ว่านเป็นคนรักสบายค่ะ.. ชอบหานู่นหานี่มาอำนวยความสะดวกให้ชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นคนเสพติดGadget และอุปกรณ์IT แต่อย่างใด อีกทั้งเป็นคนใช้ของนานมากกกกกกกก (ก. ไก่ล้านตัว)
คือคนรอบข้างนี่จะรู้เลยว่าว่านไม่วิ่งตามเทรนด์ ถ้าตัวไหนจำเป็นจริง ๆ ถึงยอมซื้อ.. อย่างพี่  เจอหน้าทีไรก็จะแซวบ่อย ๆ ว่า “ว.น. ยังใช้ N*kia 6210อยู่รึเปล่า” .. แหม่..
Smart Phone เครื่องแรกที่มีใช้ก็ Samsung S3 นี่แหละ เขียนบล็อกแล้วได้รางวัลมาเมื่อ2ปีก่อนนี่เอง ไม่งั้นคงยัง N*kia 6210 ต่อไป ฮา..

ฉะนั้นแล้วเนี่ย.. เวลามีอุปกรณ์ IT / Gadget ต่าง ๆ นานา มาขอให้เขียนรีวิวให้ ว่านมักจะอิดออด ลำบากใจ ไม่ใคร่อินเท่าไหร่ เพราะเขียนแบบอัดสเป็ก เปรียบเทียบซะยังกะเข้าห้องแล็บจากคิงส์ คอลเลจไม่เป็น เอ๊ะนั่นมันซุปไก่สลัดใช่ไหมนะ ก็เลยจะพยายามเกี่ยง ๆ เลี่ยง ๆ เต้นฟุตเวิร์กไปรอบ ๆ จนเขาค่อย ๆ หายหน้าหายตากันไปเอง.. มีเหลือรอดมาแค่บางรายเท่านั้นเอง ฮา..

ตอนแรกที่ทาง Samsung มาเชิญให้แชร์เรื่องราวสำหรับแคมเปญ #MyNoteStory ก็เหมือนกัน ก็เต้นฟุตเวิร์กอยู่ประมาณนึง จนเค้าบอกว่าเอาแบบที่ว่านเขียนเนี่ยแหละ.. ก็เลยแอบมองอยู่ห่าง ๆ เพราะคิดว่าประสบการณ์ Samsung Galaxy Note ตัวเองยังน้อยนัก ไม่เหมือนบล็อกเกอร์สาย IT ที่เค้าเล่นกันจริงจัง จนไปคุยกับเพื่อนแถวนี้แหละ ก็บอกว่าก็เขียนไปเหอะ ถ้า Samsung เค้ามาเชิญ ก็แสดงว่าเขาเห็นว่าเราเป็นคนที่ใช่ (คิดแล้วน้ำตาจะไหล) ก็เขียนเล่าในแบบที่เราเป็นนี่แหละ

มานั่งคิดดู.. อันที่จริงก็เคยมี Samsung Galaxy Note ผ่านมืออยู่หลายเครื่องเหมือนกัน นับตั้งแต่ตอนนั้นที่ไปร่วมทริปสร้างสรรค์ความสนุกทุกที่กับ “ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 8.0”
2013-06-06 14.10.12

จนถึงโน้ต 10.1 ที่เป็นเครื่องของบริษัทเก่า ตอนนี้คืนไปแล้ว ฮือ ๆ คิดถึงจัง..
พอรู้สึกว่าคิดถึงมันขึ้นมา ก็เลย.. เออ ก็แสดงว่าเจ้าโน้ตนี่มันก็มีแง่มุมที่น่าเขียนถึงเหมือนกันนะ.. 
6401

ด้วยความเป็นคนรักสบายอย่างที่บอก ก็เลยคิดว่ามาเล่าสู่กันฟังละกัน ว่า Samsung Galaxy Note มันช่วยให้ชีวิตว่านง่ายขึ้นยังไง..

