Cafe’ au Chum เป็นร้านเค้ก.. เล็ก ๆ สุดแนวของพี่นนท์ – ประภากมล หุ่นใย ตั้งอยู่ละแวกนนทบุรี เยื้อง ๆ กับป้ายศูนย์พระเครื่อง ตลาด อ.ต.ก. 3
หากใครคุ้นชื่อพี่นนท์ ก็ขอบอกว่าเธอคือคอลัมนิสต์คนเก่งแห่งคอลัมน์ Dessert Lover นิตยสาร Health & Cuisine นั่นเอง..
ที่ว่าแนวนี้ ไม่ใช่เพราะพี่นนท์เคยคลุกคลีอยู่วงการโฆษณามานาน ถึงได้มีความแนวอยู่ในตัว
แต่ความแนวอยู่ที่คอนเส็ปต์ของทางร้านที่เปิดแบบ”มาตามนัด” .. นัดถึงจะเปิด ไม่นัดไม่เปิด มาแบบดุ่ม ๆ อาจจะเงิบโดยไม่รู้ตัว
ด้วยความที่พี่นนท์ทำเค้กแบบ One (Wo)Man Show – No Stand-In ดังที่เธอได้จรรจาไว้ในเฟซบุ๊กของทางร้านว่า
“ขอความกรุณาเข้าใจรูปแบบการทำงานของร้านด้วยนะคะ เนื่องจากเป็นโฮมเมดที่ทำทุกอย่างคนเดียวในทุกขั้นตอน ตั้งแต่คัดเลือกวัตถุดิบ ปรุงขนมทุกชิ้นแบบสดใหม่พิถีพิถันก้อนต่อก้อน ทำความสะอาดร้าน รับโทรศัพท์ตอบข้อความบริการข้อมูลขนมต่างๆ และปฏิสัมพันธ์กับสื่อ รับประทานข้าวพักผ่อน และหายใจ แบบมนุษย์ปกติทั่วไปนะคะ ♥
รูปแบบการทำงานทั้งหมดนี้ มีจุดประสงค์เดียวคือ***เพื่อมอบขนมที่มีคุณภาพ100% และมีความสมบูรณ์แบบ***ตามที่ดิฉันตั้งใจไว้แด่ทุกท่านค่ะ ~,~ จึงเรียนมาเพื่อขอความกรุณา นะคะ _/|\_”
เป็นที่น่าซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง จึงขอยกมาโดยไม่ตัดทอน เพื่อความเข้าใจอันดีของทุกท่าน ก่อนจะสาธยายรีวิวร้านนี้ต่อไป..
พี่นนท์เป็นคนละเอียดและฟุ้งกับเค้กมาก มักจะมีจินตนาการบรรเจิดเสมอตามประสาคนเคยอยู่วงการโฆษณามาก่อน..
เค้กของร้าน Cafe’ au Chum มีอยู่สองประเภทหลัก ประเภทหนึ่งคือเค้กที่สนธิของไทย ๆ เช่น Durianoffee, Durian Croque en Coeur, Marian Plum Fondant-ลาวามะยงชิด, ตริตา บัว กาโดว์-สายบัวชีสเค้ก เป็นต้น..
ฟังว่าเค้ก+ไทย อย่าพึ่งนิ่วหน้า ลองยลเค้กของ Cafe’ au Chum ที่สนธิของไทยเข้าไปเสียก่อน..
“Mellow Moringa Green Tea” ใครจะเชื่อ..ว่ามะรุมผักพื้นบ้านในแกงส้มของครัวไทยเมื่อนำมาเชื่อมกับน้ำผึ้งสดรสหอมหวานยวนใจแล้ว จะเข้ากันได้ดีกับเค้กชาเขียวแสนหอมของญี่ปุ่นได้อย่างอร่อยสุดใจ Siamese Exotic, Lifestyle Gourmet, Harper’s Bazaar Mag.,Oct,2012. – ผลงานFood Stylingโดยคุณดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์ ขนมโดย Cafe’ au Chum
“Khao Maak Tribu Royale” มูสข้าวหมากรสหวานชุ่มคอในครีมสดรสมินต์ วางบนว่านหางจระเข้เชื่อมน้ำองุ่นขาว โรยด้วยกรานิต้าน้ำองุ่นสด Siamese Exotic, Lifestyle Gourmet,Harper’s Bazaar Mag., Oct,2012. – ผลงานFood Stylingโดยคุณดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์ ขนมโดย Cafe’ au Chum
อีกประเภทหนึ่งก็คือเค้กฝรั่งทั่วไปที่เราได้เห็น ได้ยิน ได้กินตามร้านเค้กทั่วไปจนชินตา ชินหู และชินลิ้น เช่น เค้ก/ทาร์ตเบอร์รี่นานา, Creme Cappuccino, Vienna Mousse และอื่น ๆ อีกมาก โดยมีดาวเด่นประจำร้านคือเค้กช็อคโกแลต Piece of Heart ที่ว่านได้มาชิมในวันนี้..
