1 ในจุดหมายท่องเที่ยวไม่ไกลเมืองกรุงที่ไม่เคยสิ้นมนต์เสน่ห์คือหัวหิน..

ขณะที่กำลังคิดว่าปีนี้ยังไม่ได้ออกต่างจังหวัดเลย
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็มาชักชวนกันไปเที่ยวหัวหินอย่างค่อนข้างปัจจุบันทันด่วน ชนิดเหมารถตู้ไป เที่ยวไปกินไป ค้างคืนนึงชิลล์ๆ
ว่านเป็นคนรักหัวหินอยู่แล้ว ไม่ได้ไปเป็นปี คิดถึงเต็มที เลยไม่มีพลาดค่ะ เตรียมโพยของกินไปเต็มที่ แต่แน่นอนว่ามีร้านนึงเป็น1ในดวงใจอยู่แล้ว = )

ออกจากกรุงเทพกันสายๆ เหมารถตู้ไป จะได้รวมกลุ่มเม้ามอย ( และหลับ ) กันได้เต็มที่ 555
ทีแรกว่าจะกินข้าวแกงเจ๊ม่วย ท่ายาง.. ถึงใจด้วยสโลแกน “กินถึงผัว อิ่มถึงเมีย”
แต่เราออกจากกรุงเทพกันช้านานไปหน่อย แค่ข้าวราดแกงคงไม่สามารถดับความหิวโหยของคณะได้
เลยเลยไปร้านแซบอีหลี สาขาบ้านร่องระกำ
Tel -> 081-435-7821
Facebook Page -> https://www.facebook.com/ZabELee3
พิกัดอยู่ติดถนนเพชรเกษม ระหว่างท่ายาง -> ชะอำ ก่อนถึงตัวเมืองชะอำ 2 กิโลฯ
หาไม่ยากค่ะ ร้านใหญ่โตทีเดียว ระวังเลยอย่างพวกเราก็พอ ฮา.. ก็พี่คนขับรถเค้าขับซิ่งซ้า..

มาถึงก็พายุลงกันล่ะค่ะ สั่งไม่ยั้ง.. วัยกำลังหิวกันทั้งนั้น..
ส้มตำนี่จัดกันมาเลยทั้งตำไทยไข่เค็ม ตำปูปลาร้า ตำซั่ว.. รสชาติถึงใจดีจริงๆ ถูกใจชาวคณะเผ็ดสะเดิดอย่างพวกเรามาก ซดซี๊ดน้ำส้มตำกันแทบขอดจาน..
ตำไทยติดหวานนิดหน่อย แต่ไม่ว่ากัน เพราะจะได้ไว้คลายเผ็ดจากตำปูปลาร้า.. ซึ่งปลาร้าก็มาเป็นต่อนเลยทีเดียว

บรรดาของย่างก็จัดเต็มเช่นกันค่ะ น้ำจิ้มแจ่วมากันก่อนเลย..
ไก่ย่างที่นี่โอเค เนื้อนุ่ม ไม่แห้งกรัง แต่ไม่ถือว่าโดดเด่นกว่าเจ้าเด็ดที่อื่นเท่าไหร่นัก เรียกว่ากินได้เพลินๆ

เนื้อย่าง.. เป็นแบบหมักจนรสชาติเข้าเนื้อ เค็มนำหวาน ย่างไม่แห้งจนแข็งเหนียว ถือว่าใช้ได้
แต่ที่ถูกใจจนอยากจะร้องกรี๊ด คือลิ้นย่างและไส้ย่าง.. หมักมาหวานนำ ย่างมาร้อนๆ ลิ้นกรึบๆ หวานๆ เคี้ยวมัน..
ไส้ก็ย่างมากรอบ-เกรียมกำลังดี ติดหวานนิดๆ เหมือนกัน ไม่เหนียว ไม่เหม็นตุ .. กินกับน้ำจิ้มแจ่ว.. แจ่มจริงๆ มีเบิ้ลๆ

เท่านั้นยังไม่พอ..
สั่งปลาดุกย่างมา ดีใจเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า เพราะเจอะเอาแม่ปลาดุก ไข่จุกอกเต็มท้องล้นมาถึงคอ
เห็นแล้วน้ำตาจะไหล อยากกินส้มไข่ปลาดุก.. เอามายำ ซอยหอมแดงใส่เยอะๆ โอย..
( รายการนี้แล้วแต่ดวงว่าจะไปกินเจ๊อะเอาปลาดุกมีไข่หรือไม่.. นะท่านนะ (^^’ ) )

ซุบหน่อไม้.. รายการนี้เฉยๆ กินเพิ่มกากใยให้มื้ออาหาร ไม่ดีเลิศ แต่ก็ไม่แย่ ใครอยากกินก็สั่งได้..

ลาบหมู.. สามัญประจำบ้านอีกเหมือนกัน หมูนุ่มดี แต่ก็ไม่มีอะไรน่าฝันถึง..

ตับหวาน.. จานนี้นี่สิ กินแล้วเคลิ้ม.. ตับหวานสมชื่อจริงๆ.. รสจัดกำลังดี ไม่เผ็ดเกินไปจนไม่สามารถรับรู้ถึงความนุ่มนวลและฉ่ำหวานของตับ.. ให้ดาวทั้งฟ้าเลยค่ะ

แน่นอนว่าต้องมีอะไรน้ำๆ มาซดให้คล่องคอหน่อย.. ต้มแซ่บก็รสชาติจัดจ้านดี ซดไป ซี๊ดไป เหงื่อแตกกันไป.. อิอิ

เศษซากอารยธรรม.. รายการที่ว่าจะมาลองอีกก็มีลาบเป็ด ปากเป็ดทอด แล้วก้ปลายำตะไคร้ค่ะ แต่คงต้องไว้วันหลังนะ วันนั้นอิ่มม๊ากกก ไม่ไหวแล้ว..

แต่.. ถึงจะอิ่มขนาดไหน พวกเราก็มีก๊อกสองไว้สำหรับของหวานเสมอ..
เฉาก๊วยค่ะ.. เฉาก๊วยที่นี่เป็นเฉาก๊วยชากังราว นุ่มหนึบ.. เคี้ยวมัน พิฆาตความเผ็ดได้เป็นอย่างดี ช่วยไม่ให้แสบท้องด้วย หรือใครชอบรวมมิตรน้ำแข็งไส ก็มีนะคะ = )

– สรุปสำหรับร้านแซบอีหลี สาขาบ้านร่องระกำ –
ส้มตำอร่อยครบรส ลิ้นย่าง ไส้ย่าง อร่อยมาก ตับหวานอร่อยมากเช่นกัน
นอกนั้นสั่งได้ทุกอย่างค่ะ ไม่เสียดายปาก..

ท้องอิ่มแล้ว เดินทางกันต่อได้ ε=ε=ε=ε=ヽ(*^∇^)ノ

ที่พักของเราคืนนั้น  คือบ้านนับคลื่นค่ะ
บ้านนับคลื่น ไม่ใช่โรงแรมหรือรีสอร์ตของหัวหินแต่อย่างใด แต่เป็นคอนโดริมทะเลในเครือแสนสิริ
เป็นคอนโดบรรยากาศบ้านพักตากอากาศ การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากหมู่บ้านริมหาด เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งจัดจ้าน

จะเห็นได้ว่าในการตกแต่งจะเลือกใช้งานไม้จริงที่แสดงความงามของสีและเนื้อไม้ ผนังก็จะฉาบแสดงtexture ของแสงและเงายามตกกระทบ
มีการใช้หินมาประกอบ แต่เพียงเพื่อให้ดึงความเป็นธรรมชาติเข้ามา ไม่ถึงกับดิบจนกระด้าง ไม่น่าอาศัย
ฝีมือออกแบบภายในสวยๆ อย่างนี้ เป็นฝีมือของคุณอนุภาคย์ ผู้เคยฝากผลงานไว้ให้ประจักษ์จากคีรีมายา รีสอร์ท

และเนื่องจากเป็นคอนโด การตกแต่งห้องพักแต่ละห้องก็จะแตกต่างกันไปตามเจ้าของห้อง แต่โดยรวมก็จะมีธีมใกล้เคียงกัน เน้นงานไม้ โทนสีอ่อน ขาวๆ..
ให้สมกับเป็นบ้านที่ไว้นอนเล่นนับคลื่นเพลินๆ = )

หลายห้องก็จะตกแต่งพร้อมอยู่เลย ซึ่งก็ดีไปอีกแบบ เพราะคอนโดตากอากาศต่างจังหวัดนี่หาคนตกแต่งฝีมือดียากเหมือนกันค่ะ ไหนจะคุมงานอีก เน้นงานไม้ขาว โชว์ลายเช่นกัน..

ในส่วนของห้องน้ำ จะเป็นพื้น+ผนังพื้น Terrazzo ดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับบ้านพักตากอากาศที่.. ไม่ค่อยได้ไปเยือน = )
ไม่ต้องลุ้นว่าวันดีคืนดี ไปถึงแล้วจะต้องไปนั่งขัดรา แทนที่จะนั่งเล่นนอนเล่นเย็นๆ ใจในบ้านไหม
มี Rain Shower ให้ด้วยค่ะ  รับความชุ่มฉ่ำกันได้เต็มที่

ครัวก็มีอุปกรณ์ให้พร้อมสรรพ เคาน์เตอร์เป็นกระเบื้องดินเผา มีชั้นวางของสะดวกดี..


สำหรับบ้านนับคลื่นนี้ แต่ละชื่ออาคารก็จะมีคำว่า”คลื่น”ด้วยนะคะ
นับตั้งแต่ ริมคลื่น / แนวคลื่น / ฟองคลื่น / เกลียวคลื่น / รอยคลื่น / ลูกคลื่น / เสียงคลื่น / ยอดคลื่น

สระริมทะเล ก็จะเป็น concept zero entry คือสามารถเดินลงสระได้เลย จะเป็นทางลาดค่อยๆ ลึกลงไปเหมือนเราเดินลงทะเลค่ะ
ส่วนที่ว่านชอบที่สุดของบ้านนับคลื่ย จะเป็นสะพานไม้ริมหาดค่ะ นั่งห้อยขามองทะเล เพลินดีจัง..

ชมภาพบรรยากาศโครงการบ้านนับคลื่นเพิ่มเติมได้ตามนี้เลยค่ะ

เจ้าของคอนโดที่ซื้อไว้นอนสบายๆ นี้.. ในวันหยุดที่ไม่ได้มาพักผ่อนกับครอบครัว บ้างก็ปล่อยเช่าคอนโดให้กับบุคคลทั่วไป
สำหรับผู้ที่สนใจเช่า สามารถเสิร์ชหาได้ในเน็ตโดยใช้ชื่อโครงการนะคะ

ไม่เพียงแต่บ้านนับคลื่นเท่านั้น แสนสิริยังเป็นเจ้าแรกๆ ที่บุกเบิกโครงการคอนโดที่หัวหิน
นับตั้งแต่บ้านแสนสราญ บ้านแสนเพลิน บ้านแสนสุข บ้านแสนปลื้ม บ้านแสนดาว และอีกหลายๆ แสน
มี Las Tortugas เขาเต่าที่ตกแต่งสไตล์Mexican Caribbean  แว่วๆ มาว่าพี่เบิร์ดเป็นเจ้าของอยู่ห้องนึงด้วยแหละ (^^ )
แต่น้อยคนที่จะทราบว่าคอนโดหลังแรกของแสนสิริ ณ หัวหินคือที่ไหน.. ทราบกันไหมคะ

เคยเห็นอาคารสีเหลืองมัสตาร์ด ที่อยู่หน้าโรงแรม Casa del Mare ไหมคะ
นั่นแหละค่ะ โครงการคอนโดแรกของแสนสิริที่หัวหิน มีชื่อว่าบ้านไข่มุกค่ะ
บ้านไข่มุก เป็นคอนโดแรกของแสนสิริที่หัวหินก็จริง แต่สีของอาคารยังมีความสดใสอยู่เสมอ
เพราะบ้านไข่มุกไม่ได้ใช้สีทาอาคารค่ะ แต่เป็นการฝังโมเสกสีเหลืองรอบตัวอาคาร สีจึงยังคงความสดใหม่เสมอ แม้เจอเปลวแดดจ้าและไอเกลือทะเล..
เป็นความคิดทางการออกแบบที่ก้าวไปข้างหน้า ที่แสนสิริริเริ่ม ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว น่าสนใจนะคะ
การออกแบบภายใน ก็เน้นความกว้างขวาง โล่ง โปร่งสบาย..
ทุกห้องรับวิวทะเลเต็มๆ เพราะหันหน้าเข้าทะเลหมด
ชมภาพได้ที่ http://www.flickr.com/photos/isriya/5068543812/in/photostream/
ถ้าใครเกิดสนใจบ้านไข่มุก อยากเป็นเจ้าของ ขอแอบกระซิบว่ายากมากค่ะ
เพราะจำนวนห้องที่น้อย และเจ้าของแต่ละท่านก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยห้องจริงจังด้วยสิคะ = )

กลับมาเที่ยวกันต่อดีกว่าเนอะ..
พอเหวี่ยง เอ้ย เก็บข้าวของกันเรียบร้อย เราก็คลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางกันด้วย..

