Macaron หรือมาการง.. ขนมชิ้นน้อยสีสันสดใสที่เริ่มเป็นสิ่งคุ้นชินในชีวิตคนไทย เรียกได้ว่ามีขายแม้กระทั่งตามร้านกาแฟปากซอย จนอีกไม่นานคงถึงยุคมาการงตลาดนัด บางครั้งรสชาติเฟลจนคนเข็ดขยาดขนมนี้ไปเลยก็มี บ้างก็ค่อนว่าหวานแสบไส้ ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหน แต่คนที่เป็น Macaron Lover ชนิดรักปักใจก็ยังมีอยู่ไม่ใช่น้อย
ในยุคที่สงครามมาการงแสนดุเดือดทั้งตลาดบนและตลาดล่างเช่นนี้ มีมาการงแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากนอก ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสตบเท้ามาลงสนามกันอย่างคึกคัก ไหนจะเจ้าพ่อมาการงอย่าง Pierre Hermé ที่ฮึ่มฮั่มเตรียมมาเปิดตัวปีหน้าที่ EmQuartier District อีก.. เหล่าหมู่ผู้พิสมัยการกินหลายท่าน จึงได้รวมตัวกันเฉพาะกิจมาจัดสงครามมาการงรอบแรก ให้ผู้บริโภคได้มีแนวทางว่าควรจะเลือกกินเจ้าไหนให้ถูกจริต.. ใครเด่น ใครด้อย ใครดับ บล็อกนี้รู้เรื่อง!!
อนึ่ง ขอสะกดภาษาไทยว่า “มาการง” ตามหลักการเขียนทับศัพท์ของราชบัณฑิตยสถาน..
ขอเล่าที่มาที่ไปก่อนจะได้รู้ว่าทำไมรสที่เลือกมามันถึงหลายหลากขนาดนั้น.. สงครามนี้เริ่มเปิดฉากที่ร้าน Harrods เราไปยืนเกาะตู้พลางเล็งเอารสชาติที่คิดว่าทุกร้านน่าจะมีที่สุด อันได้แก่English Rose / Lemon และเอิร์ลเกรย์.. อันที่จริงอยากได้รสช็อคโกแล็ต แต่วันนั้นที่ร้าน Harrods หมดพอดี เลยเลือกเป็นเอิร์ลเกรย์มาแทน ที่เหลือ Rose เพราะเป็นรสที่ทำให้สมดุลยาก น่าจะวัดฝีมือได้ดี ส่วนที่เลือก Lemon ก็เพราะจะได้มีรสผลไม้เปรี้ยว ๆ มาตัดรสบ้าง อันที่จริงก็ลังเลระหว่าง Raspberry อยู่ แต่พอดีที่ Harrods ไม่มี เลยตัดออกอย่างง่ายดาย
ต่อมาก็ไปเกาะตู้ที่ร้าน The Mandarin Oriental Shop, Bangkok .. คราวนี้ยิ่งมึนเข้าไปใหญ่ ด้วยความที่ของ MOB นี้มีแต่รสsignature ซะมาก ไม่ค่อยมีรสที่ซ้ำกับชาวบ้านเค้าเท่าไหร่ สุดท้ายเลยต้องเลือกรสช็อคโกแลตและคาราเมลมา.. เลยเดินกลับไปที่ Harrods ขอเปลี่ยนจากรสเอิร์ลเกรย์เป็นรสเอิร์ลเกรย์-คาราเมล จะได้ไม่ต้องเปรียบเทียบหลากรสชาตินัก เดี๋ยวจะมึนกันไปเสียก่อน.. ถ้ามันจบง่าย เรื่องคงไม่ยาว.. แฮร์รอดส์ไม่ให้เปลี่ยนจ้า ซึ่งก็ไม่ว่ากัน ก็เลยเดินหงอย ๆ ไปต่อ Fauchon ทีนี้ล่ะสนุกเลย.. ไม่มี Rose เลยเลือกมาเป็น Lemon / Caramel และช็อคโกแล็ต..
ตัดฉากมาที่ดาราเทวี.. ก็ไม่มีLemon อีก เลยเลือกมาเป็นRose / Uganda และรสสุดท้ายคิดหนักมาก.. ว่าจะเอาคาราเมลหรือเอิร์ลเกรย์ดี สุดท้ายก็เลือกเอิร์ลเกรย์มา..
