การปรนเปรอความสุขให้กับชีวิตบ้างในวาระโอกาสพิเศษ หากเป็นสิ่งที่อยู่ในวิสัย ย่อมไม่ใช่เรื่องผิดอะไร.. ก่อนนี้เมื่อนานแล้ว เคยไปฉลองวันเกิดที่ PRIME Steakhouse โรงแรมMillennium Hilton กรุงเทพ
http://hilton.co.th/bangkok-hotels/millennium-hilton-bangkok-hotel/index.html
https://www.facebook.com/Hiltonbangkok
แต่แล้วด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการย้ายที่อยู่ ทำให้ห่างหายจาก Millennium Hilton ไปพอสมควร เมื่อได้กลับมาเยือน PRIME Steakhouse อีกครั้ง จึงรู้สึกเหมือนได้มาเจอเพื่อนเก่า..
ห้องอาหาร PRIME Steakhouse ตั้งอยู่ริมน้ำในชั้นที่กำลังดี เรียกว่ายังได้สัมผัสวิถีสองฟากฝั่งเจ้าพระยาได้อย่างเต็มตา..
แก้วไวน์รวมถึงเครื่องใช้ไม้สอยเป็นของสมแก่ฐานะห้อง น้ำหนักกำลังดี ที่ขอชมคือมีดเสต็ก คมได้ใจ ไม่ต้องใช้แรง.. บางที่ต้องขอเปลี่ยนหลายหน กว่าจะหั่นเข้า (เอ๊ะ หรือไม่ได้เป็นที่มีดล่ะนั่น)
ด้านหนึ่งของห้องอาหารเป็นครัวเปิด เผยให้เห็นเตากริลล์ ซึ่งเสมือนเป็นหัวใจสำคัญของห้องอาหารนี้ นั่นก็คือการใช้ไฟ..
ห้องอาหาร PRIME Steakhouse พิถีพิถันเลือกใช้wood chips ที่ต่างชนิดกัน เพื่อให้ได้”กลิ่น”ที่เข้ากับเสต็ก นั้น ๆ มากที่สุด โดยเราจะเป็นคนเลือก หรือให้เชฟเลือกให้ก็ได้ มีทั้งwood chips ที่ผ่านการแช่ในไวน์แดง Cabernet และที่ผ่านการแช่ใน Belgium Beer
เมนูนั้นก็สมแก่ความเป็น Steakhouse.. แน่นอนว่าเอาใจคนรักเนื้อ แต่ผู้ไม่กินเนื้อวัวก็มีตัวเลือกที่หลากหลาย แม้ผู้ที่กินมังสวิรัติก็สามารถร่วมโต๊ะได้อย่างไม่หงอยเหงา
อย่างแรกเลยที่มา PRIME Steakhouse แล้วไม่ควรพลาดคือ.. ขนมปัง Complimentary แม้สำหรับผู้ที่ลดแป้งก็ตามแต่.. เพราะช่างนุ่มเหลือใจ ยิ่งถ้าได้ปาด Garlic Butter ไปฉ่ำ ๆ ด้วยแล้ว.. อื้มมมม.. ลืมเรื่องลดน้ำหนักไปก่อนนะ
เริ่มมื้อกันอย่างเบา ๆ ด้วย Caesar Salad หนึ่งใน signature ของห้องอาหารนี้ ทางพนักงานจะเข็นรถมาเป็น tableside preparation กอปรด้วยชามไม้ใบโต ประดับด้วยชื่อ PRIME อย่างภาคภูมิ.. เครื่องเคราปรุงน้ำสลัดอลังการกว่าน้ำสลัด Caesar Salad โดยทั่วไปอยู่ไม่น้อย..
Caesar Salad ที่นี่ต้องเรียกว่าเป็นอย่าง Less is More.. น้ำสลัดเข้มข้น เคลือบผักสลัดไว้อย่างได้รสได้ชาติทุกคำ ด้วยว่าเครื่องเคราของน้ำสลัดนั้น มากมายอย่างที่เห็นข้างต้น จึงไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องสลัดอย่างอื่นให้มากมายเยอะสิ่งเข้าไปอีก เพียง Parmesan Cheese เบค่อนกรอบ ๆ และกรูต็อง ก็เพียงพอแล้ว..
