Umenohana
ชั้น2 Nihonmura Mall ทองหล่อ13
Tel -> 084-438-3892
Facebook Fanpage -> https://www.facebook.com/UmenohanaTH
Website -> http://www.umenohana.co.th/
พิกัดของ Nihonmura Mall นั้น เมื่อเลี้ยวเข้าทองหล่อ13 ตรงมาจนเจอสี่แยกแรก จะเป็น Nihonmura เดิมอยู่ขวามือ เลยขึ้นมานิดเดียว เรียกว่าติดกันเลย ดูเป็น Community Mall ขนาดย่อม ๆ นั้นคือNihonmura Mall นั่นเอง ที่จอดรถมีพอประมาณ
เดิมทีที่เมือง Kurume เกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่นนั้น มีร้านอาหารซึ่งชำนาญและลือชื่อในด้านปู นามว่า Kanishige ต่อมา เมื่อกำเนิด Umenohana ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในเรื่องของ Yuba หรือฟองเต้าหู้.. และในวันนี้ ความอร่อยอย่างละเมียดละไมนั้น ก็ได้มาถึงเมืองไทยแล้ว ที่ทองหล่อนี้เอง
Umenohana เคร่งครัดและมีความตั้งใจจริงมากที่จะถ่ายทอดรสชาติ ความงดงามทั้งรูปลักษณ์และรสชาติ รวมถึงการบริการอันอ่อนน้อมตามแบบฉบับอย่างชาวญี่ปุ่น ให้ถึงแก่ลูกค้าที่เมืองไทยซึ่งถือเป็นลูกค้าคนสำคัญทุกท่าน
อันที่จริงว่านเองได้เคยมา Umenohana ครั้งหนึ่งแล้ว ก็รู้สึกประทับใจและรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของทางร้านที่จะทำให้ Umenohana นั้น เป็นประสบการณ์อาหาร Kaiseki อย่างเต็มรูปแบบและสมความเป็นญี่ปุ่นจริง ๆ เมื่อทางร้านส่งคำเชิญมา จึงตอบรับอย่างไม่รั้งรอ
คอร์สที่ได้ลิ้มลองในวันนั้นคือ Iwai Course 5,500 บาท
Iwai หมายถึงการเฉลิมฉลอง จะให้บริการถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้นจะเป็นเมนูอะไร คงต้องติดตาม.. นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของอาหารKaiseki คือมีการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบให้สอดคล้องและล้อไปกับแต่ละฤดูกาล..
จานแรกมาแล้วค่ะ Mineoka Tofu topped with fresh Uni
Mineoka Tofu เป็นเต้าหู้นมรสชาตินุ่มหนึบเล็ก ๆ เมื่อกินกับUni หวานมัน ได้รสเค็มเล็กน้อย .. อร่อยแบบเนียน ๆ ค่ะ =)
จานต่อมาไม่ล่าไปกว่ากันเท่าไหร่เลย กับ Taraba Kani & Yuba with Ponzu Gelée
เป็นเนื้อปูทาราบะ และฟองเต้าหู้ เสิร์ฟมาในกระดองปูอันน้อย โปะพูน ๆ ด้วยเยลลี่พอนสึ หรือซอสเปรี้ยวแบบญี่ปุ่น รสเปรี้ยวแหลมแต่เบา ๆ ของเยลลี่พอนสึ ช่วยเสริมให้รสหวานของปูชัดขึ้นค่ะ
มาต่อกันด้วย Sashimi เป็น Otoro กับ Madai
Otoro คงไม่ต้องบรรยายให้มากความ คัดเนื้อท้องปลาส่วนที่ไขมันอิ่มเอิบมาจริง ๆ ส่วนMadai ก็เนื้อนุ่มเด้ง สดดีมาก มีใครสังเกตไหมคะ ว่าใบ Shiso ที่ใช้รองปลาก็ต่างกัน =)
จานต่อมาเป็นเต้าหู้เนื้อเนียนนุ่มอีกแล้ว.. กับ Cold Tofu with olive oil and Himalayan Rock salt
มาถึงตอนนี้ ก็ได้รับคำอธิบายว่าทางUmenohana มีโรงงานเต้าหู้เป็นของตัวเอง ถั่วเหลืองที่ใช้ ก็เป็นถั่วเหลืองญี่ปุ่นนำเข้า เพื่อที่จะให้แน่ใจว่ารสชาตินั้นจะเหมือนกับที่ญี่ปุ่นมากที่สุด ใครที่กินเต้าหู้แล้วรู้สึกว่าเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขาว ๆ เหม็นเขียวกลิ่นถั่ว อยากให้มาลองที่นี่ค่ะ เพราะคนละเรื่องกันเลย เป็นเต้าผู้ที่เนื้อละเอียด เนียน นุ่ม.. ออกรสหวานเล็กน้อยตามธรรมชาติ..
