*:+:* ขอเกริ่นนำไว้ก่อนว่าอย่าคิดว่านี่เป็นรีวิวมือถือโดยเซียน Gadget ขั้นเทพหรืออะไรเลยค่ะ ( เพราะว่านไม่ใช่ ฮา )
รีวินี้จะไม่มีสเป็กตัวเลขอะไรมากมาย ไม่มีบรรยายวัสดุประหนึ่งว่ามันผลิตมาจากต่างดาว ไม่มีการแงะมือถือมาให้ดูภายในนะคะ (^^’ )
อยากให้อ่านโดยคิดว่านี่เป็นบล็อกเรื่องเล่าสู่กันฟัง ของคนๆนึงที่กำลังมองหามือถือใหม่ อยากเล่น อยากจับ อยากลองอะไรนอกจาก iPhone ก็แล้วกันค่ะ = ) *:+:*

ว่านไม่ใช่คนเปลี่ยนมือถือบ่อยหรือตามเทรนด์.. ถ้าเครื่องเก่ายังดีอยู่ ว่านก็ใช้
ตอนนี้ชีวิตออนไลน์ของคนเราเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมจะ base on PC / Notebook เป็นหลัก
แต่ก่อนคนไม่ค่อยออนมือถือกันเท่าไหร่ แต่บัดนี้ดูจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของชีวิตใครหลายคนไปแล้ว
แน่นอนว่าเมื่อมาถึงยุคนี้ มือถือโบราณของว่านเริ่มตอบสนองการใช้งานไม่ได้แล้ว จากเดิมแค่โทรออก-รับสาย-ทวีตได้ก็พอใจ
เดี๋ยวนี้บางทีอยู่ข้างนอกบ้าน เวลาใครโทรมาถาม หรือทวีตถามว่าไปกินร้านไหนยังไงดี เริ่มค้นลำบาก
เห็นได้ชัดมากตอนไปญี่ปุ่นเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา จะค้นจะหา จะดูไฟล์อะไร ก็ต้องหยิบยืมมือถือ Smart Phone ของพี่ๆ.. ชีวิตลำบากค่ะ (-“- )

จริงๆถ้าไม่คิดมาก จะซื้อ iPhone ไปซะเลยก็ได้
ที่บ้านก็มี iPad ของท่านแม่อยู่แล้ว แอบหยิบของแม่มาเล่นบ่อยๆ ติดใจ App. หลายตัวอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ยังลังเล ด้วยนิสัยเป็นคนชอบเปรียบเทียบ ชอบศึกษาให้แน่ใจก่อนตัดสินใจ
อยากได้มือถือที่สามารถใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพและตอบสนองต่อความต้องการของเราจริงๆ
จึงเป็นที่มาของการรีวิวนี้ค่ะ = )

เมื่อราวๆต้นเดือนหรือปลายเดือนที่ผ่านมานี่แหละ ว่านไปประกาศไว้ในกระทู้นึงในโต๊ะมาบุญครอง
ว่ากำลังมองหามือถือใหม่ และอยากลองมือถืออื่นๆเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อนอกจากiPhone บ้าง
เพราะมือถือที่ใช้อยู่เฒ่าแชรแก่ชราเต็มที ทวีตได้อยู่ทุกวันนี้ก็บุญโขแล้ว..
ประกาศตอนนั้นไปก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เป็นการทะลุกลางปล้องท่ามกลางศึกSRที่ชุลมุนอยู่ด้วยซ้ำ 555
ปรากฏว่าก็มี.. Samsung หาญกล้าท้าตายเป็นรายแรก ส่งมือถือมาให้ลองจริงๆ ว่านก็.. รีวิวให้จริงเหมือนกัน ( ฮา ) ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้..
ซึ่งก็ได้แก่ Samsung Galaxy S III นี่แหละค่ะ..

