เมื่อวันที่ 03.10.12 ที่ผ่านมา รายการ“เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย” ตอนที่ว่านร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินออกอากาศ จึงขอนำบรรยากาศในวันนั้นมาเล่าสู่กันฟังนะคะ = )
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาค่ะ มีการพูดคุยกับทางรายการว่าจะให้ว่านไปเป็นคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันระหว่างIron chef กับ เชฟผู้ท้าชิง จากนั้นก็มีการนัดหมายขอคิวถ่ายทำกันมาตลอด จนมาลงตัวเมื่อวันที่ 17.09.12 นี้เอง
สถานที่ถ่ายทำอยู่นู่นนนนนน เลยค่ะ.. รามคำแหง164 แถวๆมิสทีน เจ้ากรรมว่าวันนั้นก็เป็นวันที่ฝนตกหนักมากกกกก.. ดีที่ได้เพื่อนเป้เป็นสารถีที่น่ารัก ขับรถไปให้ ไม่งั้นต้องฝากชีวิตไว้กับพี่แท๊กซี่เลยแหละ
พอไปถึงสตูดิโอก็ตามธรรมเนียมค่ะ ฟิตติ้ง แต่งหน้า ทำผม.. มีเตรียมชุดไปอยู่เพราะทางทีมงานบอกขอชุดสีสันสดใส แต่สงสัยจะไม่สีสันพอ เพราะส่วนมากชุดว่านจะสีดำหรือสีเข้มซะเยอะมาก พึ่งรู้ตัวเหมือนกันก็ตอนรื้อตู้หาชุดไปถ่ายทำนี่แหละ 555 ก็ฟิตติ้งเปลี่ยนอยู่หลายชุด จนได้ชุดของทางรายการ เป็นสีน้ำเงินเด่นเด้งมากก..
หลังจากนั้นก็รอคิวเข้าฉากค่ะ เข้าใจว่าในวันเดียวกัน จะเป็นการถ่ายการประลองแข่งขันระหว่างIron chef กับ เชฟผู้ท้าชิงหลายๆ คู่ไปเลย เพราะเห็นเชฟเอียน เชฟชุมพลเดินไปมาอยู่เหมือนกัน
ในวันนั้น เป็นการประลองระหว่าง เชฟผู้ท้าชิงได้แก่เชฟยาสุโนริ และ Iron chef เชฟบุญธรรม วัตถุดิบลับคือปลาฮามาจิ จิ จิ..
ซึ่งเชฟสุนามิ ยาสุโนริ (Sunami Yasunori)นี้ เป็นสุดยอด“แชมป์ปลาทูน่า” จากรายการ “ทีวีแชมป์เปี้ยน”
ปัจจุบันเป็น Executive Chef แห่งร้านอาหารญี่ปุ่น UO-YASU ใน Nihonmura ทองหล่อ13
จากการที่ได้ไปอยู่ในสตูดิโอ ชมการถ่ายทำชนิดเกาะติดข้างเวที ทำให้ได้รับรู้ถึงความตั้งใจและความพยายามของทีมงานรายการ”เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย”
ในตอนบรีฟเรื่องการให้ความเห็นเรื่องอาหาร ก็ได้รับบรีฟสั้นๆ แค่ว่า “บรรยายแบบให้คนทางบ้านได้รับรู้สึกรสชาติไปด้วย ไม่ต้องยาวมาก” .. แค่นี้เลย (^^’ )
ไม่มีเตี๊ยม ไม่มีกำกับ ไม่มีบอกบท ไม่มีมากไม่มีน้อยไปกว่านี้ เล่นเอางงๆ ไปเหมือนกัน ว่าสั้นง่ายแค่นี้เลยนะ.. โอเคจัดให้ 😉
ในเทปนั้นคุณภาสันต์ ( ปิ่นโตเถาเล็ก )ไม่ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินด้วยนะคะ เพราะเธอแพ้ปลาฮามาจิค่ะ
