เย็นวันหนึ่งต้นเดือนกุมภาพันธ์..

“อะไรเนี่ย.. ยังไม่เก็บกระเป๋าอีก นี่มันกี่โมงเข้าไปแล้ว คราวที่แล้วก็เป็นแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก แง่งๆๆ”

.. ฟัง( อ่าน )จากประโยค คนที่จะบ่นอะไรง่องแง่งๆยังงี้น่าจะเป็นผู้หญิงชิมิ? แต่เปล่าเลย..
ไม่ใช่ใครหรอก ตาหมาดำนี่แหละ มาถึงยังไม่ทันฟังอีร้าค่าอีรม ( หรือแม้แต่อิว่าน ) ก็บ่นนำมาแล้ว..

แหม คนกำลังเรียบเรียงข้อมูลก่อนไปโค้งสุดท้ายอยู่ ขอเวลาสักนิดไม่ได้รึไงฮึ..
“ไม่ได้เก็บอะไรฮะ ของที่จะไปก็เอามากองไว้แล้ว ครบถ้วนตามรายการchecklist ก็บางอย่างมันต้องรออาบน้ำก่อนถึงจะเอามาใส่นี่นา
แค่จัดลงกระเป๋าเท่านั้นเอง เชอะๆๆๆ”

” ..( -“- ).. ”
” ..( >_< )..”

หลังจากอาบน้ำ แต่งตัว วิ่งวุ่นจัดเอกสาร คอนเฟิร์มข้าวของว่าครบตามlist ที่ตัวเองทำไว้
( มีประโยชน์มาก ขอบอก.. ใครเดินทางไม่ควรเกียจคร้านในการทำchecklist ของที่จะเอาไป ช่วยประหยัดเวลาได้มากจริงๆ อิอิ )
พาสปอร์ตอยู่ ตั๋วเครื่องบินอยู่ JP Railpassอยู่ ใบขับขี่สากล.. อยู่.. อึมๆๆๆ
เฮ้อ ยังไม่ได้เช็คพวกรายละเอียดร้านอาหารอีกรอบเลยว่าปริ้นมาครบรึเปล่า..
เอาน่า ถึงจะฉุกละหุกหน่อย ก็ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิได้ เย้  

พอมาถึงสนามบิน ตาหมาดำก็ถีบว่านพร้อมกระเป๋าออกจากรถอย่างไม่ใยดี ( ซิกๆๆ )
ปล่อยให้เดินลากกระเป๋าแถ่ดๆเข้าประตูสามไปตามยถากรรม.. เหมือนจะได้ยินเสียงแว่วมาว่า..
“นี่คือสถานน.. แห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่..”
เอร่อ.. ไม่ใช่แระ.. ปองมาสู่ญี่ปุ่นก็จริง แต่ไม่ใช่ฟีลนี้นะ o( >_< )o

พจว่านลากกระเป๋าเซซังไปดูจอมอนิเตอร์ว่าต้องไปเช็คอินrow ไหน
เอ.. ไฟล์ตของเราอยู่ไหนหว่า.. ทำไมเครื่องไปญี่ปุ่นเยอะจัง.. เที่ยวบินTG640 เครื่องออก4ทุ่มครึ่ง งึมๆๆๆ
อ๊ะ นั่นไง เจอแล้ว..
TG640 เครื่องออก.. 23.10!!!  

รีบควักตั๋วมาดูทันใด ฉันจำเวลาเครื่องออกผิดไปรึไงฟละ..

เอ.. ในตั๋วก็22.35 นี่นา.. ดีเลย์ไม่บอกไม่กล่าว.. ฮือ.. ใจร้ายที่สุด..
รีบโทรศัพท์บอกลูกเป็ดทั้งหลาย..
อ่ะ กรี๊ดด ( อีกที ) เบอร์ลูกเป็ดอีกคู่อยู่ในมือถืออีกเครื่องที่ฝากตาหมาดำกลับไปนี่นา
เลยต้องรีบโทรบอกตาหมาดำให้ช่วยตีรถกลับมาหน่อย ยังดีที่รู้ตัวไว เลยยังไปไม่ไกล( มาก.. แหะๆ )

หลังจากนั่งรอ นอนรอ.. แทบจะตีกังลารอเครื่องออก สุดท้ายก็ได้boarding ขึ้นเครื่องซะที เฮ้อ..

เรื่องเวลาเดินทางนี่ต้องขอลุ้นกันนิดหน่อย เพราะวางโปรแกรมไว้อย่างค่อนข้าง”รดต้นคอ”
แบบว่าเดินทางไปถึง 06.15 ( ตามกำหนดเดิม ) ผ่านพิธีนู่นนี่นั่น แลกตั๋วJP Railpass
จากสนามบินขึ้น Narita Express เวลาเท่านี้เพื่อไปสถานีโตเกียว แล้วก็จับชิงกันเซ็นไป Hachinohe
ต่อรถไฟหวานเย็นอีก 23 นาที แล้วค่อยโทรไปที่พัก ให้เค้าส่งรถมารับ..

