วิธีตรวจรับห้องคอนโดอย่างง่ายๆ ได้ด้วยตัวคุณเอง ตอนต่อ.. + พาชมต่อๆ

มา ” เจาะห้อง ” กันต่อค่ะ..

ง่วงอ่ะ แต่ยังไม่อยากนอน..

อัพบล๊อกตอนสองค่ะ เชิญชม..
*++**+* ปฏิบัติการตามล่าหาบ้านใหม่สุดขอบฟ้า – ทำไมต้อง”คอนโด”.. *+**++*
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=wannnam&month=11-2005&date=27&group=5&blog=1

อัพเดทครัวนิดหน่อย มีรัยเพิ่มมาเอ่ย.. ติกต่อกๆๆๆ

ติ๊ง..
มันคือ.. มิโกรแว๊ป..
( จริงๆมันมาตั้งนานแล้วแหละ แต่อยู่ในกล่อง )
คู่มือกะประกันหายไป กะลังตบตีอยู่..

เปิดดูซิ มีรัยแปลกปลอมป่าว หุหุ
ใครอยากรู้ว่ามีรัย โปรดติดตามในบลอก..
( แต่กว่าจะถึงตอนนั้น คงปีใหม่ไปแล้ว แหะ.. )

ระเบียงอีกที
Especially for K. paninee..

ชัดๆ..

ย้อนความเดิมพอแระ.. ไปต่อดีก่า
เข้าห้องแล้วมองซ้ายเป็นกินข้าว + รับแขก ครัว.. อะไรไปเรื่อย
มองเยื้องขวา ( นิดเดียว ) เป็น..

ไอ้ถังเนี่ย.. มีเรื่องฮาๆ หน่อยนึง..
^
^
คือตอนว่านเข้ามาในห้อง ก้อหิ้วถังนี่มา ข้างในบรรจุของตรวจงาน เช่น ชอล์ก ถุงมือ ถุงเท้า ผ้าเผ้อ..
พอเซลล์อีกคน ตามเข้ามา ( ว่าคุณว่านจะเฉ่งรัยอีก อิอิ )
คุณเซลล์ก็เฉ่งตัดหน้าก่อนว่านเฉ่ง.. “ตายแล้ว คนงานที่ไหนเอาถังอะไรมาวางไว้เนี่ย บลาๆๆ”
ว่านต้องยกมืออ่อยๆ บอกว่าของว่านเองค่ะ แหะๆ ไม่ใช่ของคนงาน
-_-‘

ต่อๆ พอขวาไปอีกหน่อย ก็เป็นทางเดินกลาง..
ซ้ายเป็นห้องแม่ – ห้องน้ำ
ขวาเป็นห้องเก็บของ ( ภาคบังคับเลย ถึงได้ซื้อที่นี่อ่ะ )
สุดนู่นเป็นห้องว่านเอง..
ทางเดินแคบนิดนุง.. ติดครีบ แหะๆ

^
^
ตรูถ่ายรูปเบี้ยวหรือเสามันเบี้ยวเนี้ยะ
( คงถ่ายเบี้ยวมั้ง เสาเบี้ยวขนาดนี้คงโวยไปแล้ว.. )
.
ห้องแม่ค่ะ เทควิวดงกล้วย..
วันก่อน เข้าไปตอนโพล้เพล้ เวลาไม่เปิดไฟ ใบกล้วยระบัด.. หยองดีไม่หยอก หิหิ

แอร์ห้องแม่.. เย็นดี
( ไม่”เย็น”ต้องมีคน”ร้อนรุ่ม”แน่ๆ )

ง่วงๆ
เดินงัวเงียมาห้องนวม เอ้ย ห้องน้ำเล็ก..
มีเป็นชาวเว่อให้..
อันนี้ก้อภาคบังคับของแม่..

^
^
ขอบโมเสก เก็บงานไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่
( ตอนนี้กำลังงอนนิติฯ ปากจะร้าย ความจู้จี้จะพุ่งปรี๊ดหน่อย อิอิ )
เวลาอารมณ์ดี อะไรก้อหยวนๆ เหอๆๆ
ไม่เอาๆ ไม่พูดๆ คนเราต้องดูกันไปนาน นานนนนนน
.
ชาวเว่อบ๊อก.. ภาคบังคับของท่านแม่อย่างที่บอก
ที่ไม่เอาแอลพีเอน 41 ( เหตุผลนุง ) เพราะมีแต่อ่างอาบน้ำด้วยแหละ
เหตุผลอื่น ติดตามได้ในบลอก ( เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย.. )

ใต้ซิ้ง+ท็อป ( ถ้าเห็น ) จะเป็นไม้
ต้องมีผ้าหมั่นเช็ดเสมอ.. ม่ายงั้น หิหิ
อืดดดดดดดดดด

กระเบื้องพื้นชาวเว่อบ๊อก.. ด่าง!!!
( ในรูปจะเห็นยากหน่อย แต่ถ้าเห็นของจริง จะค่อนข้างชัดว่าสีมันด่างโดยไม่ต้องเพ่ง )
สโลปไม่ค่อยได้ระดับด้วย ( น้ำดันไปขังด้านที่ไม่มีเดรน )
เลยสั่งแก้ 2 อิน 1 เรียบร้อยทีเดียวสองงาน..
เป็นรายการแรกๆที่สั่งแก้ไป ไป.. และ ไป..
และในที่สุดก้อแก้ให้เสร็จก่อนโอนนานอยู่ ขอบคุณค่า..
.
ซ้าย – ยัง / ขวา – แล้ว

ก้ม( โอ้ย ติดพุง )ไปดูใต้ซิ้ง.. อ้าว ไหงเบรกเกอร์ว่างโบ๋งี้อ่ะ..
สั่งแก้ไปแระ..
.
เดินไปดูที่ห้องน้ำมีการเดินสายไฟเอาไว้ให้สำหรับ เครื่องทำน้ำอุ่นหรือยัง หรือหากห้องไหนมีอ่างอาบน้ำแล้วคุณจำเป็นต้องใช้เครื่องทำน้ำร้อน
ก็ต้องให้เค้าเดินสายไฟให้ก่อนที่จะทำการตรวจรับมอบบ้าน หรือ เป็นไปได้ให้เขียนอยู่ในสัญญาก็ได้ ว่าให้เดินสายไฟให้ฟรี
(สิ่งของพวกนี้เราไม่จำเป็นต้องเสียเงิน) แล้วการเดินสายไฟพวกนี้ก็เหมือนกันให้เดิน 3 เส้น (มีสายดิน)

แล้วที่สำคัญ ต้องมี breaker ให้ด้วย อยู่หน้าห้องน้ำก็ได้ หากโครงการบอกว่า ตู้ไฟเดียวนี้เค้าแยกจุดให้แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจ
ให้เค้าทำให้เราให้ได้ เพราะหากไฟดูดตายขึ้นมาคนพูดเค้าไม่ได้มาตายกับเราด้วย

ก้มมาก หน้ามืดอีกแล้ว..
เงยหน้าไป อ่ะจ๊าก.. ช่องเซอหวิด..
ถ่ายไว้ๆ อีกนานกว่าจะได้เห็น ( หวังไว้ว่างั้น.. )
.
ให้ปีนขึ้นไปดูใต้หลังคา ก่อนจะปีนให้เอาปิด main breaker แล้วเอาไฟฉายขึ้นไปด้วยมีการร้อยสายไฟเอาไว้ในท่อให้เราหรือเปล่า
หากไม่มีให้ทำด้วย ไม่ใช่ร้อยสายไฟในท่อเฉพาะในกำแพงอย่างเดียว ใต้ฝ้าก็ต้องร้อยท่อให้เราด้วย เพราะหากหลังคารั่วน้ำมาโดนสายไฟ
จะเป็นอันตรายกับบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าของท่านได้ สายไฟ MAIN อย่างน้อยต้องเป็น 16 square/mm หากสูงกว่านี้ได้ยิ่งดี
และสายไฟ main ต้องมีไม่รอยทำการตัดต่อเป็นอันขาด หากมีการตัดต่อให้ทางโครงการเปลี่ยนให้ได้ เพราะอันตรายมาก
มีโอกาสทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรแล้วเกิดเพลิงไหม้ได้สูง

ลืมเอาไฟฉายส่องอ่ะ แต่น่าจะร้อยท่อนะ..

เบื่อห้องน้ำแระ.. มาห้องเก็บของดีกว่า..

อย่างที่ได้บอกไปแล้ว ว่าห้องเก็บของนี่เป็นอีก 1 เหตุผลหลัก ที่เลือกที่นี่
( จริงๆมันเป็นส่วน Study Area อ่ะนะคะ แต่เรากั้นเป็นห้องเก็บของ )

แต่นี่ก้อ( นับเป็น ) อีก 1 มิติพิศวงเช่นกัน..
ตอนทำสัญญา ระบุชัดเจนว่าเป็นประตูขนาด 80ซม.
พอเอาเข้าจริง กลายเป็น 70 ซม.???
( ขี้เกียจพูดแระ แค่ประตู หยวนๆก้อได้ฟละ เพราะถ้าแก้นี่มีทุบผนังแน่ๆ )

เมนเบรกเบอร์มาอยู่ในห้องนี้พอดีเป๊ะ.. ( หุหุ )
ขอไปแล้ว ว่าให้ช่วยทำป้ายบอกให้หน่อย ว่าเบรกเกอร์ตัวไหนของตำแหน่งไหน
ขี้เกียจมาลองทีละจุด..

ถ้ามีระบบตัดไฟ และระบบเช็คความต่างศักดิ์ ก็ขอใบรับประกันด้วย …
ที่เครื่องจะมีปุ่ม test ให้กดดูด้วย สอง หรือสามครั้ง ดูว่า ปุ่มหมุนอยู่ที่ 0 หรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ศูนย์ หมุนไปที่ศูนย์ …
ถ้าไฟดับ แสดงว่า มีไฟรั่วเล็กๆ แล้ว ถึงตอนนั้น ก็ต้องพยายามเปิดใช้ไฟฟ้าให้หมด ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

ลอง ( มั่วๆ ) ดู ก็รู้สึกจะใช้การได้แฮะ? แหะๆ

มางานพื้นกันมั่ง.. ห้องนี้พื้นเป็นกระเบื้องล้วนๆ
ได้เวลางัดเคล็ดวิชาเช็คงานพื้นมาใช้กันล่ะ.. เหอๆๆ
“ให้ใช้เหรียญบาทเคาะดูพื้นว่ามีเสียงพื้นโปร่งหรือเปล่า”

“หากมีให้นำกระดาษกาวแปะทำเครื่องหมายเอาไว้”
ล.ป. ถ้ามีกล้อง ถ่ายไว้ด้วยก้อดีนะคะ เดี๋ยวลืมหมดว่าแปะตำแหน่งไหนไปบ้าง แหะๆ

“เคาะกระเบื้อง ถ้ามีเสียงก้องๆ เหมือนข้างในเป็นโพรง ก็ต้องรื้อน่ะค่ะ ถ้าแป้กๆ ตันๆทั้งแผ่นก็เก็บไว้ แสดงว่าใช้ได้ โดยเฉพาะตรงขอบๆกระเบื้องนี่ไม่ได้เลย เสียงก้องนิดเดียวก็ไม่ได้”
ป๊อกๆ แป้กๆ ปั่กๆๆๆๆๆ ( เสียง )
.
ชมภาพและเสียงประกอบได้ที่..
http://moji.gamer-gate.net/special/MVI_1224.AVI
http://moji.gamer-gate.net/special/MVI_1224.zip

เพลินจิตแฟร์ ว่าจะไป ลืมไปเลย แง้ววว ปีนี้จัดที่สวนลุมไน้ ชะมะคะ ( ชนกะงานคุณสนธิ? อิอิ )

เริ่มง่วงจริงจังแระ..
ฉายหนังแล้วก้อต้องพักโฆษณา ( แบบยาวๆ ) ด้วยภาพวิวห้องน้ำใหญ่ค่ะ

คร่อก..

ห้องว่านค่ะ

วิวไม่ค่อยเด็ดเท่าไหร่ เยื้องๆขวาจะติดหลังคาบ้านข้างๆไปหน่อยนุง
แต่ไม่เป็นไร.. ใครที่ตามกระทู้มา + ดูจากแปลน
น่าจะพอทราบอยู่แล้ว ว่าจะแต่งห้องแนวไหน หิหิ

น้องแอร์ ( วาย แอ่น คู )
แอร์ทั้งสามตัว โครงการแถมให้ค่ะ เลยไม่มีโอกาสเลือกสเปกเลย.. แหงบ

เรื่องประตู+ หน้าต่าง เดี๋ยววันนี้จะลองไปแลแลดูค่ะ
แต่ประตูฝืดมากเลย ขอบอก.. บอกให้เค้าแก้แล้ว ( เดี๋ยวแม่เปิดไม่ไหว )
หน้าต่างห้องน้ำใหญ่ ว่านชอบตรงที่มันเปิดได้หมดอ่ะ ( แหงล่ะ ไม่งั้นจะล้างแอร์ยังไง )
แต่ว่าจะทำมุ้ง( ม้วน )+ติดสติกเกอร์ฝ้า เด๋วบ้านข้างๆนอนไม่หลับ ( หยองพะยูนเล่นน้ำ )

หน้าต่าง.. มีปัญหานิดหน่อย ( ไม่หน่อยล่ะ )
ตบตีปัญหานี้เหนื่อยที่สุด เพราะมันลามมาถึงเรื่องพื้นด้วย
หน้าต่างไม่พอดีกรอบค่ะ ยืนเล็งดีๆนี่เห็นชัดเลย แสงลอดรำไร..

ณ ตอนนี้แก้ให้แล้ว คือ ปรับบานหน้าต่างให้เลื่อนขึ้นไปด้านบนหน่อย..
จะว่ากันจริงๆก้อ เอ้อ.. มันก้อยังมีแสงลอดได้หน่อยน่ะนะ
ก้อได้แต่หวังว่า ฝนจะไม่สาดมาก ( เหรอ? )
เพราะไม่งั้นเนี่ย ก้อต้องรื้อหน้าต่างทำใหม่

ก่อนหน้านี้ กว่าจะตบตีเรื่องบานกระจก( อีกคดีนึง )ได้ก็แทบวายป่วง
ก็เลย.. หยวนอีกแล้ว
( ดูซิ หยวนไปกี่เรื่องแล้ว สองกระทู้เนี่ย แง่งๆๆๆ )

พื้นค่ะ ปาเก้ไม้จริงกึ่งสำเร็จ..
( พอได้ปาเก้ไม้จริง ก้ออยากได้ลามิเนตมากกว่า เพราะเป็นคนซุ่มซ่าม
นานาจิตตังนิ คนเรา.. )

สีเชอรี่..
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าน้ำจะไม่นองจากหน้าต่างเป็นที่เดือดร้อนให้อิชั้นหามาเปลี่ยน
เพราะได้ข่าวว่าสีเชอรี่มันแพงงงง

ห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าค่ะ เป็นสี่เหลี่ยมแฮะ ห้องนี้..

โถสุขภัณฑ์ และอ่างอาบน้ำค่ะ

ฝาเหมือนผ่านสมรภูมิรบมาแล้ว ไม่ต่ำกว่าล้านครั้ง ( ห้องน้ำเล็กด้วยแหละ )
ขอเปลี่ยนเรียบร้อยค่ะ..
( ปรกติน่าจะมีพลาสติกหุ้มนะ.. )

อ่างอาบน้ำ อย่าลืมไขน้ำขังไว้ แล้วปล่อยดูนะคะ ว่าไหลคล่องดีรึเปล่า
จุกปิดเปิดน้ำ ทำงานดีไหม..
ห้องน้ำใหญ่ก็กระเบื้องเยอะค่ะ
ได้ให้สุนัขเคาะเหรียญ( แนวๆสุนัขดมกลิ่น )เป็นผู้สำรวจ
ป๊อกๆๆๆ

โฮ่งๆๆๆ
( แปลว่า เจอแล้วคับ )
แปะกระดาษกาวซะ..

หมดแระ.. ห้องว่าน..
วิ่งมาดูมิเตอร์ไฟหน่อย.. เปิดแอร์สามเครื่องแล้วติ้วๆป่าว..
( ก้อเอื่อยพอประมาณนะ น่าจะใช้ได้ )

เต้มมมม ไปหมด..

มิเตอร์น้ำมั่ง
( ดูไม่ค่อยรู้เรื่องอีกน่ะแหละ.. )

ทอฉับ..

กีก๊าด..

ตุ๊ๆ

กาจกเขียวตัดแสง..

สระว่ายนั้ม..
( ตึกข้างหลังนั่น เค้าถือว่าเป็นขุนเขาคอยเกื้อหนุนค้ำจุน ฮาๆๆๆ )

นั้มโตะ..

แถมท้าย..
.
จากเพื่อนสมาชิกหลายๆกระทู้ในชายคานี่แหละค่า
ขอบคุณมากมาย..
.
*********************** อย่าลืมกล้อง / ชอล์ก / ลูกแก้ว *************************
อยากทราบว่า เวลาตรวจรับบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว ก่อนจะโอน ควรจะดู และตรวจสอบ..
ระบบน้ำ + สุขภัณฑ์
ระบบไฟ + ดวงโคม และสวิทซ์
รอยร้าว ในบริเวณที่สำคัญ (พื้น คาน เสา)
การใช้งานของประตู+หน้าต่าง
ทางระบายน้ำ + การใช้งานได้ของถังบำบัด
และ ความเรียบร้อยทั่วไปครับ
++++++++++++++++++++++++++

คำตอบ จาก: วิญญู วานิชศิริโรจน์ (19/07/44)
ขออนุญาตบอกประสบการณ์ ในการตรวจบ้านตัวเองนะครับ……….

อย่างแรกคือ…. การตรวจสุดท้ายนี้ เป็นการตรวจแค่ปลายทางเท่านั้น ดังนั้น จะไม่สามารถดูอะไรได้มากครับ แนะนำให้มีการตรวจเช็ค เป็นระยะๆ ตลอดเวลาการก่อสร้างครับ

อุปกรณ์ ที่ต้องใช้

1.ไฟฉาย 2.ถังน้ำ 3.โคมไฟฟ้า 4.กระดาษ 5.ดินสอ 6.เศษผ้า ไว้เช็ดน้ำซึม และเช็ดมือ ที่เปื้อน

อย่างที่ 1 ……. ระบบ สุขาภิบาล ครับ

เปิดก๊อกน้ำ จนสุดทุกก๊อก…….. ดูว่าน้ำไหลดีไหม การหมุนของวาวเป็นอย่างไร หมุนออก หมุนเข้า สองสามครั้ง หรือมากครั้งที่สุด
ขังน้ำ ในบริเวณที่ขังได้ เช่น อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ อ่างครัว ที่ซักผ้า……..ให้เต็ม ดูว่า ช่องน้ำล้นทำงานไหม? ….เสร็จแล้ว ปล่อยน้ำออกในทันที ….ถ้าอยู่ในห้องน้ำเดียวกัน ให้เปิดให้น้ำออกพร้อมกัน เพื่อดูว่า การแย่งกันไหลออกของน้ำ มีผลอย่างไร ล้นจากอ่างล้างหน้าไปที่อ่างอาบน้ำไหม?
ถ้ามีอาการ ปุดๆ แสดงว่า ไม่มีท่ออากาศ หรือท่ออากาศตัน หรือท่ออากาศเล็กไป……. พร้อมกันนั้น ก็ชักโครกไปพร้อมๆ กันด้วยนะครับ ยิ่งดี ….แบบให้ระบบน้ำ แย่งกันใช้งาน ให้มากที่สุด

เอาถังน้ำไปด้วย 1 ใบ รองน้ำให้เต็ม ค่อยๆ เทลงพื้นห้องน้ำ เพื่อให้น้ำไหลลงท่อระบายน้ำ ดูว่า การระบายน้ำที่พื้น เป็นอย่างไร? ….ถ้าทำได้ ให้เอาผ้าอุดที่รูระบายน้ำพื้น ให้น้ำขัง แล้วค่อยปล่อยน้ำให้ไหล ทันที

ระบบชักโครก ….กด และกด และกด มากที่สุดเท่าที่ทำได้ น้ำไหลคล่องหรือไม่? ถ้าขนาดน้ำยังไหลไม่คล่อง แล้วถ้ามีเนื้อ…ก็คิดเองเองครับ
สายชำระ ….กดดูทุกอัน แรงๆ อย่าปราณีปราศัย

เอาเศษผ้าแห้ง เช็ดตามแนวรอยต่างๆ ที่ไม่ควรมีน้ำ ดูว่า มีน้ำซึมหรือเปล่า?
(ยิ่งเราสามารถเอาน้ำ มาไหลในห้องน้ำได้มากเท่าไร โอกาสที่จะเห็นความเสียหาย จากการเดินท่อไม่ดี ก็จะมากขึ้นครับ)
……………………………………………
2. ระบบไฟฟ้า
เปิดไฟทุกดวง ทิ้งไว้ ตั้งแต่ทางเข้าบ้าน ….ปิดแล้วเปิดใหม่ทุกดวง อย่างน้อยหนึ่งครั้ง แต่ต้องทิ้งระยะเวลาด้วยนิดหนึ่งนะครับ
เอาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสียบปลั้กไปด้วย เช่น โคมไฟเล็กๆ หรือพัดลมเล็ก ….เสียบ ที่เต้าเสียบ ทุกอันในบ้านว่าทำงานหรือไม่?
ถ้ามีระบบตัดไฟ และระบบเช็คความต่างศักดิ์ ก็ขอใบรับประกันด้วย …ที่เครื่องจะมีปุ่ม test ให้กดดูด้วย สอง หรือสามครั้ง ดูว่า ปุ่มหมุนอยู่ที่ 0 หรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ศูนย์ หมุนไปที่ศูนย์ …ถ้าไฟดับ แสดงว่า มีไฟรั่วเล็กๆ แล้ว ถึงตอนนั้น ก็ต้องพยายามเปิดใช้ไฟฟ้าให้หมด ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

3. หลังคา
ถ้าเข้าไปตรวจ ตอน”ฝนตก”ได้จะประเสริฐที่สุดครับ ….รั่ว ไม่รั่ว เห็นกันจะจะ ครับ
……………………………………………
4. ประตู+หน้าต่าง
ดูว่า ปิด เปิด ได้งานไหม? ….กลอนทุกตัว ใส่ได้จริงๆ และลงสุด หรือเปล่า? ….กุญแจ เปิดปิดได้จริงๆ หรือเปล่า?
…………………………………………….
5. จดๆๆๆๆ
ข้อสำคัญ ต้องจดๆๆๆ เป็นรายการๆๆๆ ห้าม”จำ”ครับ เพราะจะลืม …อย่าลืม เวลา, วันที่, แปลงที่ตั้งของบ้าน หรือชื่อเราเอง
เก็บไว้ที่เราชุดหนึ่ง ถ่ายสำเนาให้ผู้รับเหมาชุดหนึ่ง ให้เค้า”เซ็นรับทราบ”ก็น่าจะดี
– ตอนมาตรวจครั้งที่สอง ก็ไล่ตามรายการ …อ้อ! ให้ เค้า “นัดวันตรวจครั้งที่สองทันที” ในวันนั้นนะครับ
– น่าจะไปกันสองคน คนหนึ่งดู คนหนึ่งจด อย่าไว้ใจให้ผู้รับเหมาจด เพราะท่านมักจะลืมจด แบบตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ บ่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องที่แก้ไขยากๆ

นอกนั้นก็คงเป็นเรื่อง “ความเรียบร้อย” ครับ อันนี้ ตัวใครตัวมันครับ
( ……..ขนาดตรวจแบบนี้ …ทุกวันนี้ ยังต้องซ่อมบ้านอยู่ตลอดเลยครับ………….)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อันนี้…เผื่อเอาไว้หน่อย…ก็ดีครับ
1. ขอแปลนบ้าน, ผังประปา, ผังไฟฟ้า, อะไรก็ได้ ที่ขอได้ตอนนี้ เอาไว้เผื่อต้องการต่อเติม หรือ ซ่อมแซมบ้านครับ
2. ขอ Spec เบอร์”สี”ที่ใช้ …เวลาจะทาแต่งเล็กน้อย จะได้ไม่เพี้ยนกันมาก( แต่ทั่วไป เวลานานๆไป สีจะจืด ต่อให้ใช้เบอร์เดิม ก็เพี้ยนได้)
3. สอบถามเรื่อง กำหนดการ เก็บขยะ …วันเวลา โดยประมาณ …รวมถึง ช่วงเวลาที่ “เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า + ประปา” มาเก็บเงิน (กรณีไม่อยู่บ้าน จะได้เข้ามาจ่ายเงินถูก …. เดี๋ยวนี้ถ้าไม่จ่ายเงิน เค้าตัดกัน ฉับๆๆ เลยครับ)
4. จะให้เหมาะ …คุยกะ”ช่าง” ขอซื้อกระเบื้องพื้น + ห้องน้ำ ไว้อย่างละหน่อย เอาไว้เผื่องานซ่อม เพราะไปซื้อทีหลัง หารุ่น + สีเดิมไม่ได้แน่นอน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

6. ขอใบรับประกันทุกชนิดของบ้าน
เช่น ใบรับประกันมุงหลังคาบ้าน ซึ่งผมได้ใช้บริการ”หลังซื้อ”แล้ว หนึ่งครั้ง เพราะหลังคารั่ว หลังจากเข้าอยู่ 6 เดือน
….ใบรับประกัน(ว่า)ปลวก(จะขึ้น) (ปลวกขึ้น สองครั้ง ไม่เห็นประกันเลย)
………..เก็บไว้ให้ดี ได้ใช้แน่ๆ ครับ…………

7. การติดต่อสื่อสาร กับโครงการ หรือผู้รับเหมา….ให้ทำเป็นหนังสือเท่านั้น คุยทางวาจา จะลืมตลอดครับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาถึงตอนนี้ ก็เรียบร้อย โอนบ้านแล้ว …. ก็มาเตรียมความพร้อม กันหน่อยดีกว่า
1. ถ้าแรงดันน้ำไม่พอ ก็ซื้อปั๊มน้ำ + ระบบสำรองน้ำ (แท้งค์เก็บน้ำ)
2. ติดตั้งเครื่องใช้ต่างๆ …ท่อน้ำ สำหรับเครื่องล้างจาน , เครื่องซักผ้า , เครื่องทำน้ำอุ่น(เพิ่มเติม) …หรือว่า”รู” สำหรับท่อเตาแก๊ส, ช่องลมดูดอากาศ
3. ระบบไฟฉุกเฉิน …เผื่อจำเป็น เวลาไฟดับ
4. มุ้งลวด เหล็กดัด(อย่าลืม ทำแบบที่เปิดได้ด้วยหละครับ จะได้เอาไว้หนีไฟ)
5. ติดตั้งเสาทีวี, ระบบโทรศัพท์, และระบบสื่อสารอื่นๆ
6. จะให้หรูก็ต้องมี ระบบกันขโมย ด้วยเป็นงัยครับ
7. จะขนของเข้าบ้าน ก็ตรวจสอบ + ระวังปลวก ที่มากับของเก่าๆ ของเราด้วยนะครับ เดี๋ยวจะมีปัญหาอีก

ลืมไปครับ ถ้ามีงาน”ตกแต่งภายใน” ก็ควรทำให้เสร็จ ก่อนย้ายเข้า จะดีกว่านะครับ

การตรวจบ้านใหม่มีระบบตรวจสอบพอสถานประมาณดังนี้
ตรวจภายนอกบ้าน
1. ตรวจพื้นที่ที่ดินครบ ???……
2. ตรวจความเรียบร้อยภายนอก ได้แก่ รั้ว, โรงจอดรถ-ถนนภายในที่ดิน, สนามหญ้า
รอยร้าวตามผนังมี/ไม่ ดูการมุงหลังคาได้ ระยะซ้อนทับ ถูกต้องหรือไม่ มีกันนก หรือไม่???(สำคัยนะคะ..ยิ่งตอนนี้ไข้หวัดนกระบาดอ่ะค่ะ)
3. ตรวจดูแนวดิ่ง แนวฉาก ของตัวบ้านโดยรอบ(..ต้องได้ฉากหรือไม่น่าเกลียดจนเกิน)
4.ตรวจ เสาว่าตรง??? คานต้องได้แนวถูกต้อง
ตรวจภายในบ้าน
5. ตรวจดูพื้นให้ครบทุกห้อง
6. ตรวจ ดูผนังภายในให้ครบทุกห้อง
7. ตรวจการเปิดปิดประตูหน้าต่าง – ลักษณะบานสมบูรณ์แบบ ไม่บิด-โก่งงอ มีบานพับครบ??
หากมีกระจกใส่บานประตูหน้าต่าง ให้ตรวจร่องยา ซิลิโคนทุกบาน(ยาไว้แล้วยัง??)
รอย เชื่อมผนังกับวงกบประตู-หน้าต่างที่สร้างปัญหาเสมอว่ามีเสาเอ็นทับหลังครบ??? วงกบต่างๆเชื่อมกับเสาเอ็นทับหลังดี??มีการกันน้ำหรือไม่ ??ต้องดู
ตอนก่อสร้าง!!!
8. ตรวจฝ้าเพดานได้ระดับ-อยู่ในระนาบเดียวกันตลอดหรือไม่???
9. ตรวจไฟฟ้า โดยการเปิด-ปิดทุกดวง ตรวจการทำงานของแอร์ด้วย(ถ้าโครงการมีให้นะ)
10. ตรวจระบบน้ำโดยการเปิดปิดทุกก็อก
11. ตรวจระบบห้องน้ำ
– สุขภัณฑ์ก็ต้องดูว่าเขาติดตั้งได้แนว ได้ระดับ???
– เปิดปิดน้ำทุกก็อก
– ตรวจการระบายน้ำของ ส้วม,อ่างล้างหน้า และพื้นห้องน้ำ (เทน้ำลงไปแยะๆดูว่าระบานยได้ดี??)
– ตรวจ ฝาปิดท่อระบายว่ามีถ้วยดักกลิ่นหรือไม่(ต้องมีนะ)
12 ตวรจดูความเรียบร้อยบริเวณจุดเชื่อมต่อต่างๆได้แก่
– บริเวณพื้นที่ชนกับผนัง เรียบร้อย??? บัวเชิงผนังเรียบร้อย ???
– บริเวณฝ้าเพดานชนกับผนังเรียบร้อย??( ถ้ามีมอบฝ้าเพดานก็จะทำให้แลดูดีกว่า)
13. ตรวจความเรียบร้อยของสีทาสี เรียบร้อย???

