวที่จับใจมาแต่เด็ก เห็นจะเป็น Les marrons glacés de Turin หรือเรียกอย่างบ้าน ๆ ก็คือเกาลัดเชื่อม.. ฟังดูอาจจะธรรมดา แต่เกาลัดลูกมหึมานั้น เขาเชื่อมได้อย่างไว้ฝีมือ ถึงลูกจะใหญ่เบิ้ม แต่กลับเชื่อมได้อย่างเนื้อนุ่มนวล กัดแล้วจมเขี้ยว ยิ่งเชื่อมแบบเข้าคอนยัคด้วยแล้วนั้น รับประทานกับชาร้อน ๆ สวรรค์โดยแท้เชียว..
เมื่อ Fauchon มาเปิดสาขาแรกที่ไทย ณ ชั้น2 Groove@Central World และส่งเทียบเชิญมา ว่านจึงรับคำอย่างยินดี..
Fauchon ต้อนรับเราด้วยสีชมพูMagenta (อย่าได้เรียกชมพูบานเย็นเชียวนะเออ ไม่ปารีเซียงเอาเสียเลย..) ตัดและแต่งแต้มด้วยสีดำ เงิน และทองเพิ่มความอลัง แต่ยังคงความกันเองไว้ด้วยเก้าอี้สาน และพื้นที่นั่งโซนนอกร้าน บรรยากาศเน้นความสบาย ๆ อย่าง Brasserie มากกว่าจะเป็น Fine Dine ทางการ..
ภายในร้านเต็มไปด้วยนานาสินค้า Fauchon ทั้งขนมอบ สินค้าGourmetและที่ระลึก รวมถึงชาต่าง ๆ
มาว่ากันถึงอาหารดีกว่า.. Tabletop นี่ต้องส่งไปขออนุมัติถึงฝรั่งเศสเชียวนะคะ แหม.. =)
ขนมปังเสิร์ฟพร้อมเนย Lescure แน่นอนว่าจากฝรั่งเศสเช่นกันค่ะ
มีสามชนิดให้เลือก แบบพริก / เกลือพริกไทยดำ และแบบธรรดา..
Flaked Crab with Espelette Chili Pepper, Avocado and Marinated Tomato (470บาท)
ชิ้นปูประดับมาบนมะเขือเทศปรุงรสและอโวคาโด้ เย็นสดชื่นดีค่ะ
Duo of French Duck Foie Gras, Terrine and Pan Fried (890บาท)
ฟัวกรามาให้เลือกทั้งสองแบบ.. ทั้งแบบแตรีนชิ้นเหลี่ยม pâté de foie gras และแบบทอดนาบกระทะที่คนไทยโปรดปราน.. เสิร์ฟพร้อมสลัดแอปเปิ้ลหย่อมน้อย พรีเซ็นเทชั่นน่ารักเชียว
Red Wine Braised Beef Cheek, Fresh Basil Tagliatelle (790บาท)
เนื้อแก้มวัวก็ตุ๋นได้เปื่อยนุ่ม (ออกจะนุ่มไปสักนิดหนึ่ง) รสไวน์แดงเข้าเนื้อดีค่ะ
Tagliatelle คือเส้นพาสต้าจากแคว้นEmilia-Romagna ของอิตาลี่ มีลักษณะแบนยาวคล้าย Fettuccine ที่เราคุ้นเคยกัน
Roasted Lamb Saddle with Green Peas “a la Francaise” and Bacon (740บาท)
การปรุงรสทำได้ดี เสียดายว่าตัวแกะอบมาสุกไปหน่อย แต่เข้าใจได้ว่าต้องการปรุงให้เข้ากับความชอบของลูกค้าชาวไทยส่วนมาก แต่ถ้าเป็นต่างชาตินี่มีเคืองแน่ ๆ เบคอนกรอบดีค่ะ แทะเพลิน อภัยให้ อิอิ
Petits Pois à La Française คือถั่วลันเตาปรุงอย่างฝรั่งเศส โดยใช้ถั่วลันเตา เนย หอมใหญ่ รวมถึงผัก-สมุนไพรใบหอมอื่น ๆ ต้มขลุกขลิกในน้ำสต็อกให้เข้ากันจนสุกดี..