สุดท้ายก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปสอยLaduree .. เลือกRose Petal กับLemon แน่นอน เอิร์ลเกรย์ไม่มี เป็นอันว่าตกไป.. ทีนี้ก็เหลือว่าจะเอา Salted Caramel หรือ Choc Venezuela .. ในที่สุดก็เลือกจริตเวเน Venezuela จ้ะ
เดินผ่าน TWG แล้วก็คิดว่าพอเห้อะ นี่ก็ 5 เจ้า 5 รสเข้าไปละ จากที่แรกคิดว่าซัก 3 รสน่าจะกำลังดี ไม่เบื่อหรือเลี่ยน.. ทำเป็นพูด อันที่จริงก็ฝากน้องAmenochikara ซื้อของ PAUL มา แต่ว่ามาการงหมด เหลือแต่อันใหญ่เบิ้ม เอาเป็นว่ารอแบทเทิ่ลรอบหน้าตอน PH มาละกันนะจ๊ะ PAUL ..
โฉมหน้ามาการงทั้ง 5 แบรนด์ดังใน #MacaronsBattleBKK รอบแรก =)
Judges Panel ครั้งนี้มี 7 คน
ว่านน้ำ / Amenochikara / @Petite_lapin / โทนี่ ส. Panerai / สึกแล้ว / Beanแปลว่าถั่ว และนักชิมนิรนามผู้ไม่ประสงค์ออกเสียง
หารค่าใช้จ่ายกันตกคนละ 300 บาทได้ พอ ๆ กะกินข้าวเลย -_- 555
เวลากินเรากินเทียบกันรสต่อรสนะคะ แต่เกรงว่าถ้าเขียนไล่ตามรสจะงงมาก เพราะมี 5 รสแต่ใส่จานตามแบรนด์ แล้วแต่ละรสก็ไม่ครบทุกแบรนด์ เลยสรุปเขียนคอมเมนต์เป็นรายแบรนด์ดีกว่า ไล่เรียงตามลำดับราคานะคะ..
Dhara Dhevi Cake Shop
https://www.facebook.com/DharaDheviCakeShop
ชิ้นละ 30 – 70 บาท แล้วแต่รส สำหรับรสRose และ เอิร์ลเกรย์ 30 บาทค่ะ ส่วน Uganda 45 บาท
ว่านน้ำ – เป็นเจ้าที่ทำเปลือกให้กรอบผิว ในฉ่ำนุ่มนิด ๆ ได้ดีนัก สมดุลระหว่างshellและไส้ค่อนข้างดี ไม่มาก/น้อยไป ไม่ค่อยเน้นงานกลิ่น รสชาติโดยรวมโอเค แต่รสเอิร์ลเกรย์นี่งง งง ส้มไป ถ้าเป็นBergamot ยังยอมรับได้ ส่วน Uganda ติดเปรี้ยวโดดไปหน่อย
Amenochikara – Flavoring ดีเป็นบางรสเช่นรส chocolate ที่เข้มข้นและมีเปรี้ยวติดปลายลิ้นนิดๆ ส่วนรส Earl grey ไม่มีรสชาเลย แถมไส้ในยังมีเยลลี่ส้มข้างในอีกต่างหาก เหมือนกินรสส้มมากกว่า Texture ของ shell กรอบนอก หนึบในนิดๆ เอาแค่เรื่อง Texture ของเปลือกขนมชนะขาดหลายเจ้า (เว้น Laduree)
@Petite_lapin – เปลือกค่อนข้างคล้าย MO Bangkok แต่ว่าจะกรอบน้อยกว่า และเคี้ยวได้หนุบหนับกว่า … การขนส่งจากเชียงใหม่ ทำให้ texture ขนมเสียหายบางส่วน บางชิ้นก็มีกลิ่นหืนจางๆ อยู่ข้างหลัง … กินที่ดาราเทวีอร่อยกว่ากินที่กรุงเทพแน่ๆ … แต่ที่ชอบเชฟฟาเบียซ คือ เค้ามี pairing รสชาติดีมาก (ชอบ Black truffle ค่อดๆ) … หลายรสของเค้าอร่อยเลย … ยกเว้น รสที่เลือกมาวันนี้ … 555+