เรื่องน้ำ

อุปกรณ์ที่ต้องมี
1. กระป๋องน้ำ 2. ผ้าเช็ดเท้า 3. กล้องถ่ายรูป (เพื่อถ่ายเอาไว้เป็นหลักฐาน)

1. เริ่มจากน้ำ ให้ไปเปิด-ปิด ก๊อกน้ำทุกหัว (ย้ำว่าทุกหัว) ในบ้านแล้วลองปิดดูว่าน้ำรั่วหรือไม่ มีรอยรั่วจากตรงไหนบ้าง หากปิดก๊อกน้ำทั้งบ้านแล้ว ให้เดินไปที่ มิเตอร์น้ำ ไปดูว่า มิเตอร์หมุนหรือไม่ หากมิเตอร์หมุนให้ทำการตรวจเช็คแสดงว่ามีท่อน้ำรั่วที่ไหนสักแห่งในบ้าน [ห้องที่มีก๊อกน้ำ ห้องน้ำทุกห้อง อ่างล้างหน้า สายชำระ ชักโครก ห้องครัว (ตาม sink ล้างจาน) สนามพื้นหน้าบ้าน (ก๊อกน้ำฉีดรดน้ำต้นไม้) ]

2. เอากระป๋องน้ำไปด้วย ใบใหญ่ๆ ที่ใส่น้ำได้สัก 5 ลิตรเป็นอย่างน้อย แล้วเติมน้ำใส่กระป๋อง เอาไปเททุกที่ที่มีทางระบายน้ำว่าน้ำระบายออกได้สะดวกหรือไม่ มีการขังหรืออุดตันตรงไหนหรือเปล่า (ห้องน้ำทุกห้อง ระเบียงห้อง หน้าบ้าน)

3. ปั้มน้ำ ให้ลองเปิดน้ำดูแล้วเดินไปที่ปั้มน้ำว่ามีเสียงการทำงานของปั้มหรือเปล่า น้ำแรงแค่ไหน

4. รายการของที่ต้องมีในห้องน้ำ
4.1 อ่างล้างหน้า พร้อมก๊อกน้ำ 4.2 ชักโครง และสายชำระ 4.3 ที่ใส่กระดาษชำระ 4.4 ที่แขวนผ้าเช็ดตัว
4.5 ก๊อกน้ำและฝักบัว 4.6 ฝาปิดท่อน้ำแบบกันกลิ่น

เรื่องไฟฟ้า

อุปกรณ์ที่ต้องมี
1. ไขควงวัดไฟ 2. ไดร์เป่าผม 3. ไขควง 4 แฉก 4. รองเท้าแตะ หรือ รองเท้าที่เป็นพื้นยาง 5. ถุงมือหนาๆ เอาที่กะว่าใส่แล้วยังขยับนิ้วได้ตามปกติ
6. บันไดยาวๆ เอาแบบที่พาดได้ อย่างน้อยต้องมีบันไดไปด้วยสูงสัก 2.5 เมตรกำลังดีเอาไว้ปีนดูหลอดไฟ แล้วก็ขึ้นใต้หลังคา
7. ไฟฉาย 8. กล้องถ่ายรูป (เหตุผลเดิม)
หมายเหตุ – ขณะทำการเช็คไฟให้ใส่รองเท้าและถุงมือเพื่อความปลอดภัย

1. เรื่องการเช็คไฟฟ้า ไม่ยากเลย ทำเหมือนกับน้ำ คือ เดินเปิด-ปิดไฟทุกดวงในบ้าน มีดวงไหนขาดไปหรือเปล่า ถ้าขาดให้เปลี่ยนให้ทันที หรือว่า จะย้ายดวงไฟตรงไหน ให้หรือจดเอาไว้แล้วเพิ่มในรายการตรวจรับบ้านได้

2. ปลั๊กไฟให้เอาไขควงวัดไฟจิ้มที่ น๊อต ดูว่ามีไฟรั่วมาที่น๊อตหรือเปล่า หลังจากนั้น ให้ใช้ไขควง 4 แฉกเปิดปลั๊กไฟทุกจุดออกมาดูว่าเค้ามีการเดินไฟเอาไว้กี่เส้น ต้องมีสายดินต่อเอาไว้ เปิดออกมาแล้วจะเห็นสายไฟ ต้องมี 3 เส้น พอเสร็จแล้วให้เอาไดร์เป่าผม เสียบแล้วลองใช้ดูว่ามีปลั๊กไฟอันไหนบ้างไม่มีไฟ