ทีแรกว่าจะไปว่ายน้ำกัน แต่สายฝนก็โปรยปรายลงมา เลยหมกตัวกันอยู่ในห้อง ดูทีวีนอนฝอยเม้ามอยไปเรื่อย (^m^ )
จนได้เวลากันสมควร ( = หิว ) เลยฝ่าสายฝนออกไปกินข้าวเย็นกัน ซึ่งก็แน่นอนว่ามาถึงหัวหินทั้งที
ว่านก็ไม่พลาดที่จะไปร้านอาหารทะเลร้านโปรด.. ยกซด ค่ะ
เคยรีวิวร้านที่กรุงเทพไว้ที่ ร่วมด้วยช่วยกัน”ยกซด”.. ร้านอาหารทะเลสด-สด บ้าน-บ้าน
ทีนี้ก็มารีวิวบ้านดั้งเดิมของยกซดบ้าง สามารถโทรจองโต๊ะ/จองปู/สอบถามเส้นทางได้ที่อ.ธชารัฐ 085-065-7123 หรือ 083-155-6030 ค่ะ

พิกัดก็ไม่ยาก( เท่าไหร่.. ถ้าเทียบกับที่กรุงเทพ 555 ) ถ้ามาจากหัวหินให้มุ่งหน้าไปทางปราณบุรี เจอแยก Lotus ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป ดูป้ายที่บอกว่าไปอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด หรือไปถ้ำพระยานคร ซึ่งร้านจะอยู่ด้านในอุทยานฯนะคะ เวลาเข้าจะเจอด่านทางเข้าอุทยานฯ ให้แจ้งว่ามากินร้านยกซด จะไม่ต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมค่ะ ร้านจะอยู่ทางขวามือ เยื้องๆถ้ำแก้ว ตอนกลางคืนสังเกตดีๆนะคะ ขับเลยมาแล้ว 555

ไปถึงก็หิวโฮกกัน( อีกแล้ว ) จัดมาก่อนเลยค่ะ กุ้งอบเนย..

ปูจัดมาทั้งปูเนื้อและปูไข่ เอาใจคนรักปูสุดๆ.. ความสดและหวานไม่ต้องพูดถึง.. ถ้าไม่สดจริงไม่ถ่อมา =P

ยำผักชาววัง หรือยำใบชะครามค่ะ ขาดไม่ได้ (>_< ) เล่นเอาหลายคนเลิฟใบชะครามด้วยความกรุบกรอบมันไปเลย..

อีกรายการที่ภูมิใจนำเสนอชาวคณะเช่นกัน.. หอยนางรมทรงเครื่อง..

และ Signature Dish ของร้านยกซดที่พลาดไม่ได้.. ปลากะพงสามรส.. ราดด้วยสับปะรดเมืองปราณ รสชาติโดดเด่นไม่เหมือนใคร..

หมึกผัดกะปินี่ก็ไม่ควรพลาดค่ะ.. หมึกสดเด้ง ไม่เหม็นกะปิสักนิด..

ปลาทูสะดุ้งน้ำ อันนี้ส่วนตัวค่อนข้างเฉยๆ แต่สั่งมาให้ทุกคนได้ลองกัน..

ของบ้านๆอย่างไข่เจียวหมูสับก็ถูกใจหลายคนค่ะ มีเบิ้ลเหมือนกัน

มีแกงส้มชะอมไข่ด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเจาะมา มีแต่ชาม 555

มีสับปะรดเมืองปราณมาให้ล้างปากท้ายมื้อตามระเบียบ สด-ฉ่ำ-หวานเช่นเคย ไม่กัดลิ้น.. ชาวคณะอยากซื้อกลับกัน ปรากฏว่าหมด (Y_Y )
รวมมูลค่าความเสียหายของทั้ง 12 ชีวิต

– สรุปสำหรับร้านยกซด สามร้อยยอด –
ยังครองแชมป์ร้านอาหารทะเลในดวงใจแถบหัวหินเหมือนเดิมค่ะ
เมนูแนะนำก็ตามข้างต้นเลย.. ทั้งปูทะเล กุ้งอบเนย ยำผักชาววัง หอยนางรมทรงเครื่อง ปลากะพงสามรส หมึกผัดกะปิ
ที่เคยกินอีกก็ปูผัดพริกไทยดำ ปูผัดผงกะหรี่ ดูได้จากรีวิวร้านที่กรุงเทพเลยค่ะ
รสชาติอร่อยแทบทุกจาน วัตถุดิบสด ราคาถูก( ไปด้วยซ้ำ )
เล็งเห็นความตั้งใจที่จะช่วยชาวบ้านของอาจารย์ธชารัฐมาตลอด  ขอให้อาจารย์ประสบความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ
มีโอกาสจะไปอุดหนุนเรื่อยๆ ค่ะ