>> Rose – ไส้หนา เป็นรสกุหลาบที่ควรเขียนว่า รสอัลมอนด์ เพราะมันมีแต่รสอัลมอนด์ แทบไม่มีกลิ่นกุหลาบเลย
>> Earl Grey – อันนี้ก็ไม่มีรสเอิร์ลเกรย์ มีแต่รสของเจลลี่รสส้มที่สอดไส้ไว้ … ควรเขียนว่า รสส้ม
>> Chocolate – เปลือกขนมแอบย้วยๆ เละๆ แปลกๆ mushy มากๆ แต่พลอยชอบรสช๊อคโกแลตของอันนี้ รสขมเข้ม มีรส fruity จัดๆ เลย อร่อยดี
สึกแล้ว – Rose กลิ่นอ่อนเกิน Earl Grey รสชาติหมือนซูกัสส้ม กลิ่นหายไปไหน
๊Uganda ชอบไส้ของอันนี้ การใช้ Single Origin เนี่ย ถ้าพรีเซนต์ในเรื่องของ Single Origin ยังไงคนก็ไม่เข้าใจ ช็อคโกแลตจริง ๆ เปรี้ยวนะ ยิ่งไม่ผสมยิ่งเปรี้ยว มันเหมือนกาแฟแหละ แต่ในความเปรี้ยวมันต้องมีความหวานด้วย
โทนี่ ส. Panerai – เมื่อก่อน Earl Grey กลิ่นแรงกว่านี้ ส่วน Uganda นี่โหด (รส)ดำทะมึนมาเลยแถมซ่อนรส berry ไว้ข้างใต้อีก อาจกินยากเล็กน้อย แต่อันนี้ก็ได้ความคุ้มค่าในเรื่องไส้ เค้ามีปัญหาในเรื่องความ consistensy ของเปลือกอยู่นะ
Beanแปลว่าถั่ว – Uganda shellมันนิ่มมาก ถ้าเอาไส้มารวมกับShellของ MO น่าจะดี
The Mandarin Oriental Shop, Bangkok
https://www.facebook.com/MandarinOrientalShop
ชิ้นละ 49 บาท
ว่านน้ำ – หน้าตาน่าเอ็นดูเหมือนเบอร์เกอร์จิ๋ว เปลือกกรุบ ไส้เยอะเว่อร์แต่ทำให้สมดุลระหว่างไส้กับshellเสียไป เคี้ยวแล้วเหลือแต่ไส้เต็มปาก
รสCaramel มันไม่ใช่ Caramel มันคือ Butterscotch ชัด ๆ -_- .. ส่วนรสช็อคโกแลตนั้น.. ขอผ่าน
Amenochikara – มีดีที่ไส้เยอะสะใจ แต่เปลือกค่อนข้างกรอบ ไม่แน่ใจว่าได้พักขนมไว้ให้ตัว shell ซึมซับความชื้นจากไส้ขนมนานพอหรือเปล่า shell ส่วนที่นุ่มนิดๆข้างในที่ออกแนวนุ่มๆแบบเบาๆ ไม่หนึบ โดยส่วนตัวไม่ใช่เนื้อแบบที่ชอบ ไส้ชอกโกแลตก็โอเคแต่ไส้คาราเมลกลิ่นเหมือน butterscotch ไม่ผ่าน
@Petite_lapin – ล็อตที่ซื้อมานี้ มั่นใจได้เลยว่า ใหม่มาก … เพิ่งอบ เพิ่งทำกันสดๆ ร้อนๆ … ซึ่งผลคือ เปลือกมันจะกรอบเกินไป และความชุ่มชื้นของไส้ยังไม่ออสโมซิสเข้าไปที่เปลือกให้มันได้ความชุ่มชื้นพอดีๆ … เวลากิน ก็ต้องคิดด้วยว่า เราต้องรอให้ขนมทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งวัน หรือข้ามวันก่อน … เปลือกก็เป็นมาตรฐาน กรอบไปนิด หน้าเนียนสวย เนื้อฟู โครงสร้างสวย แต่พอมันกรอบไป มันก็จะเคี้ยวไม่หนุบหนับเท่าไหร่ มีความเป็นคุกกี้อยู่มาก … เราชอบยี่ห้อนี้ตรงที่ให้ไส้เยอะมากแหละ
>> Caramel – รสคาราเมลแบบลูกอม Werther’s Chewable หรือแนว Butterscotch หวานเลี่ยนโคตรๆ เหม่งไม่ชอบเลยยยยยยยย