3. เดินไปดูที่ห้องน้ำมีการเดินสายไฟเอาไว้ให้สำหรับ เครื่องทำน้ำอุ่นหรือยัง หรือ หากห้องไหนมีอ่างอาบน้ำแล้วคุณจำเป็นต้องใช้เครื่องทำน้ำร้อน ก็ต้องให้เค้าเดินสายไฟให้ก่อนที่จะทำการตรวจรับมอบบ้าน หรือ เป็นไปได้ให้เขียนอยู่ในสัญญาก็ได้ ว่าให้เดินสายไฟให้ฟรี (สิ่งของพวกนี้เราไม่จำเป็นต้องเสียเงิน) แล้วการเดินสายไฟพวกนี้ก็เหมือนกันให้เดิน 3 เส้น (มีสายดิน) แล้วที่สำคัญ ต้องมี breaker ให้ด้วย อยู่หน้าห้องน้ำก็ได้ หากโครงการบอกว่า ตู้ไฟเดียวนี้เค้าแยกจุดให้แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจ ให้เค้าทำให้เราให้ได้ เพราะหากไฟดูดตายขึ้นมาคนพูดเค้าไม่ได้มาตายกับเราด้วย

4. ให้ปีนขึ้นไปดูใต้หลังคา ก่อนจะปีนให้เอาปิด main breaker แล้วเอาไฟฉายขึ้นไปด้วยมีการร้อยสายไฟเอาไว้ในท่อให้เราหรือเปล่า หากไม่มีให้ทำด้วย ไม่ใช่ร้อยสายไฟในท่อเฉพาะในกำแพงอย่างเดียว ใต้ฝ้าก็ต้องร้อยท่อให้เราด้วย เพราะหากหลังคารั่วน้ำมาโดนสายไฟจะเป็นอันตรายกับบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าของท่านได้ สายไฟ MAIN อย่างน้อยต้องเป็น 16 square/mm หากสูงกว่านี้ได้ยิ่งดี และสายไฟ main ต้องมีไม่รอยทำการตัดต่อเป็นอันขาด หากมีการตัดต่อให้ทางโครงการเปลี่ยนให้ได้ เพราะอันตรายมาก มีโอกาสทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรแล้วเกิดเพลิงไหม้ได้สูง

5. ปิดไฟให้หมดทั้งบ้าน (ไม่ต้องปิด main breaker) แล้วไปดูที่มิเตอร์ไฟว่ามีไฟวิ่งอยู่หรือเปล่า หากมิเตอร์ยังวิ่งแสดงว่ามีไฟรั่วให้ทำการตรวจหาแล้วทำการแก้ไขเสียก่อน

6. หากทางโครงการแถมติดแอร์ให้ฟรี ให้ทำดังนี้ ให้เปิดแอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะสามารถเปิดได้ เปิดให้หมดพร้อมกันทุกตัว สักประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเดินไปดูที่มิเตอร์ไฟว่า มันวิ่งแบบน่ากลัวหรือเปล่า หมุนติ้วๆ เป็นลูกข่างหรือเปล่า เพื่อทำการเช็คได้ว่ามิเตอร์จะทำการรับการใช้งานได้หรือเปล่า แอร์ต้องไม่ตัด อุปกรณ์ทุกอย่างต้องไม่ตัด

7. สายดินของ main breaker ถามเค้าว่าฝังเอาไว้ตรงจุดไหน ส่วนใหญ่ 80-90% จะฝั่งให้แต่ไม่ลึก ตามมาตรฐานแล้วต้องฝั่งให้ลึกอย่างน้อย 2 เมตร ส่วนใหญ่จะมองไม่เห็นเค้าจะบอกว่าเทปูนทับไปแล้ว หากเป็นไปได้ลองเช็คเรื่องนี้ดู ว่าเค้าฝังลงไปลึกเท่าไหร่ หรือไม่ก็ ให้ฝังให้ใหม่ อันนี้ยอมเสียเงินเองก็ได้

8. หลอดไฟ (downlight) ให้ต่อรองให้ใส่เป็น หลอดประหยัดไฟ หากได้จะดีมาก เพราะหลอดพวกนี้ราคาค่อนข้างสูง 1 หลอด ประมาณ 100 กว่าบาท แล้วแต่ยี่ห้อและขนาดของหลอดไฟด้วย หากมีหลอดไฟสัก 30 หลอด ก็ต้องเสียเงินไปประมาณ เกือบๆ 4 พันแล้ว

9. ปลั๊กไฟนอกอาคาร ต้องเป็นปลั๊กไฟที่มีตัวปิดกันน้ำให้ด้วย เพราะเวลาฝนตกหรือฝนสาดจะได้ไม่เป็นอันตราย

10. กระดิ่งไฟหน้าบ้าน ให้ไขออกมาดูว่าเดินไฟ 3 เส้นหรือเปล่า เป็นรุ่นที่มียางกันน้ำหรือไม่ หรือมีกล่องครอบกันน้ำหรือเปล่า สำคัญมากๆ เพราะ หากกระดิ่งไฟหน้าบ้าน เกิดชื้นขึ้นมา จะทำให้ ท่านที่ติด กล่อง safe-t-cut หรือกล่องยี่ห้ออื่นก็ได้ ไฟจะตัดตลอดหากกระดิ่งชื้น จริงๆ แล้วไม่ต้องติดก็ได้ครับ safe-t-cut เปลืองเงินโดยใช่เหตุหากท่านไปมีใช้อยู่แล้วเกิดปัญหาว่า safe-t-cut ตัดบ่อย 90 กว่า % มาจากสาเหตุนี้ทั้งนั้นเลยครับ

11. ไฟนอกอาคาร หรือ ไฟรอบๆ บ้านควรมีเอาไว้รอบบ้าน ดีกว่านะครับ แล้วท่านที่ต้องการเปิดไปหน้าบ้านให้ไปซื้อสวิทช์เปิดไฟอัตโนมัติ มาให้ช่างโครงการติดก็ได้ครับ

