“ชาบูตง” ชื่ออันเป็นที่คุ้นเคยของคนไทย ด้วยฝีมือแห่งเชฟ Yasuji Morizumi ผู้ได้ชื่อว่าเป็น King of Ramen และยังได้รับรางวัลสุดยอดราเม็งจากรายการ TV Champion..
ราเม็งญี่ปุ่นนั้น หลัก ๆ มีอยู่ 4 แบบด้วยกัน อันได้แก่ Tonkotsu Ramen ราเม็งในซุปกระดูกหมูน้ำข้น Shoyu Raman ราเม็งในซุปซีอิ้วญี่ปุ่น Miso Ramen ราเม็งในซุปมิโสะ และ Shio Ramen ราเม็งในซุปใส..
ประเดิมกันด้วย Tonkotsu Miso Ramen กันก่อนเลย เป็นราเม็งในซุปกระดูกหมูเข้มข้น หนักแน่นถึงรสมิโสะ เส้นลวกมาแบบนุ่ม ๆ ถูกปากคนไทย
ถ้าใครชอบความเข้มข้นแบบกำลังดี Miso Ramen ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ.. ออกแนวกลมกล่อม
หรือถ้าเป็น Shoyu Ramen ก็จะออกใส ๆ คล่องคอ เส้นจะเป็นเส้นแบนนะคะ
ราเม็งนี้เอง ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ TV Champion
เห็นราเม็งต้มยำกุ้ง.. ปรกติจะไม่ค่อยอยากสั่ง เพราะกลัวได้ต้มยำกุ้งแบบรสชาติ งง งง
แล้วส่วนมากว่านจะไม่ค่อยกล้าสั่งกุ้งตามร้านอาหาร เพราะมักจะเจอกุ้งฟอสเฟตซะเยอะ
แต่วันนี้ไหน ๆ ก็ทางร้านเชิญมา เลยขอลองซะหน่อย จะได้มาบอกเล่าได้ถูกว่าควร/ไม่ควรสั่งยังไง
หลังจากลองแล้ว สรุปว่าใครสนใจอยากจะลอง สั่งได้เลยค่ะ..
ต้มยำเป็นแบบครบรส เปรี้ยวนำ เค็มเผ็ดตาม หวานรั้งท้าย ไม่ถึงขนาดเผ็ดจัดจ้านปากเจ่อ แต่กินแล้วได้รสได้ชาติต้มยำ ไม่เสียทีที่พะชื่อไว้ว่าเป็นราเม็งต้มยำค่ะ
ส่วนกุ้งก็เป็นกุ้งลายเสือ สดเด้งดี ถามย้ำแล้วว่าถ้าคนอื่นมาสั่งก็ต้องได้แบบนี้นะ (>_< ) ทางร้านรับรองแข็งขันว่าได้แน่นอน..
คุยกันได้ความว่าราเม็งสูตรนี้ กว่าจะคลอดมาได้ ต้องส่งไปให้ทางญี่ปุ่นชิมและอนุมัติอยู่นาน เพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปากลิ้นทั้งคนไทยและญี่ปุ่นที่สุด ตอนนี้เลยเป็นเมนูขายดีไปเลย
สำหรับคนไม่กินเส้น หรือมาชาบูตงบ่อยแล้ว อยากลองอะไรอย่างอื่นบ้าง.. ก็มี Toridon Set ที่มาใหม่นอกจาก Chashudon ของเดิม..
เป็นข้าวสวยหุงร้อน ๆ โปรหน้ามาด้วยไก่สองสหาย ได้แก่ไก่ชิ้นอบแล้วย่างซ้ำเพื่อความหอม และไก่สับ รสชาติออกเค็มมัน เสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวน้ำ
เกี๊ยวซ่า เห็นแล้วคิดถึงช่อมะกอกค่ะ แต่จะว่าเหมือนผีเสื้อก็เหมือนนะ
ส่วนรสชาติก็ได้มาตรฐานดี..
มันฝรั่งทอด.. กรอบนอกนุ่มใน ร้อน ๆ อร่อยดีค่ะ
Chicken Tatsuta Age เป็นไก่หมักซีอิ้วชุบแป้งทอด
ค่อนข้างถูกใจเกี๊ยวซ่าหรือมันฝรั่งทอดมากกว่าค่ะ
มาถึงของหวานกันบ้าง..
Almond Jelly หรือเต้าฮวยนั่นเอง.. ของหวานประจำชาติร้านราเม็ง.. ไปที่ไหนก็มักเจอ
ของที่ชาบูตงมาแนวแปลก มีมะนาวฝานมาให้ เวลากินต้องคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็แปลกลิ้นดีค่ะ
ชาบูตงยังเอาใจสาว ๆ กันด้วย Panna Cotta มีทั้งชาเขียวและราสพ์เบอร์รี่..
เนื้อ Panna Cotta ที่นี่จะออกแน่นอยู่สักหน่อย รสชาเขียวจะไม่หวานมาก กินกับถั่วแดงก็กำลังดี
ส่วนราสพ์เบอร์รี่ก็ออกเปรี้ยวเลยแหละ กินแล้วสดชื่นกันเลยเชียว..
สนนราคาราเม็งต่อชามก็ตกอยู่ราว 170 – 265 บาท (ก็คือ Tonkotsu Miso Chashumen หมูตู้มนั่นแหละค่ะ) เรียกว่าราคากันเองใช้ได้สำหรับความเป็นราเม็งต้นตำรับจากญี่ปุ่น
ชาบูตงทั่วไทยตอนนี้มี 14 สาขา ถ้าสาขาแรกเลยจะเป็นที่สยามซอย 3 นั่นแหละค่ะ
แต่ถ้าอยากกินใกล้บ้านแล้วนึกไม่ออก ให้นึกถึงเซ็นทรัลเข้าไว้ เรียกว่าเซ็นทรัลมีกันแทบทุกสาขาเลย สะดวกที่ไหนแวะไปกันได้ และกำลังทยอยเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
ดูรายละเอียดกันได้ที่นี่เลย -> https://www.facebook.com/ChabutonRamen
ขอบคุณชาบูตงที่เชิญว่านไปลองนะคะ พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