Hagakure
เอกมัยซอย6 (ซอยทางเข้าที่จอดรถบิ๊กซีเอกมัย) เข้าซอย 200 เมตร ขวามือ จากBTSเอกมัยไกลมาก ควรนั่งรถ/เรียกพี่วิน
Tel -> 02 714 4131
Facebook Page -> https://www.facebook.com/hagakure.bangkok
Hagakure เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตกแต่งสไตล์ Japanese Modern หากแต่อาหารนั้น กลับคงความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมเสียมาก มีเพียงบางจานที่มีกลิ่นอายความเป็นร่วมสมัยแฝงอยู่ ด้วยความตั้งใจที่จะคงความเป็นต้นตำรับเฉกเช่นจิตวิญญาณแห่งคัมภีร์Hagakure
อาหารเรียกน้ำย่อยเป็นไปอย่างเรียบง่ายเช่นผักปวยเล้งคลุกงานี้..
แซลม่อนยุกเกะ หรือปลาแซลม่อนปรุงรสด้วยพริกเกาหลี
ปลาแซลม่อนสับปรุงรสมากำลังดี คลุกเคล้ากับไข่นกกระทาดิบแล้วก็ไม่จืดจางเกินไป ให้ผ่านค่ะ
สลัดอโวคาโด้.. ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว แนะนำสลัดซีฟู้ดดีกว่าค่ะ
จานนี้ งง งง.. เป็นมันฝรั่งกับฟัวกราเชอร์เบ็ต..
มันฝรั่งมี ฟัวกรามี แต่ความเป็นเชอร์เบ็ตยังเป็นที่สงสัยอยู่..
Wagyu Tataki .. เนื้อวะกิวมันแทรกสวย ย่างผิวมากำลังดี รสชาติเนื้อเต็มปากคำ จานนี้ผ่านไปอย่างสบาย ๆ ค่ะ
เทมปุระแป้งกรอบพอประมาณ ติดจะอมน้ำมันอยู่สักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับมากจนรับไม่ได้
เนื่องจากวันที่เราไปรับประทานเป็นวันเปิดร้านวันแรก การจัดการและการลำเลียงอาหารจากครัวสู่โต๊ะค่อนข้างล่าช้าอยู่สักหน่อย อาจเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อรสอาหารบางจานได้บ้าง
ซูชิปลาไหลน้ำจืดเนื้อเด้ง หนังกรุบ.. ใครชอบแบบเคี้ยวมัน ซอสไม่ฉ่ำมากคงถูกใจที่นี่
ฟัวกราม้วนวะกิว..
เป็นจานที่สมดุลดี นับตั้งแต่ความหนาของวะกิว รสชาติซอส ปริมาณข้าว ฟัวกราและอโวคาโด้
การทำอาหารที่ดี ไม่ใช่สักแต่จะประโคมของแพง ๆ ลงไป สมดุลแห่งรสชาตินั้น สำคัญกว่า
ซึ่งเชฟYamamoto ก็ถือว่าสอบผ่านในจานนี้ รสชาติของส่วนประกอบแต่ละอย่าง ไม่”ข่ม”กันเอง
อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ ฟัวกราม้วนแซลม่อน
ความหนาของเนื้อแซลม่อน และการย่างแต่พอสุกผิว ช่วยให้รสชาติของแซลม่อนนั้นเด่นชัด
มีความมันที่แตกต่างกันสองแบบจากฟัวกราและอโวคาโด้มาช่วยเสริม.. ทำให้จานนี้มีความอร่อยไม่แพ้ฟัวกราม้วนวะกิว
ในส่วนของซาชิมิ ทั้งฝีมือการใช้มีด และความสดของปลา ก็เรียกว่าสั่งได้อย่างไม่ต้องลังเล..
สำหรับคนชอบซูชิก็สั่งได้อย่างไม่ต้องลังเลอีกเช่นกัน
อีกจานหนึ่งที่หาทานในไทยได้ค่อนข้างยาก ทั้งเพราะความหายากของปลา และฝีมือของเชฟที่สามารถ”จัดการ”ได้นั้น มีค่อนข้างน้อย คือซาชิมิปลาHamo หรือ Conger Pike โดยนำปลามาบั้งถี่ ๆ ด้วยวิธีที่เรียกว่า Honegiri หรือ”ตัดกระดูก”โดยไม่ให้ขาดถึงชั้นหนัง จากนั้นนำไปลวกเร็ว ๆ ในน้ำร้อนให้ชิ้นเนื้อปลาที่บั้งแล้วนั้น ม้วนตัวอย่างสวยงาม รับประทานกับเนื้อบ๊วยดอง รสสัมผัสของHamoนั้น ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน มีความหนุบมันของหนัง และกรุบเด้งของเนื้อขาว ๆ เป็นอาหารที่รับประทานแล้วชวนให้นึกถึงฤดูร้อนของเกียวโตเสียจริง..
สำหรับคนรักวะกิว.. Wagyu Steak ก็เป็นอีกจานที่ไม่ควรพลาด
คงไม่ต้องบรรยายมากจากลายริ้วและความฉ่ำของชิ้นเนื้อที่เห็นอยู่ เรียกได้ว่า Grilled to perfection..
นอกเหนือจากซูชิ ซาชิมิ และวะกิวที่เป็นจานเด่นของร้านนี้แล้ว
อาหารธรรมดา ๆ อีกอย่างที่Hagakure ทำได้เป็นอย่างดีคือ.. ปลาย่าง เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ หมดเสียก่อน..
Oyakodon จานนี้ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ ไม่ได้อร่อยล้ำเลิศที่สุดในปฐพี แต่ถ้าอยากกินก็สั่งได้
มาถึงของหวานกันบ้าง.. พุดดิ้งที่นี่เป็นแบบนุ่มเนียนแทบจะเทดื่มได้ ตัวคาราเมลออกหวาน
สำหรับว่านคิดว่าเนื้อพุดดิ้งออกจะเหลวไปสักหน่อย แต่สำหรับคนที่ชอบแบบนุ่มมากกกก น่าจะถูกใจกัน..
ไอศกรีมชาเขียวไม่หวานไป ไม่ติดขมของชามาก ก็น่าจะถูกใจหลายคนเช่นกัน..
วาราบิโมจิ หนุบนิ่ม ตัวน้ำจิ้มรสอ่อนไปเล็กน้อย แต่ใครอยากกินก็ถือว่าสั่งได้ไม่เสียดายปากเช่นกัน..
– สรุปสำหรับ Hagakure –
จานเด่นคือซูชิ ซาชิมิ โรลต่าง ๆ และเนื้อวะกิว
ส่วนปลาย่างแม้ธรรมดาแต่ก็น่าลอง ของหวานสั่งล้างปากได้ ไม่ต้องคิดมาก
แม้โดยรวมราคาจะค่อนข้างสูงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพแล้วก็ควรมาลองกันดู
เห็นว่ามีเมนูใหม่แล้วนะคะ =)