งานพื้น
อุปกรณ์ที่ต้องมี
1. ถุงเท้า 2. เหรียญบาท 3. ลูกแก้ว สักประมาณ 20-30 ลูก 4. กระดาษกาว 5. กล้องถ่ายรูป (ถ่ายเป็นหลักฐาน)

1. ให้เดินลากเท้าเปล่าก่อนดูว่ารอยกระเบื้อง แกรนิต หรือหินอ่อนหรือ แผ่นไม้ หรือไม้ปาร์เก้ที่ปูนั้นเรียบเสมอดีหรือไม่ หลังจากนั้นให้ใส่ถุงเท้าแล้วเดินลากไปตามพื้นเช่นเดิม จะได้รู้ว่ามีรอยอีกหรือเปล่า และตามร่องที่ปูสะอาดหรือเปล่า

2. ให้ใช้เหรียญบาทเคาะดูพื้นว่ามีเสียงพื้นโปร่งหรือเปล่า หากมีให้นำกระดาษกาวแปะทำเครื่องหมายเอาไว้ เคาะกระเบื้อง ถ้ามีเสียงก้องๆ เหมือนข้างในเป็นโพรง ก็ต้องรื้อน่ะค่ะ ถ้าแป้กๆ ตันๆทั้งแผ่นก็เก็บไว้ แสดงว่าใช้ได้ โดยเฉพาะตรงขอบๆกระเบื้องนี่ไม่ได้เลย เสียงก้องนิดเดียวก็ไม่ได้

3. ให้วางลูกแก้วไปบนพื้นหากเป็นไปได้ ควรวางห่างกันอย่างน้อย 10 เซนติเมตร แล้วดูว่าลูกแก้วไหลไปทางไหน หากไหลรวมกันแสดงว่า พื้นเป็นหลุม หากจุดไหนไม่มีลูกแก้วอยู่แสดงว่าพื้นปูด ให้เอากระดาษกาวแปะเอาไว้ เหมือนเดิม
หมายเหตุ – การเคาะอย่ารุนแรงมากแล้วให้เคาะกระเบื้องทุกแผ่นที่ปูได้จะดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นห้องหรือ ห้องน้ำรวมทั้งผนังห้องน้ำที่ปูกระเบื้องด้วย รวมถึงพื้นปาร์เก้ด้วย ป.ล. พื้นลามิเนต อย่าไปเคาะมันนะ ไม่มีผล 555

งานกำแพง
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1. ไม้บรรทัด 2. ไฟฉาย 3. กุญแจบ้านทั้งหลัง

1. ให้เดินดูกำแพงว่าสะอาดดีหรือไม่ wall paper ที่ติดเอาไว้เรียบเสมอกันดีหรือเปล่า ดูให้ละเอียดๆ นะ ให้เอาหน้าแนบดูกับกำแพงว่าเรียบเสมอกันดีหรือเปล่า มีกำแพงบุบหรือโป่งหรือเปล่า

2. ตามขอบบัวติดผนังให้เอาไม้บรรทัดวางลงกับพื้นแล้วเลื่อนเล่นเป็นเหมือนรถไฟ หากมีการโป่งหรือเว้าตัวของบัวคุณจะเห็นช่องได้ที่อยู่ระหว่างไม้บรรทัด กับขอบบัว

3. สีนอกอาคารดูให้ทั่วว่ามีรอยร้าวหรือเปล่า มีรอยน้ำหรือเปล่าหากมีแสดงว่าน้ำรั่วให้หาสาเหตุโดยด่วน

4. ตามประตูและหน้าต่างให้ลองเปิดปิดดูทุกบาน ดูว่ามีการทรุดตัวของประตูหรือหน้าต่างหรือเปล่า ลองปิดแบบปล่อยให้ประตูปิดเองจะรู้ได้ทันที ให้ปิดประตูแล้วเอาไฟฉายส่องดูว่ามีแสงลอดหรือเปล่า ลอง lock แล้วเปิดดูด้วยกุญแจทุกดอกดูว่าใช้งานได้หรือเปล่า

5. หากมีมุ้งลวดให้ตรวจดูว่ามีรอยขาดหรือเปล่า หากมีให้เปลี่ยนทันที

6. ประตูรั้วหน้าบ้าน ลง lock ดีหรือเปล่า สามารถใช้งานได้จริงหรือเปล่า ลองเปิดและปิดดู แล้วลองดูว่าใส่แม่กุญแจได้หรือเปล่า ลองปิดดู

สายโทรศัพท์
อุปกรณ์ที่ต้องมี
1. โทรศัพท์บ้าน อย่างน้อย 2 เครื่อง เอาแบบใช้ถ่านนะ พร้อมสายต่อ
2. เพื่อน คนสนิท หรือ คนทางบ้าน อย่างน้อยอีก 1 คนเช่นกัน

1. หลายๆบ้านที่ทางโครงการมีการเดินสายโทรศัพท์เอาไว้ให้ในกำแพง ให้เอาโทรศัพท์ไปต่อดู แล้วยกหูฟังดูแล้วลองคุยกันดู ว่าได้ยินหรือไม่
หมายเหตุ – การเช็คแบบนี้ไม่ต้องรอให้มีเบอร์โทรศัพท์ก่อนก็ได้

ข้อเตือนใจ
1. อย่าเชื่อลมปาก ให้เขียนลงกระดาษและลงวันที่เอาไว้ด้วย
2. ถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐานทุกชิ้น
3. ให้ทำให้เสร็จก่อนโอน
4. อย่าเชื่อ โฟร์แมน ของโครงการโดยเด็ดขาด

หมายเหตุ – ข้อ 1 สำคัญที่สุด

.
ไฟล์ excel ตรวจรับบ้าน – http://www.smart-mobile.com/~tanin/Home-Check-Loan.zip

ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชมค่ะ