Pacific Tuna Tartar เป็นทูน่าดิบหั่นเต๋า เคียงมาด้วย Beetroot Pesto สีสันเข้ากันดี เสริมรสด้วยHorseradish Espuma ให้รสเผ็ดกระตุ้นลิ้นนิด ๆ ทั้งยังมี Horseradish ขูดสดมาด้วย
Tournedos Rossini หรือเสต็กเนื้อประดับด้วย Foie Gras เป็นอีกหนึ่งจานแนะนำของที่นี่ ทั้งเนื้อและตับห่านมาอย่างหนานุ่ม รับประทานแล้วเข้ากันดี ปรุงได้สอบผ่าน สุกกำลังพอเหมาะทั้งคู่ มีซอส Madeira reduction ช่วยเสริมรส
จาน.. ไม่สิ.. หอคอยนี้ดูอลังการสมชื่อSeafood Tower มาอย่างจัดเต็มทั้งทาร์ทาร์ทูน่าและแซลม่อน หอยนางรม ล็อบสเตอร์ กุ้ง ปูทาราบะ.. ความสดไม่ต้องพูดถึง
มาถึงอีกหนึ่งพระเอกของห้องอาหาร PRIME Steakhouse.. Prime Cuts Roasted Beef
เห็นเป็นRoasted Beef นอนชุ่มฉ่ำมาในจาน อวดสีชมพูสวยแล้วก็จริง แต่ยังไม่จบพิธีกรรมเพียงเท่านี้..
ประดับหน้าด้วยหัว Horseradish ขูดสด ให้กลิ่นรสเผ็ดฉุนพองาม..
พร้อมรับประทานแล้วค่ะ =)
แอบกระซิบว่า Prime Cuts Roasted Beef ที่เห็นอยู่นี้เป็นขนาด 8 oz. (ราว225กรัม) ราคาเพียง 888บาทNett เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองโรงแรม Millennium Hilton กรุงเทพครบ 8 ปีค่ะ
โอกาสดีแบบนี้ ไม่อยากให้พลาดนะ ( ^_^ )
ยังมีโปรโมชั่นร่วมเฉลิมฉลอง 8 ปี โรงแรม Millennium Hilton กรุงเทพ อีกมาก ไปดูกันได้ที่ https://www.facebook.com/notes/millennium-hilton-bangkok/8-mania-8th-anniversary-ฉลองครบรอบ-8-ปี-โรงแรมมิลเลนเนียม-ฮิลตัน-กรุงเทพ/746541298711676 เลยค่ะ
อีกจานที่ได้ลองกันวันนั้นคือ Lamb, Kalamata Olives & Goat Cheese เป็นLamb Loin อบอย่างช้า ๆ จนสุกดี เลือกระดับ Medium Rare ก็เรียกได้ว่าได้ตามสั่ง.. ประดับมาด้วยมะกอก Goat Cheese Cream และ Artichoke หอมกลิ่นสมุนไพร แน่นอนว่าไร้สาบแกะ
เนื้อดีแบบนี้ ขอไวน์แดงสักแก้งละกันนะคะ =)
อย่างที่ได้บอกแล้วว่ามาเพลินเพลิงริมสายน้ำ.. ด้วยว่า PRIME Steakhouse เขาเด่นเรื่องการใช้ไฟ
จึงขอจัด AUS Tajima Wagyu New York Strip Loin 12 oz. (360กรัม) มาลองเสียหน่อย..
การย่าง จะกริลล์ในเตาแรกให้เกิดลายบั้งเนื้อสวยงามก่อน ทั้งยังseared ปิดผิวหน้าไม่ให้ความฉ่ำของเนื้อหนีหาย..