Chorizo Crusted Black Cod Fillet, Olive Oil, and Basil Mashed Potato (595บาท)
จานนี้ถูกใจกันทั้งโต๊ะ ปลาปรุงมากำลังดี ไม่สุกเกิน Chorizo ก็ให้ทั้งรสชาติและความมันที่คล้องจองกับอาหารทะเลอยู่แล้ว พอจัดมาเป็น Chorizo Crusted แบบนี้ มีรสเผ็ดเจือปลายลิ้น ก็ยิ่งถูกใจไปกันใหญ่
มันบดก็ทำได้นุ่มนวลดี ไม่”กาว”ค่ะ
Duck à l’Orange, Potato Gratin Dauphinois (620บาท)
เป็ดอบซอสส้ม เป็ดสุกไปหน่อย(อีกละ) การปรุงความสุกของเนื้อที่นี่ จะค่อนข้างเอาใจกลุ่มลูกค้าคนไทยทั่วไปซะมาก ถ้าใครชอบกินแบบมาตรฐานตะวันตก คงต้องเน้นกับบริกรนะคะ ว่าปรุงแบบ Rare หรือจะ Medium Rare ก็ว่ากันไป ตามแต่ชนิดของเนื้อสัตว์นะคะ เว้นแต่ Braised Beef Cheek อันนั้นพ่อครัวคงไม่สามารถจัดแบบ Rare ให้ได้ อิอิ
Gratin dauphinois ว่ากันง่าย ๆ ก็เป็นกราแตงมันฝรั่งและครีมซอส โปะด้วยชีสแล้วอบจน.. อื้มมม สุกนุ่ม <3
เป็นอาหารของแคว้น Dauphiné ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสนะคะ
Truffle Risotto (990บาท)
กลิ่นดีมาก textureข้าวเกือบใช้ได้ ไม่หวงเครื่อง ให้ผ่าน
12 – 20 กันยายนนี้ เป็นสัปดาห์แห่งขนมเอแคลร์ซึ่งจัดพร้อมร้านต้นตำรับที่กรุงปารีสเลย เรียกได้ว่าระดมเอแคลร์ทุกคอเลกชั่นมาเลยเชียว จัดกันปีละหน ใครพลาดรอปีหน้านะจ๊ะ <3
ที่ไทยนี้มี 11 รสค่ะ สนนราคา 155-175 บาท
รสที่เป็น Signature ของ Fauchon Thailand คือรสอยุธยา
(อีกรสนึงคือรสชาดอกมะลิ ที่เคลือบหน้าด้วยลายประจำยามสีชมพู ชิ้นหน้าสุดนั่นแหละค่ะ)
เอแคลรือยุธยาเป็นเอแคลร์สอดไส้เพสทรี่ครีมที่สอดผสานกลิ่นหอมของตะไคร้และใบมะกรูด ด้านบนเคลือบด้วยไวท์ช็อคโกแลต และประดับด้วยริ้วมะพร้าว แต้มด้วยทองคำเปลว..
ถูกใจการใช้ริ้วมะพร้าวที่ยังเหลือขอบดำนี้มากเลยค่ะ เหมือนพลิ้วระบายกระโปรง.. น่ารักจัง
เอแคลร์คาราเมล เป็น Salty Caramel คนไม่ชอบขนมหวานเจื้อย ๆ โดด ๆ น่าจะถูกใจ
เอแคลร์ พราลีน.. เปลือกแข็งไปหน่อย..
เอแคลร์เลม่อน เมอแรงก์ ตัวที่ออกใหม่ เปิดตัวพร้อมที่ปารีสเลย
รสเปรี้ยวแจ่มดีมาก
มาการง (95บาท)
นำเข้าเพื่อให้ได้มาตรฐานเดียวกันทุกแห่ง (เว้นที่Fauchonญี่ปุ่นจะมีโรงงานเป็นของตัวเอง)
การขนส่งจะมีการควมคุมอุณหภูมิตลอดจนถึงร้าน อย่างรถที่ใช้ขนส่งก็ -18 C
เปลือกค่อนข้างกรอบเลยล่ะค่ะ
ชาที่ได้ลองวันนั้นจะเป็นFauchon Blend Tea (290บาท)
จะเป็นชาดำของจีนผสมกับชาขาว ให้กลิ่นสดชื่นของผลไม้ตระกูลส้ม เคล้ากลิ่นวนิลา และทุ่งลาเวนเดอร์..
แนะนำว่าควรดื่มแบบไม่ใส่นมนะคะ ^_^
ขอบคุณ Fauchon Thailand ที่เชิญว่านไปลองนะคะ ใครสนใจติดตามข่าวสารของ Fauchon Thailand ก็เชิญได้ที่นี่เลยค่ะ =) https://www.facebook.com/FauchonThailand