>> Chocolate – กานาชเป็นช็อคโกแลตที่มี acidity สูงมาก กินยากหน่อยสำหรับหลายคน แต่ที่เลวร้าย คือ ใช้ช๊อคโกแลตอะไรไม่รู้ที่มี aftertaste ค่อนข้างแย่ … เหมือนพลาสติกหน่อยๆ หรือช็อคโกแลตถูกๆ ที่คิดไม่ออกว่า คืออะไร … แว่วว่า ใช้ช็อคโกแลตสวิสฯ แหละ แต่มันรสชาติแย่จริงๆ … เหม่งเคยเจอรสแบบนี้ในขนม cronut ของโอเรียลเต็ลด้วย
ปล. ขอให้ความเป็นธรรมว่า รสอื่นๆ ที่ได้ลองเมื่อวันก่อนก็อร่อยนะตัวเธอ … รส Elvis Presley อร่อยใช้ได้เลย รสยูสุ หรือ รส Bailey ก็อร่อยชวนฝัน … แต่รส Squid Ink หรือหมึกดำ นี่มันแหม่งๆ ชอบกล
สึกแล้ว – ช็อคโกแลตมันหวานไป ลาดูเร่หวานแล้วนะ นี่หวานกว่าอีก
โทนี่ ส. Panerai – MOB ดูจะเป็นคนที่ใจดีสุดเพราะให้เยอะมากและคงที่ รับประกันความหวานเจี๊ยบ Caramel รสเหมือน Butterscotch เลย นี่มัน Butterscotch ชัดๆ Werther’s Chewable นี่แหละ ใช่เลย ส่วนรสช็อคโกแลตมันเบอร์รี่เกินไป ไม่ proportionate MOB ควรใช้ของที่ดีกว่านี้
็Harrods
https://www.facebook.com/Harrods
ชิ้นละ 55 บาท เจ้านี้ทุกคนลงความเห็นว่ากล่องน่ารักสุด XD
ว่านน้ำ – Rose รสชาติประหลาดล้ำ ไส้ดึ๋ย ๆ เหมือนขนมอาลัวอย่างที่น้องBeanแปลว่าถั่วว่า กลิ่นกระโดดถีบโพรงจมูกเกิ้น ส่วน Earl Grey นี่งง หาความเป็นEarl Greyไม่เจอ นอกจากสีเทา(ฮา) ลงความเห็นเหมือนทุกคนว่าควรเปลี่ยนป้ายเป็นรสช็อคโกแลต ส่วน Lemon ก็ทั้งกลิ่นและรสจัดจ้านเกินไปเช่นกัน มีaftertaste หวานแปลก ๆ
Amenochikara – Texture ของ shell แต่ละรสไม่ค่อยเหมือนกัน รสRoseกลิ่นค่อนข้างรุนแรง shell แห้งไส้ในออกไปทางหนึบ ๆ รส lemon เปลือกแห้งเช่นกัน กลิ่นกับรสเลมอนค่อนข้างไปทางสังเคราะห์ รสที่กู้หน้าได้อย่างท่วมท้นคือ Earl grey ที่มีกลิ่นชา Earl grey บางเบาใน chocolate ganache เข้มข้น (น่าจะตั้งชื่อว่า Chocolate & Earl grey)
@Petite_lapin – เข้าใจตรงกันนะก๊ะว่า ลุงแฮร์รอดส์ไม่มีครัวทำขนม เกือบทุกอย่างใช้วิธีจ้าง local ทำนะก๊ะ … คุณภาพไม่แน่นอน บางรส เปลือกก็โอเค บางรสก็ไม่ไหวเลย แล้วเราก็ไม่แน่ใจว่า การคุมคุณภาพของเค้ามันขนาดไหน เพราะ 2 ใน 3 รสที่เราลองนั้น เป็นกลิ่นสังเคราะห์โคตรๆ แบบทุกคนกินเข้าไปแล้วแบบ “ตรูว่า รสนี้คุ้นๆ มีขวดกลิ่นนี้อยู่ที่บ้าน”
