“ผ้าหมักโคลน”เป็นของดีของชุมชนบ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย อันที่จริงแล้วหากจะกล่าวถึงผ้าหมักโคลนของชุมชนบ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่เสียด้วยซ้ำ เพราะเมื่อเอ่ยถึงจังหวัดสุโขทัย คนก็มักจะนึกถึงเครื่องสังคโลก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย พ่อขุนราม งานเผาเทียนเล่นไฟลอยกระทงเสียมากกว่า แล้วผ้าหมักโคลนคืออะไรล่ะ
10409352_10205716712025709_4128436300440014988_n

ผ้าหมักโคลนนี้มีที่มา เกิดจากว่าคนสมัยก่อนเวลาไปทำไร่ไถนาก็นุ่งผ้าถุง เวลาเดินชายผ้าก็จะระเรี่ยไปกับโคลนตม เป็นเช่นนี้นานเข้า เมื่อกลับถึงบ้านและซักผ้าตากไว้ ก็สังเกตได้ว่าชายผ้านั้น นุ่มเป็นพิเศษและมีสีทึบทึมลง ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ เห็นอย่างนั้นแล้ว จึงได้ทดลองเอาผ้าทั้งผืนมาหมักโคลนทิ้งไว้ ก็พบว่าโคลนนี่เองที่ทำให้ผ้านิ่ม นี่แหละคือที่มาของ “ผ้าหมักโคลน”
10653839_10205716724666025_7847903098651456203_n

สาเหตุที่ผ้านิ่มนั้น เพราะธาตุเหล็กในโคลน เมื่อแทรกซึมจะทำให้เส้นใยผ้าขยายตัว เนื้อผ้าจึงนุ่ม และมีสีสันติดทน ภูมิปัญญาจึงเกิดจากการสังเกตนี้เอง ดินโคลนที่ใช้หมักจากแต่ละสถานที่ เช่น บึง หนองน้ำ ท้องร่อง ก็จะให้สีสันต่างกัน หลังหมักโคลนไว้คืนหนึ่ง จนผ้านุ่มน่ายดีแล้ว ก็จะนำไปซักน้ำจนกว่าจนน้ำจะใส เป็นอันว่าสะอาดดี
แล้วค่อยย้อมทับด้วยสีตามที่ต้องการ
10419604_10205716725106036_1623104513600923847_n

สีที่ใช้นั้น ก็เป็นสีจากธรรมชาติทั้งสิ้น ดังนี้
ใบมะม่วง = สีเขียวแก่
ใบจั่น = สีเขียวอ่อน
ใบสะเดา = สีโอลด์โรส
ใบหูกวาง = สีเขียวครีม
แก่นขนุน = เหลือง
เปลือกมังคุด = สีม่วง
เปลือกสะเดา = สีกะปิ
ลูกมะเกลือ = สีดำ
ไม้เพกา = สีเหลืองใบไผ่
ไม้ฝาง = แดงอมฝาด
10848042_10205716725226039_539343718234056810_n

สุโขทัยนั้น เป็นที่รู้จักในเรื่องผ้าตีนจก แต่ผ้าหมักโคลนของที่ชุมชนบ้านต้นจั่นนี้ ยังมีชื่อเสียงในเรื่องลายขิดอีกด้วย มีมากมายกว่า 50 ลายทีเดียว ผ้าหมักโคลนที่นี่ ยังได้รับรางวัลทั้งในระดับท้องถิ่น ประเทศ และนานาชาติมาแล้วไม่น้อย น่าภูมิใจไหมล่ะ
10410522_10205716706705576_2294364704525378165_n

สีเขียวอ่อนของผ้าหมักโคลนนั้นได้จากใบจั่น ชุมชมส่วนมากก็มักได้ชื่อจากพืชพรรณที่มีมากมายในท้องถิ่น แต่ชุมชนบ้านนาต้นจั่นนั่น มีเรื่องเล่าความเป็นมามากกว่านั้น ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อ ๆ กันมาว่าเมื่อราว 200 ปีก่อน มีครอบครัว 4 ครอบครัวจากแคว้นโยนก เมืองเชียงแสน รอนแรมข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่าเพื่อหาถิ่นฐานแห่งใหม่ และในช่วงเวลาเดียวกัน ก็มีอีก 3 ครอบครัวจากเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้เดินทางยังที่นี่ ที่ซึ่งมีภูเขาอยู่ในกลางแวดล้อมเต็มไปด้วยต้นจั่นมากมาย เมื่อทั้ง 7 ครอบครัว เห็นต้นจั่นซึ่งผลิดอกออกผลก่อนต้นไม้ชนิดอื่น ๆ  ดูมีความหมายและความพิเศษ พวกเขาจึงตัดสินใจลงหลักปักฐาน ณ ที่แห่งนี้ และเรียกที่นี่ว่า “บ้านนาต้นจั่น” จนปัจจุบันมีกว่า 370 หลังคาเรือนเข้าแล้ว
10410522_10205716740866430_4184621669585401949_n