พอกลับมาถึงที่พัก หลังจากหลับๆ ตื่นๆ ในรถแล้ว เราก็ต่อกันด้วย.. ( ไม่รวม Umeshu อีก 3 ขวดและเบียร์อีกจำนวนหนึ่งนะ เสกหาย-เสกหาย 555 )

เช้ามาฟ้าใส.. เลยไปถ่ายรูปกันต่อ =)

หลังจากถ่ายรูปกันหนำใจแล้ว ทีแรกว่าจะพาชาวคณะไปซื้อไส้กรอกฝากทางบ้านกันที่ Swiss Europe Butcher ซอยหัวหิน102
แต่เนื่องจากกว่าจะเก็บข้าวเก็บของกันออกมา มีอีกส่วนนึงที่แยกพักอีกที่อีก ไม่อยากย้อนไปย้อนมา เลยมุ่งหน้าไปกินข้าวเที่ยงกันเลยค่ะ
มื้อเที่ยงอำลาหัวหินของเรา ณ ร้านมะขาม  Tel. -> 032-513-597
พิกัดไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก.. ให้ U-Turn หน้าเขาตะเกียบ แล้วสังเกตซ้ายมีจะมีป้ายบอกทางเข้าร้าน
จังหวะจะค่อนข้างกระชั้นนิดนึง สังเกตดีๆนะคะ หรือโทรสอบถามทางร้านตามเบอร์โทรข้างต้นก็ได้ค่ะ
บรรยากาศร้านจะค่อนข้างร่มครึ้ม เต็มไปด้วยต้นไม้.. มีเครื่องสีฝัดตั้งอยู่ด้วยแน่ะ..

เริ่มกันที่แกงเขียวหวานนางลอยค่ะ เป็นแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายไส้ไข่เค็ม..
แกงรสชาติใช้ได้ค่ะ แต่ยังค่อนข้างใสไปนิดนึงนะ ว่านว่า..

สลัดเป็ด.. จานนี้ก็ใช้ได้ค่ะ เป็นเป็ดคลุกเกล็ดขนมปังทอด ราดน้ำสลัดอมเปรี้ยวอมหวาน กินแล้วนึกถึงอาหารกุ๊กช๊อพ = )

กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา.. กะหล่ำสดกรอบ หวาน.. เค็มแผ่วๆ จากน้ำปลากำลังดี ไม่แรงเกิน..

น้ำพริกกะปิ + ปลาทู รสไม่จัดจ้านมาก เหมาะกินกันทั้งครอบครัว

อันนี้สารภาพว่าลืม.. 555 น่าจะปลาดุกผัดฉ่าค่ะ

พะแนงไก่.. รสกลางๆ อีกเหมือนกัน

ต้มโคล้ง ( รึเปล่านะ ) รสจัดแต่ไม่มากค่ะ กลางๆ กินได้ทั้งบ้านอีกแหละ..

ทอดมัน อันนี้อร่อยดีค่ะ เนื้อแน่นเหนียวเคี้ยวเต็มปากคำ.. ผ่านฉลุย XD

– สรุปสำหรับร้านมะขาม หัวหิน –
อาหารรสชาติดีหลายอย่างค่ะ เหมาะไปกินกันทั้งครอบครัว เพราะรสชาติไม่จัดจ้านมาก.. เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดีค่ะ = )

จากนั้นเราก็อำลาหัวหิน มา Santorini Park ชะอำกันค่ะ
แต่.. อนิจจา กว่าจะมาถึง ฝนก็ปรอยลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง..
เลยได้แต่นั่งหลบฝน ทำตัวประหนึ่งเล่นมิวสิกกันในร้านกาแฟ Coffee Love 555

 

หลังจากนั่งกันพักใหญ่ ฝนก็ยังปรอยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย พวกเราเลยตัดสินใจว่ากลับกรุงเทพกันเห๊อะ
ก็เป็นอันว่าจบทริปหัวหินมีหอยของชาวคณะแต่เพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณที่ติดตาม..
คราวหน้าจะพาเที่ยวไปกินไปกันอีกค่ะ ที่ไหนขออุบไว้ก่อน ไว้เจอกันนะคะ.. บ๊าย บาย (≧∇≦)ノ彡

 

2 thoughts on “เที่ยวไปกินไปในวันฟ้าใสบ้าง ฝนพรำบ้าง ณ หัวหิน กินแซ่บอีหลี + ยกซด + มะขาม”

Comments are closed.