ฟังดูหลายต่อเนาะ.. จริงๆแล้วทางเรียวกัง คือ Komaki Onsen นั้น ก็มีรถมารับจากสถานี Hachinohe เหมือนกัน
แต่เป็นรถแบบ fix เวลา รอบเดียว คือ 13.15 ถึงโรงแรม 14.00
อรึม.. ใช้เวลานานกว่านั่งรถไฟ แถมยังfix เวลาอีก ต่อรถไฟกันอีกซักตุ๊บละกันนะ ลูกเป็ดทั้งหลาย หุหุหุ

นี่เดีเลย์ไปประมาณครึ่งชั่วโมงยังพอว่า ยังพอโปะเวลาจากตรงอื่นแทนได้ ไปถึงเรียวกังแล้วจะได้ไปเดินเล่น ไปแช่น้ำร้อน
ไปกินข้าว กล่าวคำขอบคุณลูกเป็ดทั้งหลายที่หลวมตัวมาร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน ไป ……..

ถึงจะวางแผนการในใจไปเรื่อยเปื่อย..
แต่ร่างกาย( โดยเฉพาะตูด )มันก็ฟ้องว่า.. นั่งนานแล้วนะ เจ้านาย.. ยังไม่เห็นไปไหนเลย..

นึกแล้วก็จริงอย่างที่ตูดอุทธรณ์.. boarding มาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นเครื่องขยับไปไหนเลยนี่หว่า..
ดูนาฬิกาเวลาก็ล่วงไปจวนจะเที่ยงคืนอยู่อีกไม่กี่นานช้า เฮ้ย มันอะไรกันเนี่ย…

รออีกพักนึงก็มีคุณพ่อคุณแม่หอบลูกมาขึ้นเครื่องอย่างกระหืดกระหอบ.. อ้อ ลูกสามคน( รึสี่คนนี่แหละ )ก็เลยช้า.. อรึมๆๆ

มันเกี่ยวไหม.. ( -“- )

มีเสียง( ไม่ขอระบุพิกัดที่มา อิอิ )แหวกอากาศมาแบบสั้นๆเบาๆว่า “เครื่องดีเลย์แล้วยังจะช้าอีก”

อูยยยยยยย…

สนใจครอบครัวนั้นได้แปบเดียว ก็ต้องหันมาสนใจเรื่องของตัวเองต่อ
เพราะ.. มันไม่ได้ดีเลย์แค่ครึ่งชั่วโมงแล้วสิ! ( T_T )
นี่ถ้าเครื่องลงเยอะ ตม.ต้องรอเป็นชั่วโมงๆจะทำไง แล้วไหนจะต้องรอกระเป๋าอีก อร๊ากกกก..
( สมองส่วน”นอยด์” เริ่มสั่งการ )

พลิกซ้ายพลิกขวากระสับกระส่ายอยู่สักครู่ วนเวียนคิดแผนสำรอง ทางออกนอกเหนือจากที่เตรียมไว้..
เกิดไม่ทันแล้วจะทำไงดี ฮือๆๆๆ นี่แค่วันแรกเองนะ ทริปของชั้นก็เป็นแบบนี้แล้วเหรอ..

สุดท้าย.. ก็ต้องบอกตัวเองว่า “ช่างมันเหอะ” ถ้ามันจะเลท มันก็เลทไปแล้ว เลทแล้วจะทันรึเปล่า
ก็ต้องไปดูเอาดาบหน้า คิดไปก็เท่านั้น..  

สุดท้าย.. คิดไปก็เท่านั้น.. จริงๆ..

เพราะพอเครื่องแลนดิ้งได้อย่างงดงาม
คิวตม. ก็ไม่ถือว่ายาว.. รีบจ้ำกันด้วยแหละ บอกลูกเป็ดว่าใครอยากเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือเข้าห้องน้ำ
รอไว้หลังผ่านตม. ก่อน ซึ่งลูกเป็ดทั้งหลายก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดี ทุกคนผ่านฉลุยไม่มีปัญหาอะไร
รับกระเป๋า.. รอนานหน่อย อันนี้ช่วยไม่ได้ ไม่โดนตรวจกระเป๋า เรียกว่าผ่านตลอดๆๆๆ

พอหลุดออกมาได้ก็แจ้นไปเคาน์เตอร์ SoftBank ที่จองSim โทรศัพท์มือถือไว้ ว่านเลือกเช่าเฉพาะ Sim ค่ะ
เพราะใช้เจ้าvNavi 6210 เป็น 3G
ก่อนมา ถาม Nokia Shop เค้ายืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าใช้ได้ ไม่ต้องปลดล็อคอะไรทั้งนั้น แล้วค่าเช่า(แค่) Sim
มันก็ถูกสุดด้วย 105เยนต่อวัน.. แต่เน้นอีกทีว่าเหมาะสำหรับคนเน้นรับสายนะคะ เพราะรับสายฟรี แต่โทรออกค่อนข้างสูงอยู่
ไม่ว่าจะในญี่ปุ่น หรือต่างประเทศ

ตอนไปรับซิมก็แอบนอยด์เงียบๆในใจคนเดียว ว่าเครื่องเรามันจะใช้ได้จริงรึเปล่า ถ้าไม่ได้นี่ก็ต้องวิ่งไปเช่าเครื่องที่ G-Call
ซึ่งเป็นอีกเคาน์เตอร์นึง ( เพราะเจ้านี้ถัวๆดูแล้วค่าเช่า-ค่าโทร น่าจะโอเคสุด.. ) สุดท้ายก็ใช้ได้ดีใจจัง ไม่ต้องวิ่งไปหาเคาน์เตอร์ G-Call เย้ๆๆ

ดีใจได้ไม่นาน ก็ต้องมาลุ้นต่ออีกนิดที่เคาน์เตอร์ของ Japan Rail ตอนแลกตั๋ว JP Railpass..

เวลาตอนนั้นน่าจะประมาณ 08.20 +-ไปไม่น่าเท่าไหร่ เดชะบุญ( อีกแล้ว )ที่คิวไม่มี มีคิวก่อนหน้าคณะเราคิวเดียวเอง
แต่ด้วยจำนวนสมาชิกที่มากถึง 5 คน ก็ทำให้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการอยู่ดี
ก็ยังดีที่ปริ้นต์ตารางรถไฟที่ต้องการไว้เรียบร้อย แค่ยื่นก็ได้เลย..

Photobucket

แต่แล้ว.. สิ่งที่แอบกลัวไว้ก็เป็นจริงจนได้..

ขบวนรถนอน Nobi Nobi Carpet เต็ม!!!

Nobi Nobi Carpet นับว่าเป็นหนึ่งในที่นอนที่สำคัญยิ่งของทริปนี้
เพราะเรากะนอนบนรถไฟขบวนพรมนี่ถึงสองคืน เพื่อประหยัดค่าที่พักไปโปะเรียวกังสุดอลังการ ( ฮา )

ก็รู้อยู่หรอกนะ ว่ามันหน้าเทศกาล.. แต่แหม.. เค้า( จะนอน )ไปวันพุธอ่ะ ก็ขอแอบหวังมั่งไม่ได้เหรอ
ว่ามันจะว่าง.. สุดท้ายก็ต้องอกหักจนได้..

ก็เลยถามคุณจนท. ว่าแล้ว Goranto Seat ยังว่างไหม คุณจนท.หลังจากเงียบจนแอบเสียวหน่อยนึงก็บอกว่า..ว่าง

ก็เลบรีบละล่ำละลักบอกไปว่า ขอจองเลยค่ะ 5 คน

ในที่สุด ตั๋วจองที่นั่งปึกเบ้อเร่อก็มาอยู่ในกำมือ..
ยังจองไม่ครบทุกรายการด้วยแหละ แต่คุณจนท. รีบไล่ให้ไปก่อน เพราะจวนเจียนจะถึงเวลา 08.52 ที่รถไฟ Narita Express
จะออกแล้ว แว๊ก..

ก็เลยไล่ลูกเป็ดน้อยๆ ให้ขนกระเป๋าก๊าบๆๆๆ กันไปก่อน แล้วรีบขอบคุณคุณจนท. พร้อมเข็นกระเป๋าซิ่งตามลูกเป็ดน้อยกันสุดรี๊ด
แล้วมันขบวนไหนล่ะเนี่ย การี๊ดดดดด~~~

เฮ้ออออออออออออออออออออออออ..

ถอนหายใจยาว.. ( ซะที )
สุดท้ายก็ขึ้นรถไฟมาจนได้..

พอขึ้นรถไฟมาได้ ก็”บรีฟ”ลูกเป็ดทั้งหลายว่า ทริปนี้ เราเป็นทริป”เคี้ยวอ้อย””
เลือกเคี้ยวได้ตามความพอใจ ทั้ง”อ้อยสร้อย” และ”อ้อยอิ่ง”
อยากจะเดินหนุงหนิงเดินดูเดินซื้อถ่ายรูปอะไร ทำตัวสวีทวี่วีแค่ไหนไม่มีใครว่า ( แต่ว่านอาจจะแอบค้อนในใจเล็กน้อย เพราะไม่มีคู่ อิอิ )
แต่ถ้าช่วงไหนที่ “อย่าเคี้ยวอ้อย” ก็ขอให้หมายความตามนั้น เพราะแสดงว่า “ต้องรีบ” แล้วจริงๆ

โอเคร๊.. 

พอเดินทางมาถึงสถานีโตเกียว.. เราก็เริ่มQuest แรก นั่นคือ.. ตามหาที่ชาร์จแบตกล้อง ( -_-‘ )
เนื่องจากท่านประธานเป็ด ลืมที่ชาร์ตไว้ที่บ้าน..
ซึ่งแน่นอนว่า รอบสถานีโตเกียว วันธรรมดา เวลา10โมงเช้า.. Quest นี้คงสำเร็จได้ด้วยความยากลำบากยิ่ง
เราก็เลยผ่านไปQuest ต่อไป นั่นคือ.. ซื้อข้าวกล่อง
Quest นี้ไม่ยาก แต่ออกแนวตัดสินใจลำบากมากกว่า ว่าจะเลือกอะไร อิ๊ๆๆ

ซึ่งก็ได้มาตามนี้ค่ะ..
ดื่มน้ำพักเหนื่อยกันก่อน.. แฮ่..

Photobucket

อันนี้ของลูกเป็ดตี๋ค่ะ..

Photobucket

ทงคัตสึ..

ลูกเป็ดตี๋บ่นเสียดายที่ไม่ร้อน
ใครเสียดายเหมือนกัน ยกมือขึ้นนนน.. อิอิ

Photobucket

นี่ของลูกเป็ดน้อย..

เค้าว่าคนรักกันชอบอะไรคล้ายๆกันชิมิ

Photobucket

ของท่านประธานฯและคุณนายเป็ดค่ะ..

Photobucket

นี่ของว่านเอง..
โลเลจัง ลังเลใจอยู่นานว่าจะเลือกอะไรดี..

พอเห็นป้ายว่าอันนี้ได้รางวัลประกวดข้าวกล่อง ก็เลย.. อันนี้ละกัน อิอิ

Photobucket

ให้อารมณ์เหมือนเวลาเดินทางสมัยโบราณๆดี อิอิ

Photobucket

พอท้องเริ่มอิ่ม.. สายตาก็เริ่มสอดส่าย..
ไปถ่ายรูปที่วางกระเป๋าเดินทางดีกว่า..

ขนาด32″ สบายมาก..

Photobucket

ในที่สุดก็ขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้าย ( ของวันนี้ที่จะต้องขึ้น.. )
เป็นรถไฟสายHakucho วิ่งจากAomori ผ่านHachinohe ผ่านMisawa และไปสุดที่ Hakodate

Photobucket

บรรยากาศเวิ้งว้างข้างทาง..

ลูกเป็ดเริ่มกิ๊บกั๊บกับหิมะที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยมีให้เห็น..
แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว.. “หนานุ่ม” มากค่ะ.. หุหุ

Photobucket

หลังจากนั่งรถไฟกันอย่างเบิกบาน( โดยเฉพาะตูด.. บานจริงๆ )
แถมรวมเวลานั่งเครื่องไปด้วยก็ใช่น้อย เหอะๆๆ

ในที่สุดก็ลงจากรถไฟ ถึงสถานีMisawa อันเป็นที่หมายกันเสียที..
ขนของลงกันเถอะ ไปถึงที่พักจะได้อาบน้ำพักผ่อนกันให้หายเมื่อยล้าสบายกายา.. ลั้นลาๆ

ลั้นลา..

“น้อยจ๊ะ.. แล้วเป้ตี๋ล่ะ”
“อ้าว ก็ตี๋ไว้บนชั้นข้างบนไม่ใช่เหรอ ไม่ได้เอาลงมาเหรอ” 
“..( -“- )..”
คนครบ – ของไม่ครบ = งานเข้า!!!

ยังดีที่มารำลึกกันได้ตอนเดินออกช่องตรวจตั๋วพอดี ถ้านึกได้ตอนถึงที่พักแล้วคงมีเฮกว่านี้
เลยหันขวาไปบอกนายสถานีซะเลย ( พากย์ไทยโดย ว่านน้ำ )

“ลืมของค่ะ”
“เป็นเป้ค่ะ สี..บลาๆๆ..หน้าตา..บลาๆๆ..ของข้างใน..บลาๆๆ..”
.อ่า.. ให้ไปรับที่อาโอโมริเหรอคะ ขอไปรับที่ฮาโกดาเตะได้ไหมคะ
ไหนๆรถไฟสายที่ขึ้นมันก็ไปสุดที่ฮาโกดาเตะ แล้วพรุ่งนี้ก็จะไปฮาโกดาเตะอยู่ด้วยแล้วน่ะค่ะ”

เวลาผ่านไป.. บรรยากาศมาคุเล็กน้อย..
คู่หันหนีมูน ทำท่าจะ”หันหนีกัน”แต่วันแรก เลยต้องบอกไปว่าไปตกลงกันเองดีๆว่าใครจะดูของใคร แต่ดูแลของของตัวเองเป็นดีที่สุด จะได้ไม่ต้องคิดว่าใครจะมาดูของเรา..
ลูกเป็ดน้อยเสนอว่าจะนั่งรถไฟไปตามให้ไหม เลยต้องเบรกไปว่าไม่ต้อง.. ของหายยังพอว่า ถ้าคนหายนี่ล่ะยุ่ง..
แต่ก็แอบปลอบไปว่า ถ้าที่เมืองอื่นน่ะไม่รู้ แต่ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่น “ค่อนข้าง”แน่ใจได้ว่า ของจะไม่หาย

และ.. หลังจากรอประสานงานอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงได้..
นายสถานีก็แจ้งข่าวว่าเจอของแล้ว เก็บไว้ให้อยู่ที่สถานีฮาโกะดาเตะ \( ^^ )/

“ค่ะ ใช่ค่ะ นี่ชื่อกับเบอร์ติดต่อนะคะ พรุ่งนี้จะไปรับที่สถานีฮาโกดาเตะนะคะ ขอบคุณมากๆๆเลยค่ะ”
( คิดถูกจริงจริ้งงง ที่เช่าซิมมา.. )

เป็ดตี๋ดูท่าจะยังไม่คลายความกังวลเท่าไหร่ อาจจะเพราะในนั้นมีข้าวของอยู่มากมาย ทั้งกล้อง สายชาร์จ และ.. ลาแมร์
แต่.. คิดไปก็เท่านั้น..อยู่ดี จริงแมะ.. 

ในที่สุดก็ได้ออกมานอกสถานีMisawa ซักทีค่ะ
หิมะกองเป็นหย่อมๆ อากาศหนาวเย็นดีทีเดียว.. บรึ่ย..

หน้าสถานีมีตุ๊กตาโคเคชิขนาดยักษ์
เป็นที่ถูกใจของคุณนายเป็ดมาก เพราะเธอ love love โคเคชิค่ะ อิอิ

Photobucket

รอซักแปบ รถของทางโรงแรมที่โทรแจ้งไปก็มารับ..

Photobucket

โรงแรมที่เราพักกันคืนแรก คือ Komaki Onsen Aomoriya ค่ะ
เป็นโรงแรมที่พึ่งรีโนเวทใหม่ไม่นาน ดูสวยงามดี ราคาเหมาะ เดินทางไม่ลำบาก มีรถมารับถึงสถานี
และอย่างที่แจ้งไว้ในตอน 0 ด้วยว่าอันที่จริง จะพักแบบพวก Chain Hotel ก็ได้ ใกล้สถานีดี..
แต่หมายใจไว้แล้วว่าคืนแรกที่ถึงญี่ปุ่น อยากให้ลูกเป็ดทั้งหลายได้สัมผัสบรรยากาศ ทั้งที่พัก ออนเซน และอาหารแบบญี่ปุ่น
เพื่อเป็นการต้อนรับทุกคนสู่”แดนอาทิตย์อุทัย”นี้จริงๆค่ะ

บรรยากาศล็อบบี้สวยยยยยย สมกับที่พึ่งรีโนเวท..

Photobucket

อีกมุมหนึ่ง..
ยังกะโรงแรมใหม่ยังงัยยังงั้น

Photobucket

แต่พอเห็นห้องพักนี่.. เชื่อแล้วค่ะ ว่าไม่ใช่โรงแรมใหม่จริงๆ
ดูธรรมดามากกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่ถึงกับเก่าหรือโทรม แต่อาจจะเพราะล็อบบี้ทำไว้สวยมาก เลยเกิดอาการปรับโหมดไม่ทันนิดหน่อย แหะแหะ

เลยถ่ายมาแต่รูปวิว.. วิวสวย
มองลงไปเห็นสระน้ำเล็กๆ

Photobucket

แน่นอนว่ามาถึงเรียวกัง ก็ต้องมีขนม+ชาต้อนรับตามธรรมเนียม..

Photobucket

แป้ง + ถั่ว + น้ำตาล..

เหมือนขนมไทยดั้งเดิม ที่จะเป็น แป้ง + มะพร้าว + น้ำตาลแหละค่ะ อิอิ

ทานของหวานๆ ชีวิตจะได้หวานชื่นค่ะ
อ่ะ อ๊ามมมมม..

Photobucket

เนื่องจากคืนนี้เราจะนอน”เรียงกัน” 5 คน..
ยังมีเวลาอีกนาน เหอะๆๆ

ไปเดินเล่นรอบทะเลสาบในเรียวกังดีกว่า

Photobucket

แค่บ่ายสี่กว่า พระอาทิตย์ก็ใกล้ตกแล้ว..

Photobucket

แน่นอนว่าหนาวขนาดนี้ทะเลสาบเป็นน้ำแข็งไปเรียบร้อย
แต่ด้วยความซนในหัวใจของเป็ดตี๋.. ซึ่งคงถือคติ.. เห็นด้วยตา จงอย่าเชื่อ

เลยเอาขาเหยียบๆ ทะเลสาบดูว่าจะ”แข็ง”จริงไหม..

“ผลุ!”

ดีนะ ที่เหยียบแค่ขอบๆ
เกือบผลักแถมให้แล้ว แหม่.. เล่นรัยไม่เล่น..

Photobucket

ตะวันรอน..

Photobucket

ความงามแสนเหงา..

เห็นภาพบรรยากาศแบบนี้ทีไร นึกแบบนี้ทุกที..

Photobucket

ฝนปรอยลงมาแผ่วๆ
พวกเราเลยว่าไปอาบน้ำ แช่ออนเซ็น เตรียมกินข้าวกันดีกว่า..