อย่างที่กล่าวในหัวเรื่องแล้วว่าบ้านนาต้นจั่น มีดีมากกว่าผ้าหมักโคลน นั่นเพราะที่นี่ยังมีขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นของตนเอง มีการละเล่นต่าง ๆ คือเป๊บโขก มีลักษณะการละเล่นคล้ายงูกินหาง มีอาหารประจำถิ่นคือข้าวเปิ๊บและก๋วยเตี๋ยวแบ ทั้งยังมีความเชื่อต่าง ๆ เฉพาะตน เช่น การอัญเชิญดวงวิญญาณเจ้าพ่อพญาแก้วมาคอยปกปักรักษาในชุมชน
10802024_10205716738146362_2674379071325147089_n

ข้าวเปิ๊บคืออะไร..
ด้วยสภาพพื้นที่ของบ้านนาต้นจั่นที่อยู่ห่างไกล หลายสิบปีก่อน เส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นของหากินยากและมีราคาแพง จะกินทีชาวบ้านก็ต้องเดินทางเข้าเมืองไปซื้อ ลำบากมาก.. ด้วยความยากลำบากนี้ คุณยายเครื่อง วงศ์สารสิน จึงคิดหาสิ่งที่จะมาใช้แทนเส้นก๋วยเตี๋ยว เลยลองเอาข้าวเจ้าข้าวสารมาโม่ด้วยโม่หินและกรองด้วยผ้าขาวบางเป็นแป้งเปียกข้น ๆ แล้วละเลงนึ่งบนผ้าขาวบางเป็นแผ่นบางๆ คล้ายข้าวเกรียบปากหม้อ ใล้ก็เป็นผักต่าง ๆ เช่น ผักกันตง ผักตำลึง ผักหวานบ้าน แล้วพับแผ่นแป้งห่อเข้า แล้วนึ่งต่อก่อนจะตักใส่ชามแล้วราดน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ โปะไข่ดาวนึ่ง คล้ายก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ แต่ก็อร่อยแปลกไม่เหมือนใครทีเดียว
10502458_10205716804268015_3417027940652808559_n

10846460_10205716805188038_155820919069686300_n

สำหรับของฝากเด็ก ๆ นั้น ขอแนะนำตุ๊กตาหก ฝีมือคนเฒ่าคนแก่ในชุมชน ที่จะหกคะเมนตีลังกา หลอกเด็กได้ดีนักเชียว
10730201_10205716773947257_3230734345231747345_n

1378704_10205716773467245_5029809723648995020_n

1795786_10205716776907331_3351651968338408912_n

บ้านนาต้นจั่นนี้ก็มีโฮมสเตย์กับเขาด้วย ทั้งกิจกรรมและความ”บ้าน ๆ “ของบ้านนาต้นจั่นก็ยังคงวิถีเดิมของชุมชนได้เป็นอย่างดี 
10801890_10205716718665875_6445872096707550432_n

10610948_10205716717665850_146995639770628888_n

สำหรับนักถ่ายภาพไม่ควรพลาด เพราะสามารถกางเต้นท์นอนที่จุดชมวิว กลางคืนถ่ายรูปดาว ตื่นเช้าขึ้นมาถ่ายรูปทะเลหมอก.. ฟินสองต่อ 
1794525_10205716766147062_2056909413706257468_n

10845999_10205716754106761_1953473594738634222_n

10846250_10205716748666625_8743409174223828598_n

10394042_10205716752346717_2838890670762414472_n

สนใจอยากไปเยี่ยมเยีนบ้านนาต้นจั่นก็ไมยากเลย จากที่ว่าการอำเภอศรีสัชนาลัย มุ่งตามทางหลวงหมายเลข 102 (สายอุตรดิตถ์-ศรีสัชนาลัย) ไปทางทิศตะวันออก (ไปอุตรดิตถ์) ประมาณ 9 กิโลเมตร จากนั้นแยกเข้าตำบลบ้านตึก ถนนสายแม่ตะเพียนทอง-ห้วยตม อีก 11 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านนาต้นจั่น

หากอยากพักโฮมสเตย์ ก็สามารถติดต่อกลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านนาต้นจั่นได้เลย
โทร 089-885-1639 และ 088-495-7738
10696396_10205716760746927_5469197411292668101_n

ฝากบ้านนาต้นจั่นไว้เป็นอีกหนึ่งชุมชนในอ้อมใจด้วยนะคะ ^_^
ขอบคุณภาพประกอบจากพี่นิก @dhapana ค่ะ