หลังจากทั้งทางเชฟยาสุโนริ และ Iron chef เชฟบุญธรรมทำอาหารเสร็จสิ้น ( เล่นเอาลุ้นไปด้วย ) ก็ได้เวลาชิมแล้วล่ะค่า O(≧∇≦)O
เริ่มกันที่อาหารของทางฝั่งเชฟสุนามิ ยาสุโนริ เชฟผู้ท้าชิงก่อนนะคะ
จานแรก “สลัดซูชิ 3 มิติ กับฮามาจิ 2 สไตล์”
จานนี้เป็นที่น่าเสียดายว่าข้าวแฉะค่ะ อันที่จริงก็คงเพราะมีน้ำสลัด พอต้องทำล่วงหน้าทิ้งไว้จึงทำให้ข้าวแฉะ
อีกทั้งว่านเจอก้างปลาในส่วนของปลาฮามาจิอะบุริลูกเต๋าที่โรยหน้า และหอยเชล์ที่ใส่มา รสชาติไม่ค่อยดีค่ะ
อันที่จริงก็เป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหลายๆ จุด แต่พอรวมกันแล้วทำให้อาหารจานนี้ไม่ผ่านสำหรับว่านค่ะ
จานที่ 2 ของเชฟผู้ท้าชิง “ปลาฮามาจิย่างใบไผ่รมควัน”
จานนี้เป็นจานที่เชฟผู้ท้าชิงทำได้ดีนะคะ.. การตกแต่งดูดี สีสันสวยงาม และยังได้กลิ่นหอมของใบไผ่..
ถือว่าเป็นการเสพโดยอายตนะทั้ง 5 สมกับที่เชฟยาสุโนริได้ลั่นวาจาไว้..
จานนี้มีเรื่องฮาๆ นิดนึง.. ทีแรกถ่านไม้ที่รองมาข้างล่าง ร้อนไม่ค่อยพอค่ะ ใบไผ่จึงไม่ส่งกลิ่นหอม พอเชฟยาสุโนริ นำถ่านมาเติม
ทีนี้ล่ะหอมกลิ่นใบไผ่ฟุ้งเลยค่ะ เล่นเอากรรมการแทบจะแปลงร่างเป็นหลินปิงไปตามๆ กัน = )
จานที่ 3 ของเชฟผู้ท้าชิง “ขุมทรัพย์ของทะเลกับปลาฮามาจิ”
จานนี้เป็นจานที่เชฟยาสุโนริทำได้ดีที่สุดค่ะ การตกแต่งจัดจานทำได้น่าประทับใจ มีลูกเล่นเก๋ไก๋
รสชาติดีมาก ดึงความเป็นปลาฮามาจิมาได้โดยไม่ต้องพยายามอะไร เนื้อปลามีความหวานตามธรรมชาติ.. นุ่มนวล
ถ้าให้คะแนนแยกแต่ละจานได้ จานนี้ว่านให้เต็มค่ะ
จานที่ 4 ของเชฟผู้ท้าชิง “ฮามาจิชาบูในน้ำนมถั่วเหลือง”
จานนี้รสชาติดีนะคะ การใช้ท้องปลาที่ค่อนข้างมัน มาล้างความมันส่วนเกินออกด้วยน้ำนมถั่วเหลืองที่กลิ่นรสไม่แรงมากจนกลบความเป็นปลาฮามาจิ ถือว่าทำได้ดีค่ะ
มาเสียเอาตรงที่การแล่ปลา ซึ่งสามารถเห็นได้จากในรูปค่ะ จานของว่านนี่สภาพปลาเยินประมาณ 4 ใน 6 ชิ้นค่ะ ไม่สามารถมองข้ามได้จริงๆ (-_-‘ )
มาดูอาหารของทางฝั่ง Iron Chef กันบ้างค่ะ
จานแรก “ปลาฮามาจิหมักสาหร่ายทะเลลึกราดซอสลูกพีซ”
ถือว่าเชฟบุญธรรมเปิดตัวมาได้อย่างสวยงามค่ะ ทั้งในด้านของการจัดจาน และความคิดสร้างสรรค์ที่นำปลาฮามาจิมาเข้าคู่กับซอสลูกพีช
ซึ่งมีความหวานเจือเปรี้ยวนิดๆ ช่วยเบรกความมันของปลาได้ค่ะ มีความกรุบกรอบของแตงกวามาช่วยเสริม รับประทานแล้วสดชื่นดีมาก
จานที่ 2 “แก้มฮามาจิย่างซอสไข่แดงหมักมิโสะธัญพืช”
เช่นกันค่ะ ถ้าเมนู “ขุมทรัพย์ของทะเลกับปลาฮามาจิ” ของเชฟยาสุโนริจะได้คะแนนเต็มจากว่าน จานนี้ถ้าแยกให้คะแนนแต่ละจานได้ ก็ได้คะแนนเต็มจากว่านไปเช่นกัน..