อย่างแรกเลยเนี่ย.. สิ่งที่ตีกรรเชียงคู่มากับความรักสบายอย่างลับ ๆ คือความขี้เกียจค่ะ (-_-‘ )
คือชอบให้ชีวิตมันง่าย แต่ว่านขี้เกียจแบก.. จะให้มารุงรังนุงนัง พกอะไรใหญ่ ๆ โต ๆ นี่รำคาญนะ.. อย่างตอนซื้อโน้ต.. บุ๊กเครื่องใหม่เนี่ย (เดิมใช้PC มา5ปี พึ่งมาซื้อใหม่เมื่อกลางปีนี่เอง) กว่าจะได้ซื้อนี่ขอบอกว่ามหากาพย์มาก ซึ่งคนที่เปลี่ยนอุปกรณ์ IT บ่อย ๆ คงไม่เข้าใจ (ฮา) คือตั้งกะเปรียบเทียบเสป็ก เฟ้นยี่ห้อ ดูน้ำหนัก.. คือว่านไม่เน้น”ใหญ่” แต่เน้น”เบา” เพราะเผื่อเวลาไปต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่นเนี่ย ต้องบุกป่าฝ่าดง ขึ้นเขาลงห้วย การต้องมาแบกอะไรที่หนักและใหญ่นี่ทำลายสุขภาพหลังมาก ไม่ขอรับภาระเพิ่มเด็ดขาด (-“- )

ก็อย่างที่รู้กันว่าว่านเป็นบล็อกเกอร์ หน้าที่การงานมันก็ผูก-พันกับ Social Media และinternet นี่แหละ.. มีSmart Phone ที่มันเล่นเน็ตได้ ก็เรียกว่าชีวิตในเน็ตดีงามขึ้นกว่าสมัยใช้ N*kia 6210 มากแล้ว แต่พอไปต่างประเทศ จะมานั่งรูด ๆ หน้าจอมือถือก็กระไร และเขียนบล็อกบนมือถือก็เป็นเรื่องลำบากชีวิตมาก.. ณ ตอนนั้นเองที่โน้ต 10.1 ก้าวมาในชีวิตค่ะ คุณขา..

มันช่างดีงามตามท้องเรื่องกับการได้นั่งเล่นเฟซบุ๊ก เขียนบล็อกอย่างเต็ม ๆ ตา จะเสิร์ชหาอะไรก็ง่าย (คือว่านมีปัญหามาก กับการเอานิ้วจิ้มเพื่อก๊อปปี้คำเนี่ย) ได้ปากกา S Pen มาช่วยนี่รู้สึกชีวิตดี..
6414

ที่สำคัญคือเวลาไปร้านอาหารหรือกินข้าว แล้วต้องจดรายละเอียดอะไร เช่น จานนี้เซ็ตมีส่วนประกอบอะไรบ้าง นู่นนี่นั่น.. ถ้าเกิดต้องควักโน้ตบุ๊กมาจดนี่รู้สึกเป็นเรื่องอลังการยิ่ง.. คุณป้าในเรียวกังคงตกใจ แต่ถ้าเป็นGalaxy Note ก็หยิบมาเขียนสวย ๆ เบา ๆ .. เวลาออกนอกสถานที่ไปถ่ายรูปก็เหมือนกัน บางทีจะจดอะไรเพิ่มเติม ก็ควักออกมาเขียน ๆ ยัดเข้ากระเป๋า เดินถ่ายรูปต่อ.. สบายใจ..
P1010784

อีกอย่างที่ชอบ แต่คนอาจคิดไม่ถึง คือเวลาไปถามทาง หรือสั่งอาหารที่ต่างประเทศนี่แหละ ใส่ในมือถือมันดูลำบาก รูปก็เล็กอยู่แล้ว ยิ่งสั่งกันข้ามเคาน์เตอร์ ส่งมือถือกันไปมา บางทีเสียวคนขายจะทำมือถือเล่นในหม้อลวกราเม็งชะมัด แต่พอเป็นGalaxy Note ใหญ่เต็มตา ชูขึ้นมาก็.. ไฮ่ หรืออย่างบางทีถ่ายรูปจากโมเดลตัวอย่างหน้าร้าน กว่าจะจิ้มกันรู้เรื่องก็เมื่อย แต่ถ้าใช้Galaxy Note ถ่ายแชะ เอา S Pen วง ฉันอยากจะกินอันนี้นะจ๊ะ ทีนี้ชีวิตง่ายละ..
ปากกา S Pen ก็ช่วยได้มากอย่างที่บอก เวลาที่ต้องจดอะไรหลาย ๆ ภาษา เพราะว่าตัวอักษรที่เจ้าของภาษาเขียน กับลายมือไก่เขี่ยของคนหัดเรียนอย่างเรา มันเข้าใจได้ง่ายยากผิดกันอยู่แล้ว เวลาขอให้คนอื่นจดให้ แล้วไปถามต่อเวลาถามทาง มันก็ช่างง่าย ยิ่งภาษาญี่ปุ่นหรือจีนนี้ เขียนผิดไปขีดเดียวชีวิตเปลี่ยนนะฮาฟฟฟฟ..