>> Earl Grey – เอิร์ลเกรย์ที่จะชนะทันที ถ้าเข้าประกวดหมวด “รสช็อคโกแลต” กานาชรสเข้มมาก เป็นดาร์กช็อคโกแลตเข้มข้น มีกลิ่นชาเอิร์ลเกรย์เบาบางมากๆ อยู่ข้างหลัง ชนิดต้องตั้งใจกินกันสุดๆ … จับคู่ช็อคโกแลตนมกับชาเอิร์ลเกรย์จะเข้ากันมากกว่า (ดังเช่น เค้ก Antoinette ของร้านชื่อเดียวกันนี้ที่สิงคโปร์ … อร่อยยยย)
>> Rose – กลิ่นสังเคราะห์โคตรๆ กลิ่น 1 ขวด ทำได้เป็นพันชิ้นเลยมั้ง … ไส้มันหยุ่นๆ หนึบหนับไปหน่อย มีคนบอกว่า เหมือนกินขนมอาลัว
>> Lemon – ตรูมีกลิ่นนี้อยู่ที่บ้าน!!! มันใช่เลย เพราะตรูเคยทำขนมแล้วใส่อีกลิ่นนี้เพิ่มลงไป กลัวเปลือกมะนาวไม่พอ … แต่ต้องทิ้งหมดเลย เพราะมันหอมแปลกๆ กลิ่นสังเคราะห์เลี่ยนๆ … ไม่ผ่านนะฮะ กลิ่นเหมือนกันเมนทอสรสมะนาว
สึกแล้ว – Rose มันผ่านการบ่มมาเลยจุดที่ไส้กับ shell มันเข้ากันดีไปแล้ว
Earl Grey ก็ควรจะเป็น Milk Choc มากกว่าที่จะเป็น Dark Choc ส่วน Lemon นี่เหมือนชีสเค้กเลย จริง ๆ เค้าน่าจะทำกลิ่นนี้ได้ดีนะ
โทนี่ ส. Panerai – ไส้ Rose มันเหมือนMarzipan ตัวshellนุ่มเกิน หายไปเลย ไม่มี crisp ใด ๆ เหลือเลย
Earl Grey ควรจะ light กว่านี้ ส่วน Lemon นี่ไส้ไหลกันเลย ยังกะ lemon curd เปรี้ยวไป artificial มาก
Beanแปลว่าถั่ว – ไส้หมือนอาลัว
Fauchon
https://www.facebook.com/FauchonThailand
ชิ้นละ 95 บาท เป็นเจ้าเดียวที่มีเจลน้ำแข็งให้มาด้วย ใส่ใจดีมาก นำเข้าจากฝรั่งเศส
ว่านน้ำ – ว่าเปลือกMOB กรุบแล้ว มาเจอโฟชองนี่กรุบกว่าถึงขั้นกรอบร่วน รส Caramel เค็มโดดไปนิด รส Lemon ทำได้ดีสุดในบรรดาแบรนด์ที่ชิมทั้งหมด กลมกล่อมดีมาก ส่วน Chocolate ไม่มีอะไรน่าฝันถึง
Amenochikara – Fauchon ทำ flavoring ของรสต่างๆได้ดีมาก โดยเฉพาะรส lemon หรือรสคาราเมลเข้มข้นและกล้าทำเค็มค่อนข้างมากอาจมีคนไม่ชอบได้(ส่วนตัวเราชอบ)แต่ก็ยังได้รสคาราเมลจริง ๆ ไม่ได้ปรุงแต่งจนเพี้ยน เสียตรงเปลือกกรอบร่วนและแห้งมากจนงงว่าร้านระดับนี้ปล่อยหลุดมาได้ยังไง หรืออาจจะเป็นเรื่องของระบบการขนส่ง
@Petite_lapin – การขนส่งขนมมาจากฝรั่งเศส ทำให้ขนมเสียสภาพไปเยอะ เปลือกกรอบเป็นขนมผิง แตกร่วน แห้ง ไม่ชอบเลย ไส้ยังเสียสภาพ ค่อนข้างแห้ง แต่รสอย่างรสมะนาว ก็ทำได้ค่อนข้างดี
>> Caramel – รสออกเป็น salted caramel มากกว่า ติดขมปลายนิดๆ ชอบไส้ แต่เกลียดเปลือกขนม
>> Lemon – น่าจะเป็นรสมะนาวที่ดีที่สุดเท่าลองในครั้งนี้ เปรี้ยวกำลังดี บาลานซ์กับรสหวานพอดีๆ แต่แห้งไปนิด ตามสูตร
>> Chocolate – กินแล้ว—- … นอกจากจะ เปลือกเป็นขนมผิงแล้ว ไส้ยังเป็นรสไมโล …. เหมือนกินขนมช็อคโกแลตไมโล