เมื่อได้ Himalayan Rock salt ซึ่งเค็มไม่จัดนักมาขูดลงไป..
ก็ได้ความเข้ากันอย่างลงตัวนี้ล่ะค่ะ.. ใครที่ติดใจเต้าหู้ของ Umenohana ก็สามารถหาซื้อได้ตามฟูจิซุปเปอร์นะคะ ภายใต้ยี่ห้อ Ume no Kaori หรือ “อวลกลิ่นดอกเหมย” ค่ะ
จานต่อมา.. จานชามสวยไหมคะ นำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งนั้นเลยนะคะ ^_^
Mushi Sushi with Ikura
เป็นข้าวซูชินึ่งร้อน เสิร์ฟมาพร้อมIkura สีสันสวยงามเชียวค่ะ
และแล้วก็มาถึงพระเอกของงาน.. กุ้งมังกรอิเสะ สามารถเลือกได้ว่าจะรับแบบนึ่งหรือเผา ซึ่งพวกเราก็เลือกแบบนึ่งกันค่ะ เลยยกกันมาแบบถึงกับ”ซึ้ง” กับเมนู Ise Ebi Seiromushi
พนักงานจะเป็นผู้นึ่งให้กับเราค่ะ เทรนมาได้ดี กะเวลาได้เป๊ะจริง ๆ จากเนื้อกุ้งใส ๆ แบบนี้ ก็จะได้เป็นเนื้อกุ้งขาวอวบ..
เนื้อกุ้งสุกกำลังดี ไม่สุกมากไปจนเหนียว ตรงกลางยังเป็นวุ้นอยู่นิด ๆ ปลีเนื้อขาว ๆ อัดแน่นไปด้วยความหวานกรอบ.. เด้ง..
รับกับ Garlic Butter sauce ฟุ้งกลิ่นกระเทียมฉ่ำเนย..
จานต่อมาเป็น Kuroge Wagyu & Tofu Sukiyaki
จานนี้น่าเสียดายว่าถึงน้ำสุกี้จะปรุงรสมาได้เค็มหวานกำลังดี ไม่มีรสไหนข่มกันจนเกินไป แต่ด้วยความร้อนของหม้อ ทำให้เมื่อกว่าเนื้อจะมาถึงเราก็สุกเกินไปเสียแล้ว >_< เสียดายเนื้อค่ะ ถ้าใครสั่ง ลองบอกให้เค้าแยกเนื้อวัวมาอีกจานนะคะ
ไข่แน่นอนว่าเป็นไข่ออร์กานิก กินดิบได้สบายใจ..
Zuwai Kani Yubamaki Isobeage จานนี้แสดงสกิลของพ่อครัวได้เป็นอย่างดี.. ปูสึไวนี่จะทอดเทมปุระมาเฉย ๆ ไม่ได้นะ ต้องพันด้วยฟองเต้าหู้ แล้วก็เอาไปชุบแป้งซึ่งผสมสาหร่าย ได้กลิ่นหอมดีนักแล..