คือทั้งหลายทั้งมวลพวกเนี้ยะ ไอ้ตอนที่มีGalaxy Note ในมือน่ะ ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก ก็แค่เออ สะดวกดี จดง่าย.. มาซึ้งเอาตอนไม่มีจะใช้แล้วเนี่ยแหละ แล้วต้องแบกโน้ตบุ๊กเอา.. คือขนาดว่าว่านเลือกซื้อโน้ตบุ๊กรุ่นที่มันเบาแล้ว แต่หลาย ๆ ครั้งเวลาเดินทางหรือออกไปถ่ายรูปเนี่ย ก็ขี้เกียจเอาโน้ตบุ๊กไปด้วย หรือเอาไป บางสถานที่ก็ไม่อำนวย อย่างเช่นอยู่บนรถเมล์วิ่งต่างจังหวัด มือนึงกำลังกระชับแน่นกับกระเป๋าเดินทาง อีกมือต้องโหนราวไปด้วยเนี่ยแหละ คิดอะไรได้จะจดที การหยิบโน้ตบุ๊คออกมา.. แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ไม่ต้องคิดต่อหรอกว่าแล้วจะพิมพ์ยังไง.. ก็เลยได้แต่สอย ๆ สะสมความคิดเอาไว้ กว่าจะลงรถเมล์ก็.. ลืมจ้า (-_-‘ )
2014-03-27 09.27.38

ยิ่งตอนก่อนจะนอนนี่คิดถึงมากกกกก (ก. ไก่ล้านหนึ่งตัว) ถ้าเป็นGalaxy Note ก็นอนกลิ้ง ๆ อ่านเฟซบุ๊ก เล่นทวิต สวดมนต์ก่อนนอน พอเป็นSmart Phone มันก็ได้อยู่อะนะ แต่เวลาหล่นใส่หน้า อ่าน ฟิลลิ่งมันผิดกัน =P

ก็อย่างที่เค้าว่าแหละ.. ไอ้ตอนมีน่ะ ไม่รู้.. พอไม่มีแล้วถึงจะซึ้ง..
ยังไงซะ ถึงโน้ตบุ๊กก็มีข้อดีในแบบของโน้ตบุ๊กน่ะนะ แต่พอเวลาจะต้องออกจากบ้านทีนี่.. อืม.. แค่มองหน้าโน้ตบุ๊คแล้วคิดว่าจะต้องเอาสายชาร์ต เม้าส์(เป็นคนติดเม้าส์ค่ะ ไม่ชอบtouchpadเอาซะเลย รู้สึกมันไม่เอื้อต่อมือมนุษย์) สารพัดจิปาถะหอบไปด้วยแล้วก็ อืมมม.. ยิ่งเวลารีบ ๆ นี่แบบ อร้าย.. ทำไมมันอีนุงตุงนังหยั่งงี้.. ตอนจัดโน้ตบุ๊กใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องนี่ถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่.. นึกถึงความสบายของ Galaxy Note ขึ้นมาจับใจ..

อ้อ อีกอย่างที่ยกให้Galaxy Note ล้ำหน้ากว่าโน้ตบุ๊กประมาณครึ่งลูกคือการเชื่อมต่อเน็ต.. น้องโน้ตเสียบซิมใส่ก็จบข่าว ออนไลน์ได้สบายใจ.. ส่วนโน้ตบุ๊กต้องวิ่งหาน้องไว.. ไฟ ไม่ก็พกAircard นั่นแล.. ยิ่งแบกเข้าไปอีก

สรุป.. #MyNoteStory เรื่องนี้เป็นรักเศร้า ๆ .. เธอรู้สึกเหงาและพึ่งรู้ว่าเขาแสนดีแค่ไหนเมื่อเขาจากไป..
คิดถึงน้า Galaxy Note (>_< )
..
..
.. แต่ #MyNoteStory นี้จะมีภาคต่อรึเปล่า.. ไม่รู้เหมือนกันนะ =)
6413