สึกแล้ว – เก็บไว้นานไปนะ แต่รสคาราเมลแบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่ารสคาราเมล ส่วนของMOBน่ะ บัตเตอร์สก็อต.. รสLemon ทำได้ดีนะ เสียดายเรื่องของshell
โทนี่ ส. Panerai – Shell ของ Fauchon คล้ายขนมผิง/หน้านวลร่วนไป รสช็อคโกแลตเหมือนเอาไมโลแท่งมาบด แล้วใส่ครีมไปหน่อย เพื่อให้ dilute ส่วน Lemon นี่ Fauchon ชนะไปในเรื่องของรส
Ladurée
https://www.facebook.com/pages/Laduree/275831179272668
ชิ้นละ 120 บาท นำเข้าแน่นอน
ว่านน้ำ – Texture ของ shell สัมผัสได้ถึงความเป็นอัลมอนด์อย่างชัดเจน จำไม่ได้ว่า LD ที่ญี่ปุ่นเป็นเหมือนกันรึเปล่า (อันที่จริงก็ไม่แน่ใจว่าLD มีโรงงานที่ญี่ปุ่นไหม วันหลังอาจต้องถามดู) Rose ซึ่งเป็นรสชูโรงของแบรนด์ทำได้อย่างละมุนไม รส Veneฯ .. กินแล้วไม่มีอะไรให้ฝันถึงเช่นกัน ส่วน Lemon .. มันมีอะไรผิดพลาดรึเปล่า???
Amenochikara – Laduree ชนะเลิศในแง่ของTexture ตัว shell กรอบนอกนุ่มใน เนื้อเต็ม(แม้ว่าเนื้อขนมด้านในของตัว shell จะนุ่มแบบฟูๆ ไม่หนึบเท่าของ PH) flavoring ก็ดี กินรส chocolate ก็ได้ chocolate (เว้นแต่รส lemon ที่ออกจะแปลกๆสักหน่อย) ข้อเสียคือแพงกว่าเจ้าอื่นพอสมควรและสัดส่วนไส้ในก็น้อยไปนิด
@Petite_lapin – โดยรวมแล้ว ชอบเปลือกขนมของ Laduree ที่สุด เนื้อจะหยาบกว่าของ MO Bangkok และ Dhara Dhevi หน่อยนึง … เหมือนกินมะพร้าวๆ แต่มีความฟูที่ดี เบา ชุ่มชื้น กัดแล้วไม่แตกร่วน ไม่ย้วย หนุบหนับกำลังดี เนื้อดีมาก … ไส้ก็ดีบ้าง แย่บ้าง ไส้ครีมไม่ค่อยเวิร์ก … ที่งงมาก คือ ปาดไส้มาไม่เท่ากัน เกลี่ยไม่เท่าบ้าง หรือบางอันไส้หนา บางอันไส้น้อย
>> Rose – ชอบรสนี้มาก เบา ฟู หอมน้ำกุหลาบคุณภาพดี ชวนฝันดี
>> Chocolate – ไส้บางไปนะ … หากลิ่นไม่เจอ … เฉยๆ
>> Lemon – ไส้เป็นแนวครีม รสจะเหมือนกินชีสเค้กมะนาว รสมะนาวเบาบางพอสมควร กินได้แบบเบาๆ ไม่คิดเยอะ ไม่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด มะนาวผู้ดี
โดยรวมแล้ว ชอบเปลือกของ Laduree ชอบปริมาณไส้ของ Mandarin Oriental และชอบความสร้างสรรค์ของรสชาติของ Dhara Dhevi (สำหรับรสอื่นๆ ที่เคยกินอ่ะนะ) ถ้าจับสามอันมารวมกันได้จะดีมาก … แต่ถ้าเทียบกับราคาแล้ว Laduree มันโหดจนต้องถามตัวเองว่า ชอบกินมากาฆรองมากจนยอมจ่ายมั้ย? ถ้าไม่ชอบขนาดนั้น ก็มาเลือกกินอีกสองยี่ห้อที่เหลือก็ได้ … ซึ่งเหม่งไม่ชอบขนาดนั้นไง … เราก็แฮปปี้กับรส Black Truffle ของดาราเทวี อะไรแบบนี้พอ … แต่ถ้าใครอยากสร้างความประทับใจให้สาว ก็ทุ่มทุนเลย … ซื้อ Laduree เลย … สาวปลื้มมมมมม