จากนั้นวางบนถาดอบ โดยรองถาดด้วยมันฝรั่ง เพื่อมิให้ชิ้นเนื้อได้รับความร้อนตรง ๆ จากเตามากเกินไป แล้วโปะด้วยเนยเยิ้ม ๆ
จึงนำถาดเนื้อเข้าเตาอบเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยถาด Wood Chips กรุ่น ๆ .. ซึ่งในเตาอบนั้นจะมีระบบดูดควันอยู่ กรุ่นควันอลอวลจาก Wood Chips จึงลอยฟุ้งเข้าหาชิ้นเนื้อ สร้างความหอมเต็ม ๆ ..
จนได้มาเป็นจานนี้.. AUS Tajima Wagyu New York Strip Loin 12 oz.
จากจานเนื้อที่ได้ลองมา ขอยกให้จานนี้เป็นจานที่ถูกใจที่สุด จะด้วยความกรอบเกรียมนิด ๆ ของผิว หรือกรุ่นกลิ่นควันจากwood chips หรือเพราะความนุ่มกำลังดีกับรสชาติเนื้อที่เต็มเปี่ยมก็ไม่แน่ใจนัก เพราะมันช่างฟินไปเสียทุกสิ่งอย่างในจาน (>_< )
แอบส่องจานซุปของผู้ร่วมโต๊ะ มาแบบพองฟูมาก ( ^_^ )
เป็น Corn & Jalapeno Cream Soup “En Croute” เครื่องวูปเป็น Spicy BBQ Tiger Prawns
“En Croute” คืออาหารใด ๆ ก็ตามแต่ที่ห่อ/โปะด้วยแป้ง แล้วเอาไปอบ
ถ้าใครชอบดู Hell’s Kitchen คงจำได้ว่ามีเมนูนึงที่โผล่มาในรายการบ่อย ๆ ซึ่งก็คือBeef Wellington นั้น มีชื่อภาษาฝรั่งเศสว่า Boeuf en Croute ค่ะ =)
ซุปนี้ก่อนรับประทานก็ต้องกระเทาะแป้งให้แตกนะ กลิ่นหอมที่ถูกเก็บกักไว้ภายในก็จะฟุ้งออกมา..
เติมด้วยครีม.. ก้พร้อมรับประทานแล้วจ้ะ =)
และแล้วก็มาถึงของหวาน.. ถึงจะอิ่มเอมกับเนื้อแค่ไหน แต่มาถึงของหวานแล้วไม่มีถอย..
ผู้ไม่นิยมของหวาน ก็ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ เช่น กาแฟล้ำ ๆ ชีส หรือจะ Liqueurs ต่าง ๆ ก็มีให้เลือก..
ถึงอิ่มหมีแค่ไหน มาถึงแล้วก็ต้องขอลองของหวานเสียหน่อย.. จานแรกคือ Marinated Fresh Berries เป็นนานาเบอร์รี่หมักเคล้ารสเปรี้ยวอมหวาน โปะหน้าด้วยโฟมเมล่อน ได้กลิ่นรสเมล่อนชัดเจนมาก แล้วประดับด้วยไอศกรีมอีกที.. ยกมาทีแรกตกใจนิดนึงว่าจะกินหมดไหม แต่ด้วยความเบาฟูของโฟม จ้วงกันแป๊บเดียวก็หมด เหมาะรับประทานหลังมื้อหนักเนื้อจริง ๆ ส่วนตัวว่านเทใจให้ของหวานจานนี้ที่สุด เพราะรับประทานง่ายเบาสบายดี..
จานต่อมาเป็น Fresh Strawberries
คล้าย ๆ จานแรก คือเป็นนานาเบอร์รี่ เน้นสตรอว์เบอร์นี่มากหน่อย เสิร์ฟพร้อม Creme Chantilly และ Meringue ซึ่งจัดจานมาเป็นคล้าย ๆ รูปปีก น่ารักดีค่ะ =)
จานที่สาม เป็น New York Cheesecake เนื้อนุ่ม-เนียน-แน่น สมความเป็นNew York Cheesecake แต่ไม่หนักมากค่ะ
จานสุดท้ายเป็น Traditional Vanilla Crème Brûlée อร่อยเบา ๆ แบบไม่ต้องคิดมาก..