ออนเซ็นที่นี่สวยเหมือนในรูปค่ะ
http://www.komaki-onsen.co.jp/iyasu/index.html
อันนี้ไม่ต้องปรับโหมด

บ่อกลางแจ้งจะทำเป็นลักษณะinfinity edge เวลานอนแช่เหมือนประหนึ่งเหมือนแช่อยู่สระกว้างๆ
มีน้ำตกให้ดูและฟังเพลินๆ จัดแสงสีสวนยามค่ำคืนได้ค่อนข้างโอเค
ถือว่าผ่าน..

Photobucket

อาบน้ำกันสบายตัวเรียบร้อย ก็ได้เวลาอาหารเย็น เย้ๆๆๆ

ที่ Komaki Onsen เค้ามีอาหารเย็นให้เลือกหลายแบบค่ะ
มีทั้งแบบเบียร์การ์เดนต์ ( จริงๆแล้วไม่เชิงหรอก แต่เรียกแบบนี้น่าจะเห็นภาพดี )
แบบบุฟเฟ่ต์ แล้วก็แบบอาหารพร้อมการแสดงค่ะ..

คนที่อ่านตอน 0 แล้ว คงรู้แล้วว่าว่านเลือกแบบไหน อิอิ

เวที ว้าวๆๆๆ
ลักษณะห้องอาหารเป็นโถงใหญ่ๆค่ะ เหมือนหอประชุมโรงเรียนประมาณนั้น..

Photobucket

“บทนำ”มาแล้วค่ะ
มีน้ำจิ้มมาให้สามอย่าง เลือกจิ้มได้ตามความพอใจ..

Photobucket

เห็นอีกก็หิวอีก ( T_T )

Photobucket

ได้อีก..

Photobucket

ได้อี๊กกกก..

Photobucket

ระหว่างที่ทุกคนกำลังบรรเลงบทนำกันอย่างร่าเริงนั้นเอง
ก็มีเสียงหนักๆ วางลงมา..

5 ชั้น!!!

และ.. ขอโทษ.. คนละแถวนะเคอะ เหอะๆๆ

Photobucket

ระอุอุ่น..

ชาบูเนื้อ เอ้ย หมู.. หมูญี่ปุ่น
กับข้าวหุงผักทรงเครื่อง

* เนื่องจากปรกติแล้วลูกเป็ดน้อยไม่กินเนื้อวัว
ทริปนี้เลยมีโค้ดลับสำหรับเนื้อวัวว่า”หมูญี่ปุ่น” ไว้ให้ลูกเป็ดน้อยปลอบใจตัวเอง

ถ้าอ่านเจอคคห. นี้ก็.. อย่าลืมนะ ลูกเป็ดน้อย มันคือ.. “หมูญี่ปุ่น” ฮ่า

Photobucket

ปลา”บุรี+ศรีสมร” ดูตายนึ่งไปหน่อย ( อ้าว แล้วผิดตรงไหน ก็ของนึ่งอ่ะ )
แต่ผักสดดีค่ะ..

Photobucket

ซาละเปาทะเล..
ขอบอกว่าลูกใหญ่มาก ตอนเปิดออกมานี่มีอึ้ง..

เห็นแค่ในรูปอาจจะกะไซซ์ไม่ถูก
บอกสั้นๆละกันว่า มันขนาด”กำปั้น”

Photobucket

ขณะกำลังฝ่าฟันกันอย่างหนักหน่วง..
คุณพ่อครัวก็เข็นกระทะใบบัวไซซ์เด็กลงไปนอนเล่นได้ออกมา..

ในนั้นมีอะไรกันหนอ..
ส่งกลิ่นฟุ้งยั่วน้ำลายสอดีจริงๆ

Photobucket

มันคือ.. Sembei Jiru ของขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ
ซดตอนร้อนๆ อร่อยมากมาย ( ^^ )
( ระวังลวกปาก )

Photobucket

แน่นอนว่าจบไม่ได้ถ้าไม่มีของหวาน..

ค่ำคืนนี้เราสั่งลากระเพาะกันด้วย Fruit Au Gratin ค่ะ
โปะหน้าด้วย Nagaimo Ice Cream..

อาหย่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

Photobucket

อิ่มระ.. กลับห้องนอนดีก่า..

อ้าว เฮ้ย ยัง.. ยังไม่ทันดูการแสดงเลย ( -“- )

แค่กินอิ่ม การแสดงยังไม่ทันเริ่ม ลูกเป็ดแต่ละรายก็เริ่มหัวซุนๆ กันแล้ว..
ทีแรกคิดว่าเป็นเพราะเดินทางไกล + เหนื่อยสะสม
แต่คิดไปคิดมาแล้ว น่าจะเป็นเพราะ..

แช่ออนเซ็น

กล้ามเนื้อผ่อนคลาย.. สบายหลับ.. อิอิ 
.
ซักแปบการแสดงก็เริ่มค่ะ

เริ่มจาก Hirosaki Nebuta
Hachinohe Sansha Taisai
แล้วก็ Aomori Nebuta ค่ะ

เป็นการแสดงประกอบกลองที่แสนเร้าใจ..