หรือใครจะซื้อ Laduree อันที่แปะทองคำเปลวทั้งชิ้น มาฝากนักวิเคราะห์ทองคำตาดำๆ คนนึง ซักกล่องสองกล่อง ก็ยินดีนะฮะ
สึกแล้ว – รส Rose ใช้ Rose Water ดี ทำให้ซอฟต์กว่า ละมุนกว่า แต่รส Lemon runny เกิน
โทนี่ ส. Panerai – Shell ต้องยกให้ Laduree เลย ทั้งในแง่ของ consistency และ feel ที่มีเปลือกชัดเจน เนื้อฉ่ำหนึบ ในส่วนของไส้ น่าแปลกที่ Laduree ให้ไส้ในบางชิ้นน้อยจนขาด balance ไป รสRose กุหลาบต้องยกให้ Laduree แน่นอนเพราะความหอมละมุนอ่อนๆของเค้า กลิ่นหอมหวานกว่าแบรนด์อื่น แล้วมันชัดกว่า แต่ว่าอันนี้ที่สังเกตได้คือเวลากินของ Laduree กี่ทีก็เหมือนกันคือรู้สึกเหมือนเคี้ยวมะพร้าว เพราะ texture มันหยาบกว่า เนื้อมันหยาบจริง ๆ เป็นที่อัลมอนด์เนี่ยแหละ อย่างรส Chocolate โกโก้เยอะ แต่กินยังไงก็ยังรู้สึกเหมือนมะพร้าว เพราะตัวอัลมอนด์ ส่วนรส Lemon .. ออกมาเป็นชีสเค้กเปรี้ยวเหลวๆ
ขำ ๆ ท้ายสงคราม.. เนื่องจากมาการงเหลืออยู่รสละเสี้ยว เราจึงทำการ blind taste กันขำ ๆ ปรากฎว่า Lemon ของ Laduree นี่ขลังมาก กินแล้วรู้เลยว่าใช่ ส่วน Rose ของ Dhara Dhevi น่าแปลกใจว่าพอกินแยกแล้วกลิ่นของ Rose กลับชัดเจนขึ้น เราคุยกันว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าตอนลองนั้น เราเริ่มจาก Rose ของ Harrods ซึ่งกลิ่นค่อนข้างฉุนก่อน พอมากินของ Dhara Dhevi ซึ่งกลิ่นรสอ่อนกว่า จึงถูกกลบไปเสียสิ้น .. ตัวว่านเองเจอไปชิ้นนึง ทายว่า Choc ของ MOB ปรากฎว่าเป็น Earl Gery ของ Harrods จ้า 555 ขำ ๆ กันไป
ครั้งหน้าคุยกันว่าอาจจะ blind taste แต่คงต้องหาคนนึงที่ไม่คิดจะเข้าร่วมเป็น Judges Panel เป็นคนเตรียมการทั้งหมด รวมถึงอาจจะเปลี่ยนจากการหั่นเป็นการบิ เวลาเคี้ยวอาจจะสัมผัส texture ได้ดีขึ้น
สรุปส่งท้าย – อาจจะฟันธงไม่ได้ในดาบเดียวว่ามาการงร้านไหนดี/แย่สุด เพราะแต่ละร้านก็มีความดีและความด้อยเป็นของตัวเองต่าง ๆ กันไปในแต่ละรส แม้แต่ในเรื่องของshell และไส้ ก็ยังมีรสที่แต่ละแบรนด์ทำได้ดี/ด้อยต่างกันไปอีก.. รักรสไหน ชอบรสไหน คงต้องลองกันดูค่ะ แล้วมาแชร์ความคิดเห็นกันมั่งนะ =)
ขอบคุณเพื่อน ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่มาร่วมเป็น Judges Panel จำเป็น คราวหน้ามารวมตัวก่อสงครามอะไรอีกที 555
ติดตามว่านน้ำกันได้ที่ https://www.facebook.com/wannamdotcom เช่นเคยนะคะ ^_^