การจัดจานทำได้อย่างสวยงาม มีการเล่นคำระหว่างใบส่องฟ้า กับ Tsukimi Yaki อันหมายถึงการชมจันทร์..
ซึ่งการ Tsukimi Yaki หรือการทาไข่แล้วย่างนี้ ช่วยเพิ่มรสสัมผัสหนึบๆให้กับเนื้อปลาย่าง และช่วยไม่ได้เนื้อปลาแข็งกระด้างเวลาโดนความร้อน
เกาลัดที่ไว้รับประทานในตอนท้าย ก็มีความหวานจัดดีมากค่ะ
จานที่ 3 “ท้องฮามาจินึ่งสมุนไพร”
จานนี้ก็เป็นอีกจานที่เชฟบุญธรรมทำได้ค่อนข้างดีค่ะ จุดเด่นคือความนุ่มละเอียดหวานของเนื้อปลา
และรสชาติของน้ำซุปที่ได้รสของสมุนไพรเด่นชัดคล้ายซุปของทางจีน หอม รสชาติล้ำลึกมาก
เต้าหู้ตับปลาก็รสชาติเข้มข้น สร้างความแตกต่างของรสชาติระหว่างรสชาติอ่อนเบาของเนื้อท้องปลา และรสเข้มข้นของเต้าตู้ตับปลาค่ะ
จานที่ 4 “หม้อไฟสไตล์ฟุกุโอกะ”
จานนี้อันที่จริงแล้วรสชาติไม่ได้โดดเด่นมาก อาจจะเพราะว่าทั้งในเรื่องของน้ำซุปและการดึงรสชาติความอร่อยของเนื้อปลา จานก่อนหน้านี้ก็ทำได้ดีกว่า
จะมีที่ฮาๆ น่าเขียนถึงก็คือน้ำจิ้มค่ะ น้ำจิ้มตับไก่ข้นๆ ที่ถูกอุ่นร้อนๆ อยู่เนี่ย มันปะทุตลอดเลย ปะทุแรงด้วย กรรมการต้องกินไปคอยหลบลาวาตับไก่กันไป 555
การให้ความเห็นของคณะกรรมการนั้น ในแต่ละจาน กรรมการจะไม่ได้คอมเนต์กันทุกคนค่ะ
ก็แล้วแต่คนกำกับคิวว่าจะเชิญให้กรรมการท่านไหนให้ความเห็นค่ะ ยังกะสอบปากเปล่า 555
กรรมการเองก็ต้องคอยเตรียมพร้อมและตื่นตัวตลอดเวลาค่ะ.. สนุก(แบบโหดๆ)ดีเหมือนกัน (^^’ )
ตาดูการจัดจาน.. สวยงามไหม สร้างสรรค์ไหม สีสันเป็นยังไง มีข้อบกพร่องยังไงรึเปล่า
จมูกรับกลิ่น.. กลิ่นหอมไหม กลิ่นน้ำซุป กลิ่นคาวปลา กลิ่นดี กลิ่นไม่ดี..
ต่อมรับรสแยกแยะ.. เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด จืด ขม เฝื่อน ฝาด..