แรกเห็น.. ตัวเครื่องค่อนข้างโค้งมน และบาง.. หน้าจอขนาด 4.8 นิ้ว ถือถนัดมือ อ่านถนัดตา..
ไม่ใหญ่เกินจนพกลำบาก แต่ก็ไม่เล็กจนอ่านยากเมื่ออยู่บนรถไฟฟ้าหรืออยู่นอกสถานที่เช่นกัน
ถ้าจอเล็กไป ถึงจะขยายขนาดตัวหนังสือให้ใหญ่ได้ แต่ก็ต้องคอยปาดซ้ายปาดขวาเวลาจะอ่านต่ออยู่ดี
ทำให้นึกถึงโฆษณามือถือแต่ก่อนเนอะ “เล็กตกรู” เดี๋ยวนี้นิยม “ใหญ่(แต่ต้องยัง)พกง่าย” =P

ทีแรกตอนได้มาเล่น.. กลัวทำของเค้าเป็นรอยค่ะ 555 ( ถึงเครื่องนี้จะผ่านมาหลายมือแล้วก็เหอะ ) แจ้นไปหาถุงกำมะหยี่ที่ไว้ใส่แว่นมาใส่
จนบังเอิญไปป๊ะพจบ. เห็นว่านกระมิดกระเมี้ยนหยิบออกจากถุงผ้า พี่แกก็หัวเราะก๊าก บอกว่ากลัวอะไร๊..
หยิบS III ไปฟาดปั่กกับขอบโต๊ะให้ดูเป็นขวัญตา ว่านกรี๊ดไม่ทันเลย ได้แต่มองตาปริบๆ
เฮียบอกว่ากระจกมันเป็น Gorilla Glass 2 ฟาด(กับสันโต๊ะตรงๆ) ไม่เป็นไรหรอก อย่าไปทิ่มกับมุมแหลมๆละกัน

S III มีลูกเล่นต่างๆมากมาย สมกับที่ว่า Designed for Humans, Inspired by Nature
แต่อันที่ว่านชอบก็มี  – Eye-tracking ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวของลูกตา –
เคยไหมคะเวลาอ่านอะไรเพลินๆ แล้วไม่ได้แจะหน้าจอ มือถือมันหรี่ไฟหน้าจอ/ดับเองซะงั้น..
ลูกเล่นนี้ของ S III  คือถ้าเรายังมองหน้าจออยู่  มันจะไม่ชิงดับไฟนอนซะดื้อๆค่ะ
เหมาะมากเวลาอ่านอะไรยาวๆ เช่น.. กระทู้ 555

– S Voice สั่งการด้วยเสียง – นี่ก็ถูกใจค่ะ พูดให้เข้าใจง่ายก็คือเหมือน Siri นี่แหละ
แล้วเพราะว่าสามารถสั่งด้วยเสียงให้ถ่ายรูปได้ด้วยนี่แหละ เลยเหมาะมากเวลาถ่ายรูปไว้ทำรีวิวการทำอาหาร ♥
แต่เดิม บางครั้งเวลาถ่ายรูปรีวิวประกอบวิธีทำอาหาร มือว่านมือนึงคนหม้อบนเตา มือนึงถือกล้อง.. ทะลักทุเลมาก แทบจะทำกล้องหล่นลงไปในหม้อ (-“- )
ก็ทำรีวิวคนเดียวน่ะ ไม่มีใครช่วย.. พอใช้  S III “สั่ง”ให้มันถ่ายได้.. เวิร์กค่ะ (^^ )

แน่นอนว่าว่านเป็นคนรีวิวอาหาร
.ประสงค์หลักอย่างนึงของการซื้อมือถือใหม่คือมือถือที่ถ่ายรูปได้สวย อัพโหลดได้ง่าย.. และต้องพกง่ายด้วย..
หลายครั้งที่ว่านขี้เกียจพกกล้องออกจากบ้าน บางทีไปเจอร้านดีๆโดนๆ ก็พลาดการรีวิวไปอย่างน่าเสียดาย
บางทีก็รู้แหละว่านัดกันไปกินอะไรโดนๆ แต่มานัดเอาตอนออกจากบ้านแล้ว ไม่ได้ติดกล้องมาด้วย ก็.. แห้วไป (Y_Y )

กล้องของ  S III ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช ส่วนกล้องด้านหน้าความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล..

จริงๆกล้องละเอียดกี่ล้านพิกเซล มันไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่จะกำหนดว่ารูปจะออกมาสวยไหมหรอกนะคะ
ลองดูละกันว่า S III ถ่ายรูปได้เป็นยังไง..

Segafredo’s Gelatina Frozen Mocha : Coffee Jelly หนึบๆทั้งเหนียวทั้งนุ่ม.. อร่อยที่สุด (>_< ) เลิฟมาก..
ส่วน  Segafredo คอกาแฟก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่ากาแฟร้านนี้เลิศศศ..

มีรีวิวที่ว่านเขียนโดยใช้รูปจาก S III ประกอบค่ะ -> เนื้อย่างญี่ปุ่น Stamina En @ OPUS ทองหล่อ 10
เฉพาะในส่วนของ [UPDATED 15.06.12] ครึ่งล่างนะคะ ครึ่งบนจะเป็นรูปจากกล้อง Panasonic GF1 .. เนียนเนอะ =P

ในเรื่องของการแชร์..  S III ก็เตรียมหนทางเปียแชร์ไว้รองรับให้แก่ผู้ใช้มากมาย ไม่ว่าจะแชร์กับเพื่อน แชร์ออกจอ แท็กเพื่อน อะไรต่อมิอะไร
สมกับที่เป็นมือถือแห่งยุคเฟซบุ๊ก แชะ-แท็ก-แชร์ซะจริงๆ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ -> Samsung Galaxy S III Sharing  ค่ะ

อีกอย่างนึงที่สำคัญสำหรับว่านคือ.. ถึงจะใหญ่ถนัดมือ อ่านถนัดตา แต่ต้องไม่หนักมาก..
อย่างที่บอกว่าบางครั้งบางคราวจะแอบจิ๊กiPadท่านแม่มาเล่น.. เอามานอนเล่นเกม อ่านนู่นอ่านนี่บนเตียง..
แล้วเคยม่อย.. จะหลับ หล่นเฉียดหน้าไปหน่อย เกือบเป็นประสบการณ์สยองยุบดั้งแล้ว (-“- )
S III ก็โอเคค่ะ เบาดีใช้ได้ ( ก็เพรียวบางซะขนาดนี่เนอะ.. ) เอามานอนเล่นก่อนนอนจนหลับทุกคืน ก็รอดมาได้ค่ะ =P

ส่วนที่ก่อนหน้านี้เคยกังวล( ไปเอง )เพราะได้ยินที่เค้าว่าว่าAndroid App. น้อยกว่า Apple ก็..
ก็คงจริงมั้ง (^^’ ) อย่างที่บอกแล้วว่าไม่ได้เซียน Gadget มาก.. แต่เท่าที่โหลดมาเล่นดู ก็มี App. หลายตัว อย่างที่อยากใช้นะคะ = )

สุดท้ายนี้.. ว่านเชื่อว่ามันไม่มีมือถือที่ดีที่สุดหรอก
มือถือยังไงก็ขยันออกรุ่นใหม่อยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวก็มีมือถือที่ดีที่สุด มือถือที่ดีกว่าดีที่สุด มือถือที่ดีกว่าดีที่สุดไปเรื่อยๆ
สำหรับคนอื่น ว่านไม่รู้นะ.. แต่สำหรับว่าน ว่านต้องการแค่มือถือที่ตอบสนองความต้องการของว่าน สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มที่ แล้วก็คุ้มค่าเท่านั้นเอง..

Samsung Galaxy S III ก็คงเป็นตัวเลือกนึงในใจค่ะ = )

4 thoughts on “ลองของ – Samsung Galaxy S III.. Designed for Humans, Inspired by Nature”

  1. อ๊ากกก อยากได้บ้าง วันก่อนไปวนเวียนดูมาสองร้านแล้ว แต่ก็คิดว่าจะซื้อมาทำไม
    ที่มีอยู่ก็ยังใช้ได้ดีอยู่ แถมยังตั้งตารอหมายเลข 5 อยู่

    แต่ก็ยังอยากได้นะ ไม่รู้ทำไม 555
    เห็นโฆษณาในทีวีทีไร เคลิ้มทุกที อยากได้ อยากได้

  2. ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับว่าน! รออ่านมานาน เขียนเสร็จเสียดึกดื่นเลย 😀

    1. ขอบคุณที่ส่งมาให้ลองเช่นกันจ้า (^^ )

Comments are closed.