รูปลักษณ์ภายนอก ดูไม่ต่างจากเค้กช็อคโกแลตทั่วไป แต่เมื่อได้ลองชิม ถึงเข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงยอมรอคิวเป็นเดือน ๆ เพื่อได้กิน Piece of Heart นี้..
รสชาติของ Piece of Heart ต้องเรียกว่าเป็นรสชาติของผู้ใหญ่ หนักแน่น เข้มข้น ค่อนไปทางขมนิด ๆ แต่ไม่มาก และไม่มีความเฝื่อนเลย
อีกจุดที่ชอบก็คือแม้รสชาติครีมช็อคโกแลตจะเข้มข้นหนักแน่น แต่ไม่เลี่ยนเดียมปากเดียมลิ้น เนื้อเค้กนุ่มเบา ไม่หลงเหลือสากแป้งให้ระคาย..
เค้กช็อคโกแลต Piece of Heart นี้ ขนาด 2ปอนด์ ~1,500บาท (ราคา ณ พ.ค. 56) ปรับเป็น 2ปอนด์ ~5,500บาท (ราคา ณ ม.ค. 59) เนื่องด้วยรสชาติของเค้กช็อคโกแลต Piece of Heart ที่ไม่เน้นความหวาน และราคาที่ไม่น้อยเลยเพราะถูกกำหนดโดยคุณภาพของวัตถุดิบ พี่นนท์เน้นหนักหนาว่าไม่อยากให้สั่ง Piece of Heart เพียงเพราะเห็นว่าเป็นดาราเด่นประจำร้าน แต่อยากให้สั่งเพราะชอบเค้กรสชาตินี้มากกว่า หากมีเด็ก ๆ ร่วมประทานด้วยหรือชอบเค้กช็อคโกแลตที่ออกหวาน พี่นนท์แนะนำว่าน่าจะชอบVienna Mousse มากกว่า เสียดายที่พี่นนท์ไม่ได้เตรียมVienna Mousse ไว้ (บอกแล้วว่าร้านนี้แนว) คราวหน้าคงต้องขอลองชิมเปรียบเทียบดู =)
แต่โดยส่วนตัว ว่านเป็นคนกินของขม ชมเด็กสาว.. ไม่ใช่ละ.. ว่านเป็นคนชอบ Dark Choc อยู่แล้ว Piece of Heart นี้จึงถูกใจเป็นที่สุด ขอรับกลับบ้านแต่โดยดี..
เมื่อกลับมาบ้านแล้ว ก็ไม่รอช้า.. ที่บ้านมีพริกป่นอย่างดีอยู่ค่ะ เผ็ดร้อนได้ใจ ไม่เจือปนสิ่งแปลกปลอม..
การรับประทานช็อคโกแลตกับพริกป่นนี้ ในไทยอาจยังไม่เป็นที่คุ้นเคยนัก แต่ถ้าใครเป็นคอ Dark Choc โดยเฉพาะ Dark Choc ชั้นดี อยากให้ลองดู
ขอบอกว่าเข้ากันอย่างมากจริง ๆ =)
ใครอยากจะลองฝีมือพี่นนท์ เจ้าของร้านเค้กแสนแนวตามที่ได้กล่าวมา ก็ขอเข้าไปชมรายละเอียด หรือโทรถามไถ่ สอบถาม-สั่งเค้กกันได้ตามรายละเอียดข้างล่างนี้
http://www.facebook.com/cafeauchum
Tel -> 081 843 8753
หรือใครที่มีความสามารถ อยากทำ Piece of Heart ด้วยตัวเอง พี่นนท์ก็ไม่เคยปิดบังสูตรค่ะ สามารถลองทำได้ตามสูตรนี้..
ออกมาเป็นอย่างไร อร่อยถูกใจหรือไม่ ลาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ =)