ชะอำ.. เมืองที่เปรียบเสมือนสาวน้อยขี้อาย ซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ ก่อนถึงจะหัวหินผู้เปี่ยมเสน่ห์..
วันนั้นกว่าว่านจะออกจากกรุงเทพก็5-6โมงเย็นแล้ว ถึงชะอำเลยค่ำพอควร
แต่ยังดีที่ที่พักเราอยู่แค่ชะอำ ถ้าไปถึงหัวหินคงดึกกว่านั้นอีก..
ไปถึงก็ตรงเข้าที่พักกันเลยค่ะ Hotel de la Paix Cha-Am
Tel. -> 032-709-555
Website -> http://www.hoteldelapaixhh.com/
Facebook Page -> http://www.facebook.com/pages/Hotel-de-la-Paix-Cha-Am-Beach-Hua-Hin/291553104234842?fref=ts
Hotel de la Paix Cha-Am นี้ เดิมคือ Alila Cha-Am ต่อมาปรับปรุงใหม่เป็น Hotel de la Paix Cha-Am
ออกแบบโดยคุณด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค นี่เอง..
ในเรื่องของการออกแบบ.. เปรียบเทียบระหว่าง Hotel de la Paix Cha-Am กับ X2 Resort Kui Buri แล้ว
ว่านค่อนข้างชอบ Hotel de la Paix Cha-Am มากกว่า รู้สึกลงตัวดีค่ะ
X2 นี่ยอมรับว่าเก๋ล้ำ แต่เช้าตรู่มานอนไม่ได้เลย แดดแยงตาผ่านช่องแสงทางเพดาน (=_= )
แต่นั่นก็ตั้งแต่ X2 Resort Kui Buri เปิดใหม่ ๆ แล้วนะคะ ไม่รู้เปลี่ยนแปลงไปหรือยัง..
ห้องน้ำที่ Hotel de la Paix Cha-Am นี้ กว้างขวางทีเดียวค่ะ
จุดรวมสายตาก็คงไม่พ้นอ่างอาบน้ำอันโดดเด่นนี้..
Bath Salt ที่นี่ดีทีเดียว ใครไปอย่าได้พลาดเชียว น้ำแรงและร้อนดี เปิดแป๊บเดียวเต็มอ่าง ไม่มีปัญหา..
ส่วนของ Rain Shower ถ้ามาเป็นคู่รักคงจะดีไม่น้อย แต่นี่ว่านไม่ได้มากับคนพิเศษ เลยขอใช้ฝักบัวจากอ่างอาบน้ำแทนละกันค่ะ ทั่วถึงดี (^^’ )
นอกเหนือจากในส่วนของห้องพักแล้ว การออกแบบโดยรอบของ Hotel de la Paix Cha-Am ก็มีมุมต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมาย..
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นอย่างเจิดจ้ามากค่ะ
แดด 9 โมงเช้าที่นี่ แรงอย่างกับ 11 โมงแน่ะ.. นี่ขนาดแค่มีนานะ..
อีกอย่างหนึ่งที่ถูกใจมาก สำหรับ Hotel de la Paix Cha-Am ก็คืออาหารเช้าค่ะ
มากด้วยจำนวน แต่ไม่ซ้ำซาก มีหลากหลายให้เลือก.. มีแซลม่อนรมควันในไลน์อาหารเช้าด้วย ไม่ให้ถูกใจยังไงไหว =)
ข้าวเหนียวปิ้งก็ยังมีเลย.. แต่ไม่ได้ลองนะคะ กินอย่างอื่นจนแน่นไปซะก่อน..
อีกอย่างที่ถูกใจ คือจำพวก Homemade แยมและเดรสซิ่งต่าง ๆ ของที่นี่ค่ะ
อย่างในภาพนี้เป็น Papaya Jam / Mixed Pineapple and Marmalade Jam / Strawberry Jam ค่ะ ถูกใจตัว Papaya Jam เป็นพิเศษ..
เดรสซิ่งก็รสชาติดีแทบทุกตัว อย่างสองตัวนี้เป็น Italian Dressing / Rosemary & Red Chili Oil ค่ะ
ที่นี่ใช้ Rosemary เยอะม๊าก.. ประดับแทบทุกจานเลย
ข้าวต้มก็มีนะคะ อีกวันจะเป็นโจ๊กค่ะ สลับกันไป..