กระพุ้งแก้มและลิ้นแยกแยะรสสัมผัส textureเข้ากันไหม ตีกันเองหรือเปล่า นุ่มนวลดี หรือขยากปากขยากลิ้น..
หู.. คอยฟังว่าจะถูกเรียกชื่อให้คอมเมนต์ไหม และทั้งหลายทั้งมวลนี้ สมองก็ต้องคอยแยกแยะ วิเคราะห์ ประมวล และรวมผลสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วไปด้วย
โหดดดดด.. เหมือนกันนะ ขอบอก.. เป็นกรรมการรายการนี้เนี่ย 555 แต่สนุกดีจริงๆ ค่ะ
ในส่วนของการลงใบให้คะแนน ใบให้คะแนนจะไม่ได้แยกการให้คะแนนเป็นแต่ละจานนะคะ
แต่จะแบ่งเป็นหมวด น่าจะประมาณ 3 หรือ 5 หมวด เป็นการตกแต่ง รสชาติ การดึงรสชาติวัตถุดิบ( ประมาณนี้.. ว่านปลาทองค่ะ แหะแหะ )
แล้วก็แบ่งเป็นแค่ว่า เชฟกระทะเหล็ก/เชฟผู้ท้าชิง ..
เวลาคะแนนออกมา จึงเห็นภาพค่อนข้างยากค่ะ ว่าทำไมแพ้ ทำไมชนะ เพราะพอรวมค่าออกมาแล้ว เป็นค่ารวมแบบ “โดยรวม” มากๆ
แต่ก็เข้าใจทางรายการนะคะ จะให้มานั่งเคาะ SPSS ก็เกินไป๊ (^^ )
อันที่จริงไม่ใช่ว่าเชฟยาสุโนริผู้ท้าชิงไม่เก่งนะคะ เพียงแต่ในความเห็นว่าน มีหลายจานที่พลาดมากกว่าอย่างที่กล่าวไปข้างต้น
และมีหลายจานที่เชฟบุญธรรมทำได้ดีกว่าในเรื่องของรสชาติ
ยิ่งในส่วนของการจัดจาน ว่านคิดว่าโดยรวมเชฟบุญธรรมทำได้ดีกว่า Iron Chef จึงเป็นฝ่ายชนะไปในที่สุด
หลังประกาศผล ทางร้าน Uoyasu ก็มีการพูดคุยกับว่านเหมือนกันค่ะ ตอนทางร้านนำ Shikishi มาให้เซ็น ( คล้ายๆ ป้ายอวยพรร้าน/เซ็นชื่อ )
ว่านก็ชี้แจงไปว่า 1 2 3 4 มันเป็นอย่างนี้นะ อย่างจานแรกเนี่ย มันมีข้อเสียยังไง จานที่ดี ดียังไง จานที่พลาด พลาดยังไง
แต่เนื่องด้วยเวลาในการถ่ายทำที่ค่อนข้างจำกัด มีการบันทึกเทป และอะไรหลายอย่าง อาจทำให้สื่อออกมาได้ไม่เต็มที่
ว่าเพราะอะไร ทำไมใครถึงชนะถึงแพ้
ว่านเองก็เคยอยู่ในฐานะคนดูเต็มขั้นมาก่อน
ก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมเชฟบางคนดูทำได้ดีกว่า แต่ไหงท้ายที่สุดแล้วถึงแพ้
แต่พอได้รับเกียรติมาเป็นกรรมการเอง ก็เข้าใจได้.. สำหรับว่าน ทุกอย่างมีที่มาที่ไปค่ะ = )
สามารถเลือกรับชมรายการย้อนหลังได้ตามนี้เลย ช่วงเวลาแห่งการชิมจะอยู่คลิปที่ 5 นะคะ
ขอบคุณรูปจากเพื่อนเป้ และรูปอาหารจาก https://www.facebook.com/ironchefthailand
ขอบคุณทางรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยที่ให้เกียรติเชิญว่านน้ำไปเป็นกรรมการนะคะ สนุกมากค่ะ = )
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ สวัสดีค่ะ