จานนี้ว่านว่าจิ้มกับเกลือจะคล้องจองกว่า
ซึ่งเครื่องปรุงนานาก็มีให้เลือก.. ไม่ว่าจะเป็นพริกป่นผสมแบบญี่ปุ่น(บนซ้าย) เกลือวาซาบิ(ล่างซ้าย) พริกไทยดำ(บนขวา) หรือSansho(ล่างขวา)
เมนูต่อมานี้อยู่นอกคอร์สนะคะ เนื่องจากเกริ่นไปตอนต้นแล้วว่า Umenohana มีชื่อเสียงเรื่องเต้าหู้มาก คนรักเต้าหู้อย่างเราก็ไม่อยากพลาดเมนูนี้ค่ะ กับ Teoke Yuba 320 บาท
ในน้ำเต้าหู้ จะใส่ใบMitsuba แล้วก็ Namafu (คล้าย ๆ หมี่กึง) เครื่องเคียงจะมีขิงขูด งาคั่ว แล้วก็ Wari Shoyu (โชยุที่เจือให้รสอ่อนลงด้วยน้ำซุป)
ใครชอบนมถั่วเหลือง เจอเมนูนี้ตายไปเลย.. ฟองเต้าหู้สด ๆ มันช่างทั้งนุ่มและหวานละมุนไม..
กลับมาสู่ Iwai Course ของเรา.. Kaisen Chirashi Sushi
ใน Kaiseki Ryori หรืออาหารไคเซกินั้น จะทยอยออกอาหารมาเป็นทีละคอร์ส ทีละหน่อย.. และเมื่อไหร่ที่ออก”ข้าว”หรือ”เส้น” ก็แสดงว่ามื้อนั้น(ใกล้จะ)จบลงแล้ว..
ปลาดิบสดดีค่ะ
มีข้าว ย่อมมีซุป กับ Yuba Miso Soup
เป็นซุปมิโสะจากเต้าเจี้ยวแดง หรือ Aka Miso กลิ่นรสจะค่อนข้างเข้มข้นกว่า Shiro Miso ที่คนไทยทั่วไปคุ้นเคย.. แน่นอนว่าลูกซุปเป็นฟองเต้าหู้อีกแล้ว ^_^
ขอเลี้ยวกันออกนอก Iwai Course กันอีกครั้ง กับ Inaniwa Udon 320บาท
เป็นเส้นอุด้งเหนียวหนึบนุ่ม.. จะแตกต่างจากเส้นอุด้งอ้วนพี กัดทีอุดมแป้งนิ่ม ๆ อย่างที่คุ้นเคยกัน
Inaniwa Udon นี่ถ้าใครชอบเส้นอุด้งที่เหนียวนุ่ม.. ไม่อยากให้พลาดค่ะ
คอร์สสุดท้ายเป็น.. ขนมหวาน <3
ที่ได้ลองเป็นเวเฟอร์ไอศกรีม.. แป้งMonaka ให้ความกรอบเบาคล้ายเวเฟอร์ ข้างในอัดแน่นด้วยไอศกรีมชาเขียว ถั่วแดงกวน และโมจินุ่ม ๆ
ผ่านไปอย่างประทับใจกับ Umenohana ดอกเหมยจากญี่ปุ่นที่เบ่งบานอย่างงดงามที่ทองหล่อนี้เอง ใครที่รักอาหารญี่ปุ่น ก็ไม่อยากให้พลาดกันนะคะ แอบกระซิบเบา ๆ ว่า วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์.. เมนูกุ้งมังกรอิเสะ ลดจาก 3,500 บาท เหลือเพียง 1,750 บาท จำกัดจำนวนเพียงวันละ 3 ตัว เท่านั้นนะคะ แต่ยังไง ไปทั้งที อยากให้ลองคอร์ส Iwai Kaiseki มากกว่าค่ะ เต็ม-อิ่มแน่นอน =)
ในแกลอรี่นี้เป็นรูปจากเมื่อเดือนตุลาที่ว่านไปมาก่อนนี้นะคะ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะไปเอง หรือทางร้านเชิญไป ความสวยงามและความน่าทานของอาหารไม่ได้ต่างกันเลยค่ะ ^_^
ขอบคุณทางร้าน Umenohana ที่เชิญว่านไปลอง Iwai Course นะคะ แล้วพบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