แน่นอนว่าต้องมี Egg Station ด้วย..
อันนี้พยายามจัดจานเอง ยังไม่มีภาพในใจ เลยออกมาดูไม่ค่อยได้เท่าไหร่.. (^^’ )
Bakery ที่นี่โอเคค่ะ.. Banana Muffin นี่นุ่มนวลดีทีเดียว
รับประทานกับ Papaya Jam / Whipped Cream / Honey Comb จานนี้จัดโดยมีเป้าหมายอยู่ในใจ เลยออกมาดูได้หน่อย =)
มีน้ำเต้าหู้ด้วย ทรงเครื่องได้เองตามใจชอบ =)
เพื่อสุขภาพก็ต้องข้าวโอ๊ต / โยเกิร์ต / Papaya Jam( อีกแล้ว ) และรวงผึ้งกันหน่อยค่ะ..
จานนี้จัดโดยไม่ได้มีภาพล่วงหน้าไว้ในใจ ออกมาดูไม่ได้อีกแล้ว =( การวาดภาพไว้ในใจนี่สำคัญเหมือนกันนะคะ
อีกอย่างที่ถูกใจ ( มาก ) ของที่นี่คือเครื่องดื่มมื้อเช้า
ในส่วนของกาแฟและชา มีให้เลือกพอสมควร.. มีกาแฟเย็นด้วย ถูกใจเป็นที่สุด XD
เป็นหนึ่งในรีสอร์ตที่ว่านรู้สึกว่าถ้ามีโอกาสก็อยากกลับมาพักอีกครั้งค่ะ =)
หลังจากอาหารเช้า มีเวลานิดหน่อย
ทีแรกว่าจะไปถ่ายรูปรอบโรงแรม + ริมหาด แต่แดดแรงมากอย่างที่บอก เมื่อคืนพักผ่อนน้อยด้วย เลยขอกลับไปสลบที่ห้องค่ะ
ตื่นขึ้นมาก็.. กิน 555
มื้อเที่ยงของพวกเรา กลับไปซ้ำรอยร้านเดิมค่ะ.. คิดถึงมาตั้งนานแล้ว..
ร้านแซบอีหลี สาขาบ้านร่องระกำ
Tel -> 081-435-7821
Facebook Page -> https://www.facebook.com/ZabELee3
พิกัดอยู่ติดถนนเพชรเกษม ระหว่างท่ายาง -> ชะอำ ก่อนถึงตัวเมืองชะอำ 2 กิโลฯ
ก่อนหน้านี้เคยมาแซบอีหลีแล้วทีนึงที่
เที่ยวไปกินไปในวันฟ้าใสบ้าง ฝนพรำบ้าง ณ หัวหิน กินแซ่บอีหลี + ยกซด + มะขาม
http://wan-nam.com/huahin-jul-2012/
คราวนี้ก็ขับรถเลยกันอีกแล้ว ( เอ๊ะ ยังไง.. )
ทีแรกเห็นชะลอหน้าร้านแล้วเลยไป แล้วก็กลับรถ คิดว่าจะไปสาขาหน้าค่าย
ที่ไหนได้ กลับรถอีกที แล้วก็เลี้ยวเข้าสาขาบ้านร่องระกำที่เดิมนี่แหละ (-“- ) ถ้ามาอีกที จะเลยอีกไหมนะ..
ตับหวานที่นี่ยังนุ่มนวลและหวานฉ่ำได้รสตับเหมือนเดิมค่ะ ไม่ติดรสขมหรือกลิ่นตับเลย.. มีทั้งตับหมูและตับเนื้อ..
ไส้ย่าง.. คงเพราะคนเยอะ ย่างไม่ทันมังคะ
คราวนี้ดรอปไปจากคราวที่แล้วค่ะ การปรุงรสยังดีอยู่ แต่ความเกรียมนิด ๆ จากการย่างหายไป..
โดยรวมยังถือว่าผ่านอยู่ แต่ไม่น่าฝันถึงเท่าครั้งก่อน
ส้มตำที่นี่ไม่มีอะไรน่าติดใจ.. ไม่ได้เลิศจนน่ายกนิ้ว แต่ก็ไม่แย่จนไม่น่าสั่ง.. เรียกว่ากลาง ๆ ละกันค่ะ
ลิ้นย่างที่ฝันถึง.. ยังกรึบ หนึบ นุ่มเหมือนเคย.. ปรุงรสและย่างมาได้อย่างดี แค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ..
เสียแต่ว่าการบริการค่อยข้างมีปัญหา ของลงผิดโต๊ะ หาย ช้า ขาดเยอะมาก เลยได้กินแค่จานเดียว =(
ต้องทำใจเรื่องการบริการนะคะ
ขนมหวานก็ยังโอเคเหมือนเดิมค่ะ จ้ำบ๊ะเหมาะสำหรับวันร้อน ๆ อย่างนี้..
ขนาดนั่งในร่มมีหลังคา.. ไอแดดยังผะผ่าวจนรู้สึกได้เลยค่ะ
ส่วนตัวแล้วว่านชอบเฉาก๊วยที่นี่มากกว่า เป็นเฉาก๊วยอย่างที่ชอบ คือแบบนุ่ม หนึบ.. ไม่ใช่แบบเนื้อวุ้นค่ะ
กินเย็น ๆ ชื่นนนนนนน ใจ.. แก้เหนื่อยแก้โหยดีจริง ๆ ..
อาหารอย่างอื่นรสชาติก็ค่อนข้างโอเคค่ะ สั่งได้แทบทุกรายการ ไม่มีอันไหนผิดบาปจนน่าส่งคืนครัว
มีตับย่างที่แห้งหน่อย แต่ก็พอรับได้ค่ะ
หลังจากแซ่บ กับแซบอีหลีแล้ว เราก็มาเยี่ยมชม Sale Gallery ของบ้านทิวลม ชะอำค่ะ
ชอบ quote คำพูดที่เค้าประดับโถงด้านหน้าของ Sale Gallery แสนสิริ แต่ละอันไม่ซ้ำกันเลย ว่าง ๆ ว่าจะทำอัลบั้มรวบรวมดู 555
ส่วนป้ายหน้าห้องตัวอย่างคราวนี้ก็น่ารักเชียวค่ะ เนื่องจากบ้านทิวลมเป็นคอนโดริมหาดชะอำ ซึ่งชะอำนี้ เดิมเรียกว่าชะอานม้า
สิ่งประดับและการตกแต่ง จึงเกี่ยวข้องกับม้าเสียมากค่ะ อย่างคำว่า StUdio type ตัว U ก็ใช้เป็นรูปเกือกม้าแทน =)
ห้อง StUdio ขนาด 29 ตร.ม. นี้ รูปแบบแปลนห้องเป็นเหมือนห้องสตูอิโดอื่น ๆ ที่ผ่านมา
ตกแต่งแนว Botanista Chic ให้ความรู้สึกว่าเจ้าของห้องเป็นสาวน้อยผู้รักในธรรมชาติ พรรณไม้ และเสียงเพลง
การใช้วอลล์เปเปอร์ลายอิฐแดงมาประดับผนังข้างหนึ่ง ช่วยให้ห้องดูไม่น่าเบื่อ ทั้งยังดึงความเป็นภายนอกเข้ามาสู่ภายในได้ด้วย..
อีกอย่างหนึ่งที่ว่านสังเกตเห็น และถูกใจในของประดับ คือเครื่องดนตรีที่เลือกใช้ประดับห้องเพื่อสร้างเรื่องราว.. เป็นไวโอลินค่ะ
สายคันชักไวโอลินนั้น ทำจากหางม้า ซึ่งก็สอดคล้องกับความเป็น “ชะอำ” ได้เป็นอย่างดี..
เป็นการใส่ใจในรายละเอียดของแสนสิริ ที่ว่านนึกนิยมอยู่ในใจค่ะ =)
มาดูห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตร. ม. กันบ้าง แปลนห้องมาตรฐานเช่นเดิม
ตกแต่งธีมทะเล แต่ใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก เน้นย้ำความเป็นทะเลด้วยสีฟ้า สีน้ำเงิน และสีน้ำทะเล
ทำให้ได้ห้องบรรยากาศริมหาดที่ดูอบอุ่น น่าอาศัย..
จากนั้นพวกเราก็ไปเดินเล่น+ขี่ม้าริมหาดชะอำกันค่ะ..
สายลมของชะอำยังเงียบสงบ.. ได้ยินเสียงสนล้อเสียงคลื่น..
ถ้าถามว่าน คอนโดหัวหินดีกว่า หรือคอนโดชะอำดีกว่า.. ว่านคงตอบไม่ได้หรอกค่ะ
เพราะว่านว่าแต่ละที่ แต่ละหาด ก็มีดี/ด้อย แตกต่างกันไป..
ว่านไม่อยากเป็นบล็อกเกอร์ที่ดูไม่มีจุดยืน ใครเชิญไปไหน ก็ว่าที่นั่นดีกันไป.. เดี๋ยววันนี้บอกหัวหินดี อ้าว วันต่อมาบอกหัวหินไม่ดี ชะอำดีซะงั้น..
สิ่งที่ว่านทำในฐานะบล็อกเกอร์ คือการถ่ายทอดบรรยากาศ ความเป็นอยู่ ความรู้สึกที่ว่านได้รับ จากการไปสัมผัสที่นั้น ๆ
ให้ผู้อ่านได้รับรู้.. ด้วยการเขียน ด้วยภาพ.. =)
คอนโดชายหาด ไม่ว่าจะพัทยา หัวหิน ชะอำ ภูเก็ต หรือที่ไหน ๆก็ตามแต่ ล้วนมีดี/ด้อยแตกต่างกันไปอย่างที่บอกข้างต้น
บางแห่งเหมาะซื้อไว้ลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งก็แยกไปอีกว่าจะเหมาะแก่ตลาดผู้เช่าไทย หรือผู้เช่าต่างชาติ
บางแห่งเหมาะซื้อไว้อยู่อาศัยเอง เป็นที่พักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศของครอบครัว
บางแห่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ทั้งสอย่าง.. ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการในใจคุณเองค่ะ ว่าต้องการอะไร
สำหรับว่าน ว่านเห็นว่าบ้านทิวลม ชะอำนี้ ด้วยความที่ถ้ามาจากกรุงเทพก็จะถึงก่อน อยู่ไม่ไกลจากหัวหิน
ทั้งยังมีความสงบของชายหาดอยู่มาก จึงเหมาะแก่ครอบครัวที่มองหาที่พักตากอากาศประจำ..
ให้ลูกหลานได้เพลิดเพลินกับชายหาดและสายลมสบาย ๆ
ตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ก็มีเวลาพักผ่อนได้อย่างไม่เร่งร้อน ไม่ใช่ว่าตื่นขึ้นมาก็ต้องรีบกินข้าวเก็บของเช็คเอ้าต์จากโรงแรม =)
หลังจากเพลินสายลมริวหาด ก็มาจิบน้ำชายามบ่าย ก่อนจะไปรับประทานอาหารเย็นกันค่ะ
มื้อเย็นของเราวันนี้ ที่บ้านอิสระค่ะ =)
7 ถนนแนบเคหาสน์ ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
Tel. -> 032-511-673 , 032-530-574
บ้านอิสระนี้ มีคนรีวิวเกินร้อยได้แล้วมังคะ จะขอกล่าวถึงแต่จานที่ว่านถูกใจละกัน..
จานแรกเลยก็นี่ค่ะ ยำยอดกระถินหอยนางรม.. หอยนางรมขนาดกำลังดี น้ำยาก็ปรุงมาได้จัดจ้าน ไม่เซ็งค่ะ
ยำหมึกต้มหวาน.. ใช้หมึกต้มเค็ม ออกหวาน เนื้อนุ่มดี ไม่กระด้าง ใส่เครื่องยำ กินเพลิน ๆ ดี เช่นกัน
อันนี้ปลื้มเป็นการส่วนตัว เพราะวันก่อนฝันถึงอยู่ว่าอยากกิน.. กุ้งเผาสะเดาลวก.. (>_< )
พูดกันตรง ๆ ถ้าได้กุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ มันเยิ้ม ๆ รสชาติมันคล้องจองกว่ากันแหละ.. แต่เป็นแชบ๊วยก็ไม่น่าเกลียดค่ะ
นอกนั้นก็อร่อยมาตรฐานของบ้านอิสระ.. จานร้อนซอสโหระพา และอื่น ๆ
มีหมึกไข่นึ่งมะนาวที่รสอ่อนไปหน่อย ไม่จี๊ดสมศักดิ์ศรีความเป็นหมึกไข่นึ่งมะนาว แต่นอกนั้นก็โอเคค่ะ
หลังจบวัน พวกเราบางส่วนก็ไปนั่งชิลล์-ชิลล์ กันที่เพลินเพลินบาร์ อยู่ในเพลินวานค่ะ
Website -> http://www.plearnwan.com/
ตื่นเช้ามาอีกวัน วันนี้จะกลับกรุงเทพกันแล้ว..
สั่งลาอาหารเช้าของ Hotel de la Paix Cha-Am เช่นเคย..
วันนี้ลองแพนเค้กบ้างค่ะ แป้งนุ่มนวลดี.. จัดจานเองอีกแหละ ดูไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นะคะ (^^’ )
แดดดี๊-ดี จนไม่สามารถฝ่าเปลวแดดไปถ่ายรูปริมหาดได้เหมือนเมื่อวาน
เลยนั่งเล่นเน็ตหลบร้อนอยู่ในห้องพัก ( Wi-Fi ที่นี่แรงงงงงง จนทุกคนออกปากชมเป็นเสียงเดียวกัน )
พอได้เวลาก็.. ไปกินกันต่อค่ะ ทริปเอ็นจอยความเป็นหัวหิน-ชะอำโดยแท้..
ร้านนี้ก็ร้านซ้ำรอยค่ะ ที่ The Sala Wine Bar & Bistro อยู่ใน
Website -> http://www.huahinhills.com/
Facebook Page -> http://www.facebook.com/huahinhills
อาหารมีทั้งล้างตา และลองของใหม่..
จานนี้สะเต๊ะไก่ค่ะ อร่อยเกินคาด.. ไก่นุ่มมมมมม ชิ้นโตสะใจ เสียแต่จิ้มน้ำจิ้มยากไปหน่อย
Spaghetti Spicy Bacon.. มาอย่างเผ็ดร้อน เบค่อนกรอบ เส้นไม่สุกเละ ไม่มันเยิ้มเกิน.. อร่อยค่ะ
Lasagna ประชัน Spaghetti Carbonara .. ค่อนข้างถูกใจ Lasagna มากกว่าค่ะ
Carbonara ยังเรียกว่าอร่อยมาตรฐาน แต่สั่งกินได้นะคะ ไม่เสียปาก..
Grilled Lamb Chop.. อันที่จริงในวันที่ไป มีเมนูพิเศษเป็น Lamb Chop ซอสมะขาม..
แต่เกาคางดูแล้ว เลือกสั่งเป็นแบบปรกติดีกว่าค่ะ ก็รสชาติดีเหมือนเดิม ไม่มีกลิ่นสาบ.. มีมันฝรั่งทอดที่เป็นเครื่องเคียงที่จะดูสลดใจไปหน่อย
ปริมาณว่านก็ถือว่าโอเคสำหรับราคา 690 บาท แชร์กันได้สบาย ๆ เลยสองคน
ขนมพิเศษในช่วงนั้น ก็เป็น Grape Crepes with Vanilla Ice Cream ค่ะ
ไอศกรีมที่นี่ค่อนข้างธรรมดา ทั้ง Vanilla และองุ่น ส่วน Grape Yogurt Sorbet ก็ค่อนข้างธรรมดาเช่นกัน เลยฉุดขนมให้ดรอปไปนิดนึง
แต่ตัวเครปมาร้อน ๆ ถือว่าอภัยได้ค่ะ..
นอกนั้นก็อาหารอื่น ๆ มียำเนื้อที่ค่อนข้างชืดไปหน่อย และเนื้อสุกเกินไปสักนิด นอกนั้นก็เรียกว่าสั่งมาลองกันได้ค่ะ
จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้ากลับกรุงเทพกัน
เป็นอันเสร็จสิ้นทริปเพลินสายลม ชิลล์ชะอำของพวกเราในครั้งนี้
แล้วไปชิลล์ด้วยกันใหม่ทริปหน้านะคะ สวัสดีค่ะ =)