ตอนยกมาทีแรกก็แอบเล็งกันว่า caramel brittle บนหน้า under ไปรึเปล่าน้อ แต่พอเอาช้อนเคาะ ก็กรอบเป็นแผ่นดีค่ะ =)
หลังจากอิ่มเอมกัน(มาก) แล้ว ก็ขึ้นไปรับลมชมวิวที่ ThreeSixty กันหน่อย..
ซึ่ง ThreeSixty นั้นมีทั้งในส่วนของ ThreeSixty Outdoor Lounge ที่ชั้น 31 ซึ่งรับวิวได้อย่างเต็มตา
ทั้งในฝั่งที่หันไปทางเมือง ก็เป็นวิวแสงสีแพรวพราวจับตา ส่วนฝั่งที่หันไปทางวัดวา ก็เป็นสีสันค่ำคืนอีกแบบ..
รับลมชมวิวอิ่มตาแล้ว ก็ขึ้นมายังชั้น 32 มาที่ThreeSixty Jazz Lounge
มีเก้าอี้Sun lounge bed ด้วย สวีทสุด ๆ (>_< ) (แต่คงต้องเรียกว่าเป็น Moon lounge bed สินะคะ =) )
ผู้คนค่อนข้างคึกคักพอควร พวกเราก็คุยกันไป เฮฮากันไป แล้วก็จะมีช่วงเงียบ..
ต่างฝ่ายต่างก้มเช็คโทรศัพท์ XD..
สั่งเครื่องดื่มมาลองหน่อยค่ะ แอบสารภาพว่าจำชื่อไม่ได้ จำได้แต่มี Absinthe ( ^^’ ) มาแบบร้อนแรงมาก..
ถึงจะมี Absinthe รับรองว่าแก้วนี้ไม่แรงเกินพิกัด เพราะไฟผลาญแอลกอฮอล์ไปเสียสิ้นแล้ว (ฮา)
ดื่มสบาย ๆ ไม่ต้องกลัวน็อคค่ะ
อย่างที่ได้แจ้งไปแล้วว่าตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ โรงแรม Millennium Hilton กรุงเทพ เขามีโปรโมชั่นร่วมเฉลิมฉลอง 8 ปีของโรงแรมอยู่ แอบแว่บไปดูที่ https://www.facebook.com/notes/millennium-hilton-bangkok/8-mania-8th-anniversary-ฉลองครบรอบ-8-ปี-โรงแรมมิลเลนเนียม-ฮิลตัน-กรุงเทพ/746541298711676 แล้วมีน่าสนใจหลายรายการเลยค่ะ อย่างที่ห้องอาหารโฟลว์ สามารถเพลิดเพลินกับบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันในราคา 888 บาทNett หรือบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำพร้อมไวน์ครึ่งขวดในราคา 1,888 บาทNett และบรันช์ ออน เดอะ ริเวอร์ ในราคาเพียง 1,888 บาทNett ต่อท่าน
หรือถ้ากำลังมองหาที่เดทโรแมนติกยามค่ำคืน(แต่อย่าลืมเช็คสภาพดินฟ้าอากาศก่อนนะคะ) ที่ทรีซิกตี้ เอาท์ดอร์ เล้าจน์ ก็มีปิกนิกใต้แสงดาวในราคาเพียง 888 บาทNett ต่อท่าน.. แจ่มนะ (>_< )
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณโรงแรม Millennium Hilton กรุงเทพ ที่เชิญว่านมา รู้สึกเหมือนได้มาเจอเพื่อนเก่าที่ห่างหายไปนาน แม้ตอนเดินทางไปจากเอกมัย แอบคิดว่ารถคงติดน่าดูกว่าจะไปถึง แต่วิ่งเข้าเส้นพระรามสาม เลาะมาก็ไม่ได้ไกลมาก แป๊บเดียวถึงเจริญนครแล้ว คิดว่าคงได้มาเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าบ่อยกว่านี้ค่ะ =)