Photobucket

มีดีด Samisen ด้วย.. ( แมวตัวไหนหนอ ซิกๆๆๆ )

* Samisen ทำจากหนังแมวอ่ะค่ะ
แต่สมัยนี้คงใช้หนังเทียมแล้วมั้ง ( ^^’ )

Photobucket

มีเพลงใำห้ร้องตามด้วย..
เนื้อเพลงอยู่ที่ซองตะเกียบนี่เอง
( มิน่า ทำไมถึงไม่เก็บซองตะเกียบไป ดูผิดผียังไงอยู่ )

Photobucket

ยิ่งไปกว่านั้น.. อินเทรนด์มั่กๆ เรายังมี.. “มือตบสีแดง” ให้กับท่าน
เพื่อเคาะตามจังหวะเพลงด้วย
.
ถึงตอนนี้ท่านประธานเป็ดและภริยา ขอลาล่วงหน้าไปยังห้องนอนก่อนแล้ว.. ZzzZz

Photobucket

การแสดงก็ยังดำเนินไปอย่างสนุกสนาน

แล้วก็ถึงบางอ้อ..
ถึงว่า.. ว่าทำไมต้องรอให้กินเสร็จก่อนถึงจะเริ่มการแสดง
( ปรกติคนไทยจะคุ้นกะ “ดูไป กินไป” ชิมิ )

นอกเหนือจากเรื่องแสง ( ดับไฟ ) แล้ว
ผู้แสดงทั้งหลายก็คือพนักงานเสิร์ฟนี่เอง

กระโดด-โลด-เต้นกันได้เร้าใจจริงๆ

Photobucket

แถมยังมีให้ผู้ชมทางบ้านร่วมโหวต

เอ้ย ขึ้นไปร่วมเต้นด้วย..

ใครอยากตีกลองก็มีให้ลองค่ะ..

Photobucket

เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าห้องพักเราอยู่ใกล้สระน้ำจริงๆ
เมื่อคืนมีเสียง”เรือกลไฟ”ด้วยค่ะ ดังทั้งคืนเลย.. เข้ากับบรรยากาศดีมาก
แต่เรือกลไฟนี้แล่นมาจากไหน มีกี่ลำ ไม่ขอบอกนะคะ

เช้ามาก็กินข้าวเช้ากันห้องนี้ค่ะ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์..

Photobucket

อาหารก็มีให้เลือกอย่างเพียบแปร้
ทั้งผลไม้ โยเกิร์ต หรือจะเต้าหู้ไส้ต่างๆนานาก็มี
จะผักหรือสาหร่ายก็มีให้เลือกค่ะ..

Photobucket

ขนมปัง เนย แยม สลัด ข้าวต้ม ซุป พาสต้า.. กราแตง

Photobucket

แน่นอนว่า ข้าว ปลาย่าง ผักดอง
อาหารเช้าประจำชาตินี่ไม่มีพลาด..

นัตโตะด้วย

Photobucket

น้ำแอปเปิ้ลก็อร่อยค่ะ
Aomori เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องแอปเปิ้ลมากๆ
Ponsu ที่ใช้เป็นน้ำจิ้มข้างบน ก็ทำจากแอปเปิ้ลค่ะ
เสียดายคราวนี้ไม่ได้เข้าตัวเมืองอาโอโมริ เลยไม่ได้ลองพายแอปเปิ้ลที่เขาว่าอร่อยหนักหนา

และที่ไม่น่าพลาดเป็นอย่างยิ่งอีกอย่างคือ..

นม

หนุ่มๆ ติดใจนมของที่ญี่ปุ่น
พอๆกับความสงสัยว่า ที่ญี่ปุ่นไอ้ที่แปะป้ายไว้ว่า Coffee เนี่ย
มัน Coffee จริงๆ หรือเป็นแค่น้ำล้างถ้วยกาแฟ

Photobucket

มื้อเช้าวันแรกของว่านค่ะ
สากกระเบือยันเรือรบมากๆ เหอะๆๆๆ

Photobucket

อิ่มแล้วก็แวะดูร้านค้าหน้าห้องอาหารหน่อยค่ะ
ปรกติเรียวกังที่ญี่ปุ่น จะมีร้านค้าหรือไม่ก็มุมขายของที่ระลึก ไว้ดูดดดด เงินจากผู้มาพัก
แน่นอนว่าขนมที่เสิร์ฟพร้อมชาที่ต้อนรับในวันแรก ก็จะต้องมีขายที่ร้านนี้เช่นกัน
เรียกว่าเป็นกุศโลบายในการหลอกล่อให้ซื้ออีกอย่างหนึ่ง
.
อันนี้เป็นร้านเกมส์แบบโบราณ พวกเกมส์โยนห่วง รัยเงี้ยะ..
ที่บริเวณด้านหน้าห้องอาหารค่ะ
แน่นอนว่าตอนเช้ายังไม่เปิด..

Photobucket

มีกาจาปองด้วย
เค้าเรียกไข่หมุนชิมิ..

Photobucket

มี “เรือนนวด” ด้วย
ให้บรรยากาศแบบโบราณๆดี..

Photobucket

บริเวณนั้นก็จะมีพวกเกมส์แบบโบราณจัดแสดงไว้ค่ะ
ทั้งไพ่คารูตะ ตุ๊กตากระดาษ คอปเตอร์ไม้ไผ่ ว่าว..

Photobucket

นี่อุปกรณ์เล่นสกีแบบโบราณ เริ่ดมะ หุหุ

Photobucket

หลังจากเดินดูได้แปบนึง ก็เข็นกระเป๋าลงมาที่ร้านค้าที่บอกค่ะ
เปล่า.. ไม่ได้จะเอามาใส่ของที่ซื้อหรอกนะ
แต่จะมาใช้บริการ takkyubin ถีบ เอ้ย ส่งกระเป๋าล่วงหน้าไปซัปโปโรค่ะ
แพลนวันนี้ของเรา จะนั่งรถไฟไปเที่ยวHakodate กัน
จากนั้นก็กลับมานอนบนรถไฟ เพื่อข้ามเกาะไปฮอกไกโดค่ะ

เคี้ยวอ้อยกันเพลินไปหน่อย
หนุ่มๆ ชักติดอ่าง ไม่เคยลงอ่าง.. ออนเซนก็เงี้ยะ ลงแล้วมันเคลิ้มมม อิอิ
ตอนเช้ามีการหนีไปแช่ออนเซนกันอีกรอบ แหมๆๆๆ
เกือบเลยเวลานัดกับคุณรถไฟแน่ะ 09.06 น. ค่ะ
เลยแจ้งทางฟร้อนต์ว่าขอรถไปส่งก่อนได้ไหม กลัวจะไม่ทัน
ทางฟร้อนต์ก็ไม่มีอิดออดเลยค่ะ เต็มใจให้บริการดีจริงๆ

ก็ไปถึงสถานีด้วยดี ด้วยรถคันที่มาเมื่อวานค่ะ
ออกไปหน้าโรงแรมเจอเจ้านี่อยู่ ลูกเป็ดกิ๊บกั๊บๆ ถ่าบรูปกันใหญ่
นึกว่าจะได้ไปสถานีรถไฟด้วยรถม้าแล้วสิ

Photobucket

ลืมสรุปโรงแรมซะงั้น..

Komaki Osen เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างโอเคค่ะ
วิวรอบทะเลสาบสวยแจ่ม น่าถ่ายรูปมากๆ

การบริการดี ไม่มีอิดออดค่ะ ขอรถได้รถ ขอบ้านได้บ้าน อ้าว.. ไม่ใช่..
ขอให้ไปส่งก็ประสานงานให้อย่างว่องไวและราบรื่นค่ะ

ห้องพัก.. เอร่อ.. เทียบกะส่วนกลางแล้วเก่าไปหน่อยนะ แต่ก็ไม่ถึงกับโทรมค่ะ

ออนเซน.. โอเคค่ะ ผ่านๆๆๆๆ

อาหาร.. ไม่ได้อลังการดาวล้านดวงมาก แต่ก็นับว่าใช้ได้
เพิ่มแต้มให้เนื่องจากน้องๆพนง.เสิร์ฟตั้งใจเต้นกันมาก อิอิ
แต่ขอหักแต้มหน่อย เพราะอาหารเย็นไม่รวมเครื่องดื่มค่ะ
แบบว่าตีหัวเข้าบ้านให้ต้องสั่งเพิ่ม ถูกสุดคือ 300 เยน
มาเพิ่มแต้มให้อีกทีตอนอาหารเช้า ตัวเลือกหลากหลายดีค่ะ
แต่ก็นานาจิตตังนะคะ เพราะคุณนายเป็ดบ่นๆ ว่าไม่รู้จะกินอะไร
อาจจะยังปรับโหมดสู่อาหารเช้าแบบ(โรงแรม)ญี่ปุ่นได้ไม่เต็มที่ เพราะพึ่งเป็นวันแรก

ราคา.. 48,250 / 5 = 9,650
จริงๆคนละ 9,500 เยน แต่มีภาษีออนเซนอีก 150 เยน ( เก็บเป็นปรกติทุกที่ที่มีออนเซน )

เท่ากับคนละ 3,860 ( คิดที่เรท 100 เยน = 40 บาท ) รวมอาหารเช้า+เย็น ( จริงๆต้องบอกว่าเย็น+เช้าสินะ หุหุ )
ก็นับว่าโอเคค่ะ

\( ^_’ ) ซีรี่ย์เที่ยวญี่ปุ่นกับว่านน้ำ ทริปมา-หา-ก๊าบ ( ‘_^ )/

\( ^_’ ) เที่ยวญี่ปุ่นกับว่านน้ำ ทริปมา-หา-ก๊าบ ตอน 0.. ทุกมวลมหากาพย์ล้วนมีจุดเริ่มต้น.. Return of ว่านน้ำ ( ‘